Vacation time in Taichung ช่วงเวลาพักร้อนที่ไทจง

Story by Editorial Staff

สิ่งแรกที่หลายคนเดินทางมาถึงไทจง (หรือไถจง) แล้ว นึกได้ก็คือ ภาพของหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีกำแพงบ้านสีสันสดใส โดดเด่นสะดุดตาที่ชื่อว่าหมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village)

ต่อด้วยสถานที่ท่องเที่ยวแถวสถาปัตยกรรม อย่างเช่น

ภาพของอาคารที่สุดล้ำด้วยการออกแบบที่แปลกตาของโรงละครแห่งชาติไทจง (National Taichung Theater)

โบสถ์รูปทรงคล้ายการพนมมืออย่างโบสถ์ LUCE MEMORIAL CHAPEL ที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัย Tunghai

ตลอดจนการช้อปปิ้งสนุกสนานกับตลาดกลางคืนที่กว้างใหญ่อย่างตลาดฟ่งเจี่ย (Feng Chia Night Market) ตามด้วยการชิมไอศกรีมหลากรสที่ มิยาฮาระ (Miyahara) หรือลิ้มลองต้นตำรับชานมไข่มุกเจ้าแรกที่ชุนสุ่ยถัง (Chun Shui Tang) ทั้งหมดที่พูดมา น่าจะเป็นโปรแกรมพื้นฐานที่ทุกคนที่มาไทจงมักทำกัน

แต่สำหรับผมหลังจากที่แวะเวียนมาไทจงหลายครั้ง ด้วยการเดินทางที่แสนสะดวก จากสายการบินไทยเวียตเจ็ทที่บินตรงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สู่ท่าอากาศยานไทจง ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงไทจงแล้ว แถมเวลาของเที่ยวบินยัง แสนจะโอเค ด้วยเที่ยวบินขามา ออกช่วงเช้ามาถึงไทจงทันกินกลางวันแล้วเที่ยวต่อได้ ขากลับเที่ยวบินก็ไม่ดึกมาก เช็กเอาต์จากโรงแรมแล้วเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ ช่วงค่ำ ทันได้เก็บของซักผ้าเตรียมไปทำงานวันต่อไปได้แบบไม่เหนื่อย ดังนั้นการมาพักผ่อนที่ไทจง เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ผมเลือกเดินทางมาหากต้องการเวลาพักร้อนเสมอ มาครั้งนี้

ผมจะพาออกไปสัมผัสวิถีชีวิตและธรรมชาติของไทจงในเส้นทางสายธรรมชาติที่จะเปลี่ยนการพักร้อนของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้น กับเส้นทางสัมผัสธรรมชาติไทจงกันแม้ที่ไต้หวันซากุระจะไม่เฟื่องฟูเต็มเมือง อย่างเช่นที่ญี่ปุ่น แต่ที่อู่หลิงฟาร์ม (Wuling Farm) แห่งนี้

ความสวยของซากุระ ผมการันตีได้เลยว่าไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระหว่างปลายเดือน ก.พ. – ต้นเดือน มี.ค. เป็นช่วงที่ซากุระของที่นี่กำลังเบ่งบาน ด้วยพื้นที่กว่า 4,375 ไร่ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาที่ไม่ว่าคุณมองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยความสวยงามของสีชมพูของต้นซากุระ

แต่ถ้าใครมาช่วงปลายปีประมาณปลายเดือน ต.ค. – ธ.ค. ก็ไม่ต้องเสียใจว่าจะไม่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ เพราะที่อู่หลิงฟาร์มพร้อมเสิร์ฟสีสันสดใสของใบไม้ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาครบหมดทั้งเขียว เหลือง ส้ม แดง ตัดกับสีของท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มได้สวยบาดใจเลยทีเดียว อากาศก็กำลังเย็นสบาย ทำให้หลายคนนิยมมานั่งปิกนิกภายใต้ต้นไม้กันอย่างมากมาย


ส่วนการเดินทางสามารถไปได้ทั้งรถส่วนตัว หรือนั่งรถสาธารณะไป สามารถนั่งรถเมล์สาย
Kuo-Kuang จากสถานี Yilan: Kuo-Kuang ไปได้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที ก็ถึง
หน้าอู่หลิงฟาร์มเลย

จากอู่หลิงฟาร์มถ้าขับรถไปประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เป็นฟาร์มอีกหนึ่งแห่งที่อยากจะ แนะนำนั่นคือ ฟาร์มฟูโซ่วซาน (Fushoushan Farm) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง ภูเขาเหอหวน (Hehuan) และภูเขาหิมะ (Snow) ที่ฟาร์มแห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 8 หมื่นเอเคอร์

ประกอบไปด้วยสวนผลไม้ ไร่ชา และสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ หากใครได้มาที่นี่ ผมแนะนำว่าควรมาสัก 3 วัน 2 คืนเป็นอย่างน้อย เพราะที่เที่ยวเยอะมาก

จุดแรกคือ สวนอนุสรณ์สถานฮวาไท่ หรือสวนอนุสรณ์สถานการแลกเปลี่ยนด้านการเกษตรไทย-กลุ่มคนเชื้อสายจีน ที่นี่เป็นเหมือนอนุสรณ์ที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีของคนไทยและคนไต้หวัน ย้อนไปตั้งแต่อดีตเริ่มต้นจากการที่หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เสด็จไปยังไต้หวัน และสนพระทัยงานการปลูกพืชเขตหนาวของฟาร์ม ซึ่งเป็นหมู่บ้านบนภูเขาเป็นอย่างมาก ต่อมาเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2513 คุณซง ชิง ยวิน รองผู้จัดการฟาร์มได้เดินทางมาไทยเพื่อศึกษาสภาพพื้นที่โครงการหลวง 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือทางวิชาการระหว่างโครงการหลวงและไต้หวัน หลังจากนั้นทางฟาร์มฯ และโครงการหลวงก็มีการส่งเจ้าหน้าที่แลกเปลี่ยนกันไปมาตลอดมา

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีฟาร์มผลไม้และสวนดอกไม้เยอะมาก ในแต่ละช่วงของปีก็จะมีทั้งผลไม้และดอกไม้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปอย่างเช่นช่วงกุมภาพันธ์ซากุระที่นี่ก็สวยงามมาก สิงหาคมเป็นช่วงเก็บลูกพีช หากมาช้าไปอีกนิดมากันยายนก็จะมีลูกสาลี่ให้เก็บกัน ไฮไลต์ของสวนผลไม้ที่นี่อยู่ที่ต้นราชาแอปเปิล ต้นราชาสาลี่หรือลูกแพร์ และต้นราชาพีชหรือลูกท้อ เหตุที่เรียกว่า ราชา เพราะใน 1 ต้นนั้น ประกอบไปด้วยสายพันธุ์ผลไม้ชนิดนั้นๆ กว่า 40 สายพันธุ์ในต้นเดียว

แต่ถ้าใครมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ทั่วทั้งฟาร์ม จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดง ที่มาจากต้นเมเปิลและต้นไม้ที่รายล้อมผลัดใบ เปลี่ยนสีให้ได้ชมกัน ที่นี่ไม่มีรถสาธารณะผ่าน แต่จะมีรถรับส่งจากหลีซาน ถ้าหากพักกับทางฟาร์ม ซึ่งมีบ้านพักหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบกระท่อมสไตล์ยุโรป พื้นที่สำหรับตั้งเต็นท์ จัดแคมป์

หนึ่งในนั้นคือ อดีตบ้านพักของท่าน ประธานาธิบดีเจียง ไคเชก และภริยาของท่าน ซ่ง เหม่ยหลิง เนื่องจากที่นี่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาทำให้ อากาศจึงเย็นสบายตลอดปี ช่วงสายหรือบ่าย คุณสามารถเดินเที่ยวชมธรรมชาติรอบๆ ได้ อย่างเช่น

เส้นทางธรรมชาติซงหลิน ที่มีเส้นทางเดินธรรมชาติ มีดอกไม้ ต้นไม้นานาพรรณใกล้กันเป็นเส้นทางเดินท่องเที่ยวทะเลสาบหยวนหยาง (Yuanyang Lake) รอบทะเลสาบมีต้นเมเปิลรายล้อม ยามฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเห็นต้นไม้หลากสีตัดกับสีเขียวของแอ่งน้ำ

ทางฟาร์มมีจัดเก้าอี้ให้ได้นั่งชมวิวเพลิดเพลิน หรือจะเดินไปชมไร่ชาของฟาร์มที่สูงเหนือ ระดับน้ำทะเลกว่า 2,300-2,500 เมตร ชาที่นี่เป็นชาที่มีคุณภาพดีมาก เพราะปลูกด้วยระบบออร์แกนิก ในดินก็มีแร่ธาตุ วิตามินที่อุดมสมบูรณ์ อากาศก็บริสุทธิ์ และด้านบนจุดสูงสุดของฟาร์ม ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,614 เมตร สูงจนมองเห็นยอดเขาซานซีที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอกที่สวยงาม

บนจุดสูงสุดนี้มีสระน้ำที่เรียกว่า สระแห่งฟ้า (Tianchi Pond หรือ Heaven Pond) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หากมาที่นี่แล้วได้เดินวนซ้าย 3 รอบ และวนขวา 3 รอบ จะช่วยให้พลังชีวิตเราเพิ่มมากขึ้น ด้านหน้าของสระมีทางเดินไปยังแคมป์ และจุดชมวิวที่สวยงาม น่าตื่นเต้นที่สุด

ส่วนทางด้านหลังสระแห่งฟ้าจะเป็นศาลากวานกวัง (Daguan Pavilion) อดีตเป็นสถานที่พักผ่อนและทำงานของประธานาธิบดีเจียง ไคเชก และ ภริยาซ่ง เหม่ยหลิง อาคารเป็น 2 ชั้น ออกแบบให้แต่ละทิศยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน

ส่วนของชั้นที่ 1 เป็นห้องโถง ห้องสมุด และห้องพักผ่อนชั่วคราว บริเวณชั้น 2 มีระเบียงชมวิวด้านนอก และห้องประชุม โดยทั้งสี่ด้านล้วนเป็นกระจกใสทำให้เห็นภาพทั้งสี่ทิศได้ชัดเจน

กลับเข้ามาในตัวเมืองไทจง คุณสามารถมาสัมผัสธรรมชาติพร้อมกับรื่นรมย์ไปกับการจับจ่ายใช้สอยและเสพงานศิลป์ได้ที่ Calligraphy Greenway เป็นพื้นที่เปิดโล่งเต็มไปด้วยสีเขียว ของต้นไม้ใหญ่ ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แผน Green belt ของนครไทจง เมื่อปี ค.ศ.2007 Calligraphy Greenway ที่มีการบูรณะสร้างให้เป็นพื้นที่สีเขียวกลางนครไทจง

Taichung, Taiwan city skyline at sunset.

ถนนสายนี้ไม่ได้มีเพียงลานท่งุหญ้าขนาดใหญ่เท่านั้น ยังประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า โรงแรม และตามตรอกซอยต่างๆ ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกที่น่ารักแทรกตัวอยู่ เป็นมนตร์เสน่ห์ที่น่าสนใจมาก สำหรับผมเป็นเหมือนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่คุณสามารถหลบแสงสีของเมืองใหญ่และตึกระฟ้า มาสูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสผืนหญ้าสีเขียวได้ หรืออย่างสวนสาธารณะ Taichung Civic Square หรือลานCaowu Square ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในโซน Calligraphy Greenway แห่งนี้

ใกล้ๆ กันนั้นเป็นโซนสำหรับคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ และงานอาร์ตก็ว่าได้ เรียกว่า Fantasy Story เป็นซอยเล็กๆ ที่มีร้านค้า ช้อปที่ขายสินค้าแฮนด์เมดขนาดผมเป็นผู้ชายผมยังรู้สึกว่ามันน่ารัก น่าซื้อหาเต็มไปหมด ใกล้ๆ กันคือ CMP Block museum of arts เป็นพื้นที่กลางแจ้งขนาดย่อมที่เข้าถึงได้ง่าย มีนิทรรศการศิลปะหมุนเวียน มาแสดงทุกๆ เดือนครึ่ง

ปิดท้ายสัมผัสลมทะเลด้วยการไปเดินพื้นที่ชุ่มน้ำเกาเหม่ย (Gaomei Wetlands) เป็นพื้นที่อนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ที่อยู่ในเขตต้าเจี่ย มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ เต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติและเป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด เช่น นก ปลา ปู สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ฤดูหนาวยังจะมีนกอพยพมาปักหลักเป็นจำนวนมาก

ที่นี่เป็นที่นิยมของคนชอบปั่นจักรยาน และหนุ่มสาวที่มาพักผ่อนหย่อนใจ เดินไปตามสะพานไม้ที่ยาวสู่ทะเล จุดเด่นของที่นี่ นอกจากจะเป็นพื้นที่อนุรักษ์แล้ว ที่นี่ยังมีกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ แนะนำให้มาช่วงเย็น เพราะพระอาทิตย์ตกทีนี่สวยงามและโรแมนติกเป็นที่สุด

ไทจงยังมีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมาก และผมเชื่อว่าหากคุณได้มาสักครั้งคุณต้องอยากกลับมาอีกเรื่อยๆ อย่างผมเป็นแน่นอน

ขอขอบคุณ
สายการบินไทยเวียตเจ็ท

การเดินทางมาไทจง
– มีเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ไทจงด้วยสายการบินไทยเวียตเจ็ท มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ไทจง มีเที่ยวบินตรงทุกวัน
– เที่ยวบินขาไป ออกจากกรุงเทพฯ 09.00 น.ถึงไทจง 13.45 น. เที่ยวบินขากลับ ออกจากไทจง 14.30 น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)17.15 น. สนใจสำรองที่นั่ง ได้ที่ https://www.vietjetair.com
– จากไทจง สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูง รถไฟธรรมดาหรือรถบัสไปไทเปได้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0