จิบทะเล & ดมดอกไม้ใน “เตาร์มินา”
Story & Photo by Kanjana Hongthong
รถไฟค่อยๆ ลดอัตราเร่งลงเรื่อยๆ ก่อนจะแน่นิ่งแนบสนิทและสงบบนรางเหล็ก มันไม่ได้สิ้นลมตรงป้ายเมืองเตาร์มินา (Taormina) หรอก แค่แวะส่งแขกเหรื่อของเตาร์มินา แล้วมันก็เผ่นแน่บหายวับไปกับรางเหล็กที่แผ่คลุมบนเกาะซิซิลี (Sicily) ประเทศอิตาลี (Italy)
ถ้าเป็นเช้าอื่นอะไรๆ คงไม่เงียบงันขนาดนี้ แต่วันอาทิตย์เนรมิตให้สถานีรถไฟแปลงสภาพใกล้ป่าช้าเข้าไปทุกที อย่าพูดถึงบูธแนะนำการท่องเที่ยวของเมืองเตาร์มินาเลย แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถไฟยังไร้เงา มีแค่ตู้อัตโนมัติคอยคายตั๋วออกมาตามคำสั่งมนุษย์ และเป็นเพราะวันอาทิตย์อีกนั่นแหละ รถราจึงมักไม่มาตามนัด ลุงแท็กซี่ที่กำลังก้มๆ เงยๆ เช็ดรถแกเลยเดินมาสงเคราะห์ให้เอาบุญ ว่าช่วงเช้าวันนี้รถเมล์จะทิ้งช่วงห่างกว่าปกติ ถ้ารอก็อีกราวๆ ชั่วโมง ถ้านั่งแท็กซี่ปรื๊ดเดียวถึง แต่กรุณาจ่ายมา 15 ยูโร ลุงแกเห็นไม่หือไม่อือ จึงลงเอยด้วยการชี้นิ้วโบ้ยบอกทางเดินเข้าเมือง ถ้าดูตามองศาของนิ้วและพิกัดของที่ตั้งเมือง คะเนดูแล้วจึงไม่ใช่การเดินแนวราบแน่ๆ ใช่แล้ว ลุงแกหมายถึงให้เดินไต่เขาขึ้นไป เพราะเตาร์มินาเป็นเมืองที่ทอดตัวอยู่บนภูเขา
นี่ถ้าเป็นคนไม่มีใจให้การเทรคกิ้งมาก่อน คงถอดใจแล้วนั่งรอรถเมล์อย่างสงบแล้ว แต่บังเอิญเป็นพวกเท้าไม่อยู่สุขเป็นทุนเดิม จึงเดินลาจากลุงมาแบบยิ้มตุ่ยๆ ตะกายขึ้นเขาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่มีแดดเผ็ดๆ มาผสมโรงด้วยนี่สิ เลยเป็นวินเทอร์แบบแปลกๆ ไปซักหน่อย ที่เหงื่อท่วมร่าง 20 นาทีตามที่ลุงกล่าวไว้เป๊ะ ก็ขึ้นมาเดินอวดจั๊กกะแร้เปียกๆ บนตัวเมืองเตาร์มินาได้สำเร็จ ตั้งแต่เดินขึ้นมาผ่านบ้านเรือนของชาวเมือง ฉันก็เริ่มสังเกตแล้วว่าคนเมืองนี้เขามีต้นไม้ดอกไม้เป็นสมาชิกในครอบครัวกันทั้งนั้น ถึงแม้เป็นบ้านเล็กๆ หรือห้องเล็กๆ แต่ไม่มีบ้านไหนไม่มีดอกไม้อยู่ร่วมชายคา เฟื่องฟ้าห้อยระย้าไม่ใช่แค่แผ่คลุมประตูบ้าน แต่เลื้อยระโยงระยางเป็นร่มเงาให้ถนนด้วย แค่เดินชายตาดูอาคารบ้านเรือนของชาวเตาร์มินาก็เพลินอารมณ์แล้ว
ยังไม่ทันไร คาเฟ่ Bam Bar บนถนน Via Di Giovanni ก็ทำเอาฉันสะดุดรักแบบหัวทิ่มหัวตำกันเลยทีเดียว นี่มันคาเฟ่ที่นักเดินทางควรมานั่งละเลียดจิบกาแฟแลเซรามิก กันซักตั้ง เพราะทั้งร้านปูพรมไว้ด้วยเซรามิก ซึ่งเป็นของดีของเด่นของเตาร์มินา เมื่อบวกกับงานศิลปะสีแจ่มจ้าและดอกไม้เข้าไป เลยทำให้ Bam Bar เหนี่ยวฉันไว้ได้นานโข ขนาดหมาที่เจ้าของจูงมานั่งเล่นที่ร้านนี้ ดูท่าว่ามันยังอารมณ์ดีเลย ไม่ได้การละ ขืนฉันมัวขังตัวเองอยู่กับ Bam Bar คงไม่ได้เห็นเตาร์มินาอย่างที่หวังไว้ เดินละมาจาก Bam Bar แบบเหงื่อยังไม่ทันผุดเม็ด ก็ถึงย่านใจกลางเมืองเตาร์มินา เลี้ยวขวาไปโรงละครกรีกโบราณ (Teatro Greco) เลี้ยวซ้ายไปถนนสายหลักประจำเมืองที่เรียกว่าคอร์โซ อุมแบร์โต (Corso Umberto)
ฉันเลือกไปโรงละครกรีกโบราณก่อน เพราะเห็นว่าเช้าเกินไป ถนนคนเดินยังค่อนข้างเงียบ ร้านรวงบนคอร์โซ อุมแบร์โตยังเปิดกันไม่เต็มที่เท่าไหร่ แต่ร้านที่อยู่ระหว่างทางไป โรงละครนี่สิพรึ่บหมดแล้ว กว่าจะเดินไปถึงโรงละครจึงราวกับว่ากำลังแหวกว่ายในมหาสมุทรแห่งความอยาก เพราะของที่นี่เขาทำกันจุ๋มจิ๋มน่าซื้อจริงๆ โดยเฉพาะพวกเซรามิกทั้งหลาย แต่จนแล้วจนรอดก็ประคองกระเป๋าสตางค์มาจนถึงปากทางเข้าโรงละครจนได้ จะว่าไปพวกโรงละครโบราณนั้น ฉันเองก็ตระเวนดูมาเยอะ สมบูรณ์บ้าง ผุพังก็เยอะ ฉันตะกายขึ้นมายืนในจุดที่ชาวกรีกโบราณเคยยืน ก็พวกเขานั่นแหละที่ก่อร่างสร้างเวทีแห่งความเพลิดเพลินนี้ขึ้น กรีกแอมฟิเธียเตอร์แบบดั้งเดิมไม่รู้หน้าตาเป็นอย่างไร เพราะพวกโรมันเข้ามาบูรณะต่อเติมในช่วงศตวรรษที่ 2 แถมถ้าไล่เรียงดูดีๆ ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตอนพวกโรมันเข้ามาขัดสีฉวีวรรณนั้น ทำอะไรไว้บ้าง เพราะสภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือโรงละครที่ผ่านฝีมือพวกอาหรับที่เข้ามาทำลายในช่วงศตวรรษที่ 10 จะว่าผุพังก็ผุพัง ส่วนที่สมบูรณ์ก็เหลือไม่น้อย แต่พอพาตัวเองไปยืนอยู่กลางโรงละครอายุกว่าสี่พันปี ราวกับว่ากำลังยืนชมงานศิลปะชิ้นใหญ่ที่คนโบร่ำโบราณเขาสร้างสรรค์ไว้
ไม่มีการแสดงและงานรื่นเริงใดๆ ให้นั่งดูเหมือนในอดีต ไม่มีเวทีนักสู้เอาไว้ให้พวกกลาดิเอเตอร์ประลองฝีมือกัน หากแต่ในวันนี้มีแต่วิวทิวทัศน์อันงดงามของเมืองเตาร์มินาที่ทอดตัวเลื้อยไล่ไปบนเทือกเขา และผืนทะเลไอโอเนียนสีครามสด โดยมีภูเขาไฟเอตนาคอยสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของชาวเมืองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นแหละทำให้ไกด์บุ๊คสำนักต่างๆ พากันบอกว่า นี่คือโรงละครโบราณที่อยู่ในชัยภูมิที่ดีที่สุดในโลก และความที่ตั้งอยู่บนทำเลห้าดาวแบบนี้ พอถึงช่วงซัมเมอร์ที่นี่จึงถูกใช้เป็นลานแสดงงานศิลปะระดับโลก ที่เขาว่ากันว่าเตาร์มินาเป็นเมืองตากอากาศของเกาะซิซิลี พอขึ้นมาอยู่บนนี้จึงเห็นภาพนั้นอย่างคมชัด เขาว่าคนเมืองหลวงที่มีสะตุ้งสตางค์ พอเบื่ออากาศร้อนๆ ที่โรม ก็ซื้อบ้านช่องห้องหับเอาไว้มานอนตากอากาศที่เตาร์มินานี่แหละ
สมัยก่อนนักเดินทางยังไม่เยอะขนาดนี้ แต่พอพวกนักเขียน นักกวี ศิลปินพากันเข้ามาสำรวจและปลีกวิเวกกันตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 เมืองเตาร์มินาก็ถูกเผยให้ชาวโลกได้รู้จัก โรงแรมแห่งแรกของเตาร์มินาจึงตัดสายสะดือขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างจริงจังจนทุกวันนี้แทบจะเรียกได้ว่า ใครที่ดั้นด้นมาถึงปลายรองเท้าบูทอย่างเกาะซิซิลี พวกเขาไม่ได้หมกตัวอยู่แค่ปาแลร์โม (Palermo) เท่านั้น แต่เตาร์มินาเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่ต้องมาให้ถึง
ทีแรกคิดว่าเป็นแค่คำคุยของเตาร์มินา แต่พอลองไปเดินบนคอร์โซ อุมแบร์โตเท่านั้นแหละ เชื่อโดยพลัน พยานหลักฐานชั้นดีว่าเตาร์มินาไม่ได้โม้ ก็เพราะสองเท้าของมนุษย์เดินย่ำบนถนนปูด้วยหินกันให้ว่อนไปหมด บางคนแค่มาเดินกรีดกรายอวดอาภรณ์สุดชิค บางคนตั้งใจมาช้อปอย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนมาเดินหางานศิลปะซักชิ้นหิ้วกลับบ้าน บางคนมาเดินหาเซรามิกและเหล้ามะนาวผลิตภัณฑ์โอท็อปของคนแถวนี้บางคู่ควงกันมาหาคาเฟ่เก๋ๆ นั่งแฮงก์เอ้าท์ ไม่ว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไร มาเดินบนถนนสายนี้แล้วทำทุกอย่างที่ว่าได้ครบหมด ส่วนฉันออกแนวมาเดินสำรวจผู้คน หนทาง และบ้านเรือนซะมากกว่า จะว่าเป็นโรคจิตก็ใช่ แวะดูมันทุกซอย เพราะทุกซอยของเตาร์มินา น่ารักเหลือกำลัง พอแหงนขึ้นไปมองบ้านคน ดอกไม้ที่เลื้อยอยู่หน้าชานก็ยิ้มให้ทุกบ้าน แล้วแบบนี้จะให้เดินผ่านเลยไปได้อย่างไรเล่า ฉันเลยกลายเป็นคนเดินช้า ชายตาดูสิ่งรอบตัวไปเรื่อย สำหรับฉันมันฟินยิ่งกว่าช้อปปิ้งซะอีก
อ้อยอิ่งไปจนถึงจัตุรัสกลางเมืองที่เขาเรียกว่าเปียสซ่า โนเว เอพริล (Piazza IX Aprile) มุมนี้ชาวเมืองหอบลูกจูงหลานมานั่งเล่นกันเช้ายันค่ำ หนุ่มสาวก็นิยมมาพลอดรักกันบนเก้าอี้ริมจัตุรัสโดยมีทะเลไอโอเนียนเป็นพยานรัก ส่วนนักท่องเที่ยวลั่นชัตเตอร์เสร็จก็ไปกองกันตามคาเฟ่ริมจัตุรัส จิบทะเลชมโบสถ์ เบื่อแล้วค่อยเดินต่อไปหาดูโอโม (Duomo) วิหารประจำเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากนี้เท่าไหร่ ที่นี่เป็นดูโอโมขนาดย่อมเยาที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นวันอาทิตย์ที่ชาวเมืองมาปฏิบัติศาสนกิจกันในโบสถ์ นักท่องเที่ยวเลยนั่งผึ่งแดดกันแถวลานน้ำพุอายุ 300 กว่าปีที่อยู่หน้าวิหารที่ใครๆ พากันเอ่ยอ้างถึงเกาะซิซิลีว่าเป็นเกาะแห่งมาเฟีย ลองมายืนพ่นหายใจที่เตาร์มินาดู คุณจะไม่ได้กลิ่นอายของเกาะแห่งมาเฟียหรอก เพราะเตาร์มินาเป็นดงดอกไม้และมีแต่กลิ่นอายจากท้องทะเล เป็นแบบนั้นจริงๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม
– มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปกลับโรม โบโลญญา ตูริน มิลาน เวนิส นาโปลี และเจนัว ทุกวันใครจะแวะเที่ยวอิสตันบูลเป็นของแถมก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้คนไทยเข้าตุรกีไม่ต้องทำวีซ่า
– จากหัวเมืองใหญ่ในอิตาลี สามารถนั่งรถไฟไปเกาะซิซิลีได้แต่อาจจะใช้เวลาเยอะหน่อย เช่นออกจากโรมตอนกลางคืน ถึงซิซิลีเช้า ถ้านั่งรถไฟจะถึงเมืองเมสซินาก่อน จากนั้นนั่งรถไฟต่อไปเมืองเตาร์มินาอีก 1 ชั่วโมง คลิกไปดูรายละเอียดของตารางรถไฟได้ที่ www.raileurope.co.th
– ที่พักที่เตาร์มินามีให้เลือกค่อนข้างเยอะและหลากหลายระดับ แต่ถ้ามาโดยรถไฟต้องนั่งรถแท็กซี่ขึ้นเขาไปยังที่พัก ถ้าไม่อยากหอบกระเป๋าพะรุงพะรัง แนะว่าเดย์ทริปจากเมสซินาไปเที่ยวเตาร์มินาก็ได้ แต่ถ้าใครอยากได้บรรยากาศโรแมนติก ก็ต้องเลือกพักที่นี่
– เดือนที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งคือ ก.ค. และ ส.ค. เพราะนอกจากอากาศจะร้อนจัดแล้ว นักท่องเที่ยวยังเยอะมาก ค่าที่พักค่อนข้างแพง เดือน ต.ค.-ธ.ค. ก็ไม่หนาวจนเกินไปสำหรับการท่องเที่ยวเตาร์มินา เช็คอุณหภูมิที่ www.weather.com
– ทำวีซ่าที่สถานทูตอิตาลีต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ หรืออย่างน้อย 2 เดือนก่อนเดินทางยิ่งดี คลิกไปดูรายละเอียดของเอกสารได้ที่ www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai