ทีเส็บจัดกิจกรรม ONE BELT ONE ROAD MICE ROADSHOW เตรียมพร้อมผู้ประกอบการไมซ์ 3 ประเทศ ต่อยอดเส้นทาง R3A รถไฟ จีน – ลาว – ไทย เข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ
การพัฒนาเส้นทางสายไหมใหม่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้ชื่อ “One Belt One Road” หรือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ส่งผลให้ภูมิภาคอาเซียนรวมถึงประเทศไทยมีความใกล้ชิดกับสาธารณรัฐประชาชนจีนมากยิ่งขึ้น สาธารณรัฐประชาชนจีนมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะการเดินทางมาท่องเที่ยวและทำกิจกรรมไมซ์บนพื้นที่เชื่อมโยง โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง เนื่องจากนักเดินทางชาวจีนมีความชื่นชอบการเดินทางและการค้นหาจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ “ประเทศไทย”
เส้นทางสายไหมใหม่นี้ จึงเป็นเส้นทางสำคัญเส้นทางหนึ่งของการเดินทางมาประเทศไทยของนักเดินทางชาวจีนในอนาคต
หลังจากจีนเปิดประเทศและจากการเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวกันในวงกว้างถึงการเตรียมการรองรับนักเดินทางระหว่างประเทศในภูมิภาค CLMV – สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับนักเดินทางบนเส้นทางดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สสปน. หรือ ทีเส็บ ร่วมกับ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) จัดกิจกรรม ONE BELT ONE ROAD MICE ROAD SHOW 2023 ขึ้น โดยเชิญ Potential Buyer จาก สปป.ลาว จีน และเมียนมาร์ ที่สนใจทำตลาดไมซ์บนเส้นทาง One Belt One Road เชื่อมโยงประเทศไทย สัมผัสประสบการณ์ไมซ์เส้นทางสายเชียงราย-พิษณุโลก- กรุงเทพฯ ร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการบนเส้นทางเชือมโยง เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เชื่อมโยงเครือข่าย อันนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดสู่เส้นทางไมซ์ไหม่ในอนาคตร่วมกัน
ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สสปน. หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า “สำหรับการจัดกิจกรรม ONE BELT ONE ROAD MICE ROAD SHOW 2023 ในครั้งนี้ ทีเส็บได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เรียนเชิญ Potential Buyer จากสปป.ลาว จีน และเมียนมาร์ ที่ทำตลาดบนเส้นทาง One Belt One Road อยู่เดิมและสนใจจะขยายตลาดใหม่เพื่อเชื่อมโยงเส้นทาง R3A กับจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย กว่า 20 ราย ร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและไมซ์บนเส้นทางเชียงราย-พิษณุโลก–กรุงเทพฯ เพื่อสร้างโอกาสในการต่อยอดเส้นทาง R3A มายังภาคเหนือและเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางประเทศไทย เพื่อเป็นการเพิ่มมิติความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเส้น R3A และสร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจเดินทางมาพำนักเพื่อทำกิจกรรมไมซ์ในประเทศไทยยาวนานขึ้น ผ่านการนำเสนอสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในประเทศไทยที่น่าสนใจแก่ผู้ประกอบการ เพื่อนำไปสู่การต่อยอดเป็น Package โปรแกรมเส้นทางไมซ์สร้างสรรค์ต่อไป โดยคาดว่าการเชิญกลุ่ม Buyer จากทั้ง 3 ประเทศเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จะเกิดมูลค่าการจับคู่ทางการค้ากับคู่เจรจาของทั้ง 3 จังหวัดภายหลังงานไม่น้อยกว่า 18 ล้านบาท
ด้านนายชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เล็งเห็นว่าความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ ผ่านการจัดกิจกรรม ONE BELT ONE ROAD MICE ROAD SHOW 2023 จะเป็นโอกาสสำคัญในการฉายภาพให้เห็นว่า นอกจากด่านชายแดนที่จังหวัดหนองคายแล้ว ยังมีด่านชายแดนที่มีศักยภาพอีกหลากหลายเส้นทาง ซึ่งด่านชายแดนในภาคเหนือ อันประกอบไปด้วย ด่านชายแดนเชียงของ-ห้วยทราย และด่านแม่สาย จังวัดเชียงราย ซึ่งสามารถเชื่อมโยงได้ทั้งทางราง รถ และทางเรือ และถือเป็นด่านชายแดนสำคัญที่มีศักยภาพสูง สามารถต่อยอดเส้นทางให้เกิดแรงจูงใจในการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยว MICE ได้เป็นอย่างดีอีกเส้นทางหนึ่ง โดยเฉพาะนักเดินทางชาวจีนที่เข้ามายังเส้นทางนี้ ส่วนมากมาเป็นกลุ่มคณะใหญ่และส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่มีความพร้อมในการเดินทาง โดยจะจองที่พักโรงแรมหรู หรือ 4 ดาวขึ้นไป ดังนั้น การเลือกนำเสนอสถานที่บนเส้นทางเชียงราย-พิษณุโลก–กรุงเทพฯ ในการทำ Route เส้นทางไมซ์ในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงศักยภาพให้เห็นว่า ทั้ง 3 จังหวัดนี้ ถือเป็นเมืองต้นแบบที่มีศักยภาพรองรับการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจได้เป็นอย่างดี