ไหว้พระอารามหลวง
เรื่องและรูปโดยทีมงาน Vacationist
เริ่มต้นปีใหม่สำหรับคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ มักจะเลือกเอาช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาในการเดินทางไปเข้าวัด ไหว้พระ และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงทำบุญ กิจกรรมนี้ทำเพื่อให้พบเจอแต่ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าและสิ่งดีๆ ในชีวิตสำหรับปีที่กำลังมาถึงในวันปีใหม่นี้ตามคติความเชื่อของคนไทยที่นิยมปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน เราจะมาเชิญชวนไปไหว้พระขอพรที่วัดที่จัดว่าเป็นพระอารามหลวง ซี่งก่อนอื่นมารู้จักกันก่อนว่า พระอารามหลวงคืออย่างไร

พระอารามหลวง หรือ วัดหลวง คือ วัดที่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี สมเด็จพระยุพราช หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทรงสร้างหรือทรงบูรณปฏิสังขรณ์ เป็นส่วนพระองค์หรือทรงในนามท่านผู้อื่น และอารามอันพระบรมวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่สร้างปฏิสังขรณ์ทรงรับไว้ในความบำรุงของแผ่นดิน ภายหลังจึงหมายรวมถึงวัดราษฎร์ที่ที่ประชาชนสร้างหรือปฏิสังขรณ์ แล้วทรงพิจารณาเห็นสมควรยกย่องเป็นพิเศษก็ทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวงด้วย โดยพระอารามหลวงยังแบ่งเป็น

- พระอารามหลวงชั้นเอก ได้แก่ วัดที่มีเจดียสถานบรรจุพระบรมอัฐิ หรือเป็นวัดที่มีเกียรติสูง มี 3 ชนิด คือ ชนิดราชวรมหาวิหาร, ชนิดราชวรวิหาร, ชนิดวรมหาวิหาร
- พระอารามหลวงชั้นโท ได้แก่ วัดที่มีเจดียสถานสำคัญ มี 4 ชนิด คือชนิดราชวรมหาวิหาร, ชนิดราชวรวิหาร, ชนิดวรมหาวิหาร, ชนิดวรวิหาร
- พระอารามหลวงชั้นตรี ได้แก่ วัดประจำหัวเมือง หรือวัดที่มีความสำคัญชั้นรอง มี 3 ชนิด คือชนิดราชวรวิหาร, ชนิดวรวิหาร, ชนิดสามัญ (ไม่มีสร้อยนามต่อท้าย โดยส่วนใหญ่จะต่อท้ายว่า พระอารามหลวง)
โดยพระอารามหลวงชั้นเอกนั้นมีทั้งหมด 23 แห่ง ครั้งนี้เราจะพาไปไหว้สัก 9 แห่ง เอาเคล็ดเลขเก้าเพื่อความก้าวหน้ากัน เริ่มต้นจาก
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดอรุณ หรือวัดแจ้ง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร อยู่ในเขตพระบรมมหาราชวังเดิม เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ครั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี และเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานผ้าพระกฐินทางชลมารค ถือเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำ

นอกจากนั้นวัดอรุณยังเป็นวัดที่เรียกได้ว่าเป็นจุดแลนด์มาร์คที่สวยงาม โด่งดังเป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ วัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยมีพระปรางเจดีย์ขนาดใหญ่สีขาวเป็นจุดสังเกตที่ตั้งโดดเด่นสง่างาม ช่วงเวลาที่ชมพระปรางค์สวยที่สุด คือช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน

จุดไหว้สำหรับสายมูให้เริ่มต้นที่ พระประธาน ตามด้วยพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และพระแท่นสมเด็จเจ้ากรุงธนบุรี

พระวิหารหลวง ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างพระอุโบสถมีพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตรหรือพระแจ้ง พระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน สำหรับทางเข้าพระวิหารหลวงมี 3 ประตู แนะนำว่าให้เข้าทางซ้ายออกทางขวา และเรื่องการขอพรนั้น ท่านจะโดดเด่นในเรื่องของการให้ความสำเร็จ การงาน และการเงิน โดยเฉพาะนักธุรกิจ เราสามารถบนบานด้วยข้าวเหนียวและไข่ต้มตามความเชื่อของคนโบราณได้

จุดต่อมาพระปรางค์วัดอรุณฯให้สักการะขอพรกับพระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชทรงช้างเอราวัณ 1 เรื่อง ทั้ง 4 ทิศ โดยให้ขอเรื่องเดียวทุกทิศ ด้วยจิตที่มุ่งมั่น เวียนเป็นทักษิณาวัตร (เวียนตามเข็มนาฬิกา) แล้วไหว้ซุ้มวิมานอินทร์ทั้งสี่ บนยอดพระปรางค์แล้วลงมา โดยให้เดินเวียน 3 รอบ

ต่อมาลอดพระแท่นสมเด็จเจ้ากรุงธนบุรี โดยเชื่อกันว่าถ้าได้ลอดแท่นนี้ สรรพทุกข์ สรรพโศก โรคภัยทั้งหลาย จะมลายหายสูญไป แต่แนะนำว่าเมื่อเข้าทางไหน ห้ามออกทางเดิม ลอดทั้งหมด 3 รอบ โดยทำใจให้สงบ และขอพรเพียงเรื่องเดียว ภายหลังจากลอดพระแท่นเสร็จแล้ว ให้ยกดาบของสมเด็จเจ้ากรุงธนบุรี เพื่อให้อะไรที่คิดไม่ตกนั้น ให้ดาบช่วยตัดความห่วง ความกังวลเดิมของเราออกไป เริ่มต้นใหม่ได้อย่างราบรื่น
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ที่เรารู้จักกัน เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหารและเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง

โดยทางยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551 และวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติ และลำดับที่ 3 ของประเทศไทยอีกด้วย

สำหรับการไปสักการะขอพรมีหลายจุด ยกตัวอย่างเช่น พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานปางสมาธิที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เชื่อว่าเมื่อมาสักการะแล้วจะหายจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ หรือขอให้สุขภาพแข็งแรง ประตูเฮง หรือ ประตูฮก ลก ซิ่ว ประตูหน้าพระอุโบสถ ที่มีความเชื่อกันว่าเป็นประตูแห่งความมงคล ช่วยล้างอาถรรพ์ สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง ผู้มาวัดโพธิ์จึงมักจะมาเดินลอดประตูเฮงแห่งนี้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล

หรือหากได้กราบไหว้ที่ปลายเท้าของพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน จากนั้นอธิษฐานจิตขอพร ชีวิตก็จะร่มเย็นเป็นสุข มีโชคลาภและการงานสำเร็จลุล่วง นอกจากนี้ มีการเล่าลือกันว่า พระนอนวัดโพธิ์ยังช่วยเรื่องการถอดถอนคำสาปแช่ง การตัดกรรมจากคู่รักเก่า และให้สมหวังในความรัก โดยเฉพาะสาวโสดที่อายุขึ้นเลข 3 แต่ยังไม่มีคู่ ไม่มีคนรัก มาขอพรได้
จุดต่อไป พระพุทธโลกนาถ หรือพระโลกนาถ ที่คนอยุธยาเชื่อกันว่าทรงอำนาจศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงเลื่องลือ เรื่องการขอลูก เคล็ดการขอลูกกับพระพุทธโลกนาถ ต้องเป็นวันพระเท่านั้น สิ่งของที่นำไปถวาย ได้แก่ ธูป เทียน กล้วย มะพร้าว ไข่ต้ม หลังไหว้เสร็จให้นำของไหว้กลับไปกิน

ขอพรพญายักษ์ทวารบาลผู้ปกปักรักษา ทั้ง 4 ตน แห่งวัดโพธิ์ โดยพญาขร มีผิวกายสีหงเสน (สีแดงเสนผสมสีขาว) ประจำอยู่ประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีความเชื่อกันว่า ท่านสามารถดลบันดาลอำนาจ วาสนา บารมีให้กับผู้ที่มาสักการะขอพร
– พญาสัทธาสูร มีผิวกายสีเขียว ประจำอยู่ประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ขึ้นชื่อในเรื่องของการประทานพรด้านตำแหน่งหน้าที่การงาน ผู้คนนับหน้าถือตา มีชื่อเสียง มีเกียรติในสังคม
– พญามัยราพณ์ (ไมยราพ) มีผิวกายสีม่วงอ่อนประจำอยู่ประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีความเชื่อกันว่า ท่านมีอิทธิฤทธิ์ในการปราบศัตรูพ่าย หรือเปลี่ยนศัตรูร้ายให้กลายเป็นมิตรที่ดี
– พญาแสงอาทิตย์ มีผิวกายสีแดงชาด ประจำอยู่ประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผู้คนมักจะมาขอพรให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ รวมไปถึงด้านความรักด้วย
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

วัดสุทัศนเทพวราราม หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า วัดสุทัศน์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเขตพระนครชั้นใน และอยู่มีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นอยู่ด้านหน้านั่นคือ เสาชิงช้า เทวสถานสัญลักษณ์สำคัญ วัดนี้ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่นๆ เพราะมีสัตตมหาสถานเป็นอุเทสิกเจดีย์ (ต้นไม้สำคัญในพุทธศาสนา 7 ชนิด) แทนที่

คนนิยมมากราบไหว้ พระพุทธศรีศากยมุนี ที่ประดิษฐานภายในพระวิหารหลวง เพื่อเสริมดวงชะตา ให้ปราศจากโรคภัย อุปสรรค ภยันตรายใดใด ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ทำสิ่งใดก็ราบรื่น การงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และพระสุนทรีวาณี (ลอยองค์) เพื่อทำให้เกิดสติปัญญาหลักแหลม นำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

มุขด้านหลังพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานท้าวเวสสุวรรณ หนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์ในศาสตร์พยากรณ์เทวะมันตรา ที่ผู้คนนิยมไปไหว้ขอพรในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ หรือโชคลาภ สำหรับใครที่ต้องการถอนคำอธิษฐาน คำสัญญา คำสาบาน และแก้กรรมจะไปสักการะพระพุทธเสรฏฐมุนี (หลวงพ่อกลักฝิ่น) ที่ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ ณ ศาลาการเปรียญ ด้านหน้าพระอุโบสถ
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ราชวรวิหาร เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างสวนดุสิตขึ้น พระองค์ทรงทำผาติกรรมสถาปนาวัดขึ้นใหม่และพระราชทานามว่า วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อันหมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5

นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักในชื่อ The Marble Temple โดยชื่อดังกล่าวมาจากการใช้หินอ่อนในการก่อสร้างพระอุโบสถเป็นแบบจตุรมุข ด้านในปูหินแกรนิตสีชมพูอ่อนและสีเทาจากประเทศอิตาลี และเป็นวัดที่มีความวิจิตรงดงามด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณอีกด้วย
ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐาน พระพุทธชินราช ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้หล่อเมื่อปี พ.ศ. 2444 เป็นพระนั่งสมาธิราบ ปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย ซึ่งจำลองจากองค์จริงที่จังหวัดพิษณุโลก ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพร ในเรื่องหน้าที่การงานให้ราบรื่น ประสบความสำเร็จ ได้เลื่อนยศ เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งต่างๆ
วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร นครปฐม
วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหารตั้งอยู่ที่ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ซได้ใช้พระปฐมเจดีย์เป็นตราประจำจังหวัด มีจุดเด่นที่สำคัญคือ พระปฐมเจดีย์ หรือ พระธมเจดีย์ พระเจดีย์ทรงลังกา แบบสุโขทัยที่ใหญ่และสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย (120.45 เมตร)

พระปฐมเจดีย์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นองค์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2396 โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างครอบพระเจดีย์องค์เดิมสององค์ ได้แก่ เจดีย์ทรงสถูปสาญจีตามแบบอินเดียยุคพระเจ้าอโศกมหาราช และเจดีย์ทรงขอมโบราณ นอกจากองค์พระปฐมเจดีย์แล้ว ในลานชั้นลดด้านทิศใต้องค์พระปฐมเจดีย์และพระอุโบสถมีพระประธาน พระพุทธรูปศิลาขาว ซึ่งเป็นสองในสี่พระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาท ปางแสดงธรรม ที่สร้างขึ้นในยุคทวารวดี

สำหรับใครที่มาสักการะองค์พระปฐมเจดีย์แนะนำให้เดินรอบองค์พระปฐมเจดีย์ 3 รอบ พร้อมขอพรตามที่หวังไว้ โดยมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ธุรกิจ การเรียน สุขภาพ เรื่องบุตร ต้องไม่พลาดไปกราบนมัสการพระร่วงโรจนฤทธิ์ หรือหลวงพ่อพระร่วง พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะสุโขทัยอันวิจิตรงดงาม ขอความสำเร็จในการงาน การค้าขาย นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อปราสาททอง พระพุทธไสยาสน์ และพระศิลาขาวที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าจะขออะไรก็สมความปรารถนา
วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร นครพนม
วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนมจังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า(เนินดินสูงจากพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร) ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม

พระธาตุพนม (พระธาตุจำลอง) เป็นสถานที่เคารพสักการะทั้งของชาวไทยและชาวลาว ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และของมีค่าอีกมากมาย กล่าวกันว่า ใครที่มาขอพรที่นี่ก็มักจะสมหวังกลับไป รวมถึงช่วยเสริมสิริมงคลด้านบุญบารมี และถ้ามานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็นลูกพระธาตุ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ที่สำคัญหากใครที่เกิดปีวอก หรือเกิดวันอาทิตย์ การได้ไหว้พระธาตุพนมจะยิ่งเป็นสิ่งมงคลแก่ชีวิต มีอานิสงส์ทำให้ผู้คนเคารพนับถือ เนื่องจากพระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีของผู้ที่เกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร เชียงใหม่

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานกว่า 655 ปี ภายในรวบรวมตัวอย่างงานศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมสมัยล้านนามากที่สุดแห่งหนึ่ง เดิมชื่อวัดลีเชียงพระ หมายถึง วัดที่ตั้งใกล้ตลาดกลางเมือง ในสมัยกษัตริย์ลำดับที่ 8 แห่งราชวงศ์มังราย ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานในวิหารลายคำ จึงเรียกว่า วัดพระสิงห์ โดยพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปที่เชื่อกันว่าได้นำความอุดมสมบูรณ์ ฝนตกต้องตามฤดูกาลให้กับอาณาจักรล้านนา และผู้คนนิยมนำพวงมาลัยดาวเรืองมาขอพรให้มีความสำเร็จในหน้าที่การงานและการศึกษา

นอกจากนี้ตามคติของชาวล้านนากำหนดให้เป็นวัดประจำปีนักษัตร มะโรง ซึ่งผู้ที่เกิดปีมะโรงให้มากราบสักการะพระธาตุหลวงวัดพระสิงห์ ซึ่งเชื่อว่าจะได้บุญกุศลสูงล้น ส่วนคนที่เกิดปีนักษัตรอื่นๆ นั้นหากได้มาไหว้องค์พระธาตุหลวง วัดพระสิงห์ในปีนี้ ก็เชื่อว่าจะได้บุญใหญ่เช่นเดียวกัน
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร พิษณุโลก
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่าวัดใหญ่ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ด้านทิศตะวันออก ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อ พ.ศ. 1900 และในปี พ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร

พระประธานองค์ใหญ่ประดิษฐานในวิหารคือพระพุทธชินราช ซึ่งชาวเมืองพิษณุโลกนิยมเรียกกันว่าหลวงพ่อใหญ่ ราชประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตก เป็นพระพุทธรูปปางค์มารวิชัย หหล่อด้วยสำริดปิดทอง ที่เด่นชัดและเป็นเอกลักษณ์คือมีซุ้มรอบพระวรกายอยู่ ได้รับการถวายพระเกียรติคุณยกย่องให้เป็นพระพุทธรูปที่สง่างามที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธรูปอีก 2 องค์ คือ พระพุทธชินสีห์ และ พระศรีศาสดา โดยวัสดุหล่อด้วยทองสำริด ปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง ทุกปีจะมีงานนมัสการพระพุทธชินราชในวันขึ้น 6 ค่ำ ถึงวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่คนไทยจำนวนมากเดินทางไปสักการะบูชาไม่ขาดสาย นอกจากจะขอพรเรื่องทั่วไปแล้ว ส่วนมากคนจะขอพร ประมาณ 3 เรื่องใหญ่ดังนี้ คือ เสริมสิริมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง ให้หายจากโรคภัยอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และให้การงานก้าวหน้า
วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ลำพูน

วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ในอดีตนิยมเรียก วัดเจดีย์หลวง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2478 เดิมทีเป็นพระราชวังของพระเจ้าอทิตยราชกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญชัย องค์ที่ 33 ต่อจาก พระนางจามเทวี ปฐมบรมกษัตริย์ของเมืองหริภุญชัย ในกาลต่อมาภายหลังพระเจ้าอาทิตยราช ได้ถวายราชวังของพระองค์ให้เป็นสังฆารามไว้กับทางพระพุทธศาสนา

พระบรมธาตุหริภุญชัย ตั้งอยู่หลังวิหารหลวง เป็นโบราณสถานอันสำคัญของนครหริภุญชัยหรือจังหวัดลำพูน มาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเวลามากกว่าพันปี ภายในบรรจุพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ ตามคติของชาวล้านนากำหนดให้เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา โดยส่วนใหญ่ประชาชนนักท่องเที่ยวจะมาขอพรพระธาตุให้คุ้มครองการเดินทางอย่างปลอดภัย มีโชคมีชัยตามชื่อองค์พระธาตุ นอกจากนี้บางคนยังเดินทางมาขอพรกับพระราหูทรงครุฑที่มีหนึ่งเดียวแห่งเมืองล้านนา เพื่อให้ชีวิตราบรื่นมีสติอยู่เสมอ และผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เกิดวันพุธกลางคืน

สำหรับวัดที่ได้รับยกย่องให้เป็นวัดอารามหลวงชั้นเอกยังมีอีกหลายวัดไม่ว่าจะเป็น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ, วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร สระบุรี, วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี, วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช เป็นต้น ใครสะดวกวัดไหนเดินทางไปไหว้พระทำบุญ ขอพร รับเรื่องดีๆ มีความสุขในวันปีใหม่กันได้