Taitung-Get more Experience ตอน 2
Story & Photo by Orawan
Taitung-Get more Experience ตอน 1 คลิกที่นี่ www.vacationistmag.com/taithung1
ความเก๋ไก๋ดับเบิ้ลเอ (Architecture & Art)
ห้องสมุดที่ได้รับรางวัล Best Architectural Design and Spatial Planning 2014 หากคุณเป็นนักอ่าน ที่แห่งนี้ถือเป็น 1 ใน 10 ห้องสมุดที่คุณควรมาสักครั้งหากมาไต้หวันนี่คือหนึ่งในหลายนิยามที่การันตีความสวยงามและสุดพิเศษของศูนย์ข้อมูลและห้องสมุดแห่งชาติมหาวิทยาลัยไถตง (National Taitung University Library and Information Center)
ที่สร้างอย่ใู นทำเลท่ามกลางขนุ เขาและท้องทะเล ห้องสมดุแห่งนี้หันหน้าไปทางมหาสมุทรแปซิฟิกโดยออกแบบเป็นทรงแหลมพีระมิด 5 ชั้นเลียนแบบภูเขาที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเพื่อให้กลมกลืนเข้ากันกับหมู่ขุนเขาที่อยู่รายล้อม ขอบอกว่าไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหนก็สวยงามไปหมด
คนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปแนวสถาปัตยกรรมต้องชอบอย่างแน่นอนเช่นเดียวกันกับหนอนหนังสือทั้งหลาย ที่นี่เป็นห้องสมุดที่น่าเข้าไปปล่อยตัวเองเข้าสู่โลกแห่งการอ่านอย่างแท้จริง ด้านนอกตัวอาคารยังออกแบบให้สามารถปีนขึ้นชมวิวมุมสูงของมหาวิทยาลัยได้ แถมที่นั่งภายในที่อยู่ริมกระจกก็สามารถมองทอดออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของมหาวิทยาลัยได้แบบเต็มตาอีกด้วยนอกจากไถตงจะมีอาคารสถาปัตยกรรมที่ขึ้นชื่อแล้ว
เรื่องของงานศิลปะก็ไม่แพ้ใคร คุณจะเห็นงานศิลปะแทรกตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ของเมือง เช่นใต้ทางด่วน หรือบนผนังกำแพงของอาคารบ้านเรือน หรือถ้าต้องการมีงานฝีมือเป็นของตัวเองลองไปที่ Sunrise Driftwood Workshop หรือคนท้องถิ่นรู้จักกันดีในชื่อศูนย์กิจกรรมไม้โตเหลียน (Duoliang Wood Workshop) สักครั้ง
ที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้ การทำกิจกรรมแปรรูปเศษไม้ให้กลายเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าขึ้น นอกจากคุณจะสามารถทำกิจกรรมประดิษฐ์อุปกรณต่างๆ จากเศษไม้เหลือใช้แล้วที่นี่ยังมีสินค้าและเครื่องดื่มจำหน่ายอีกด้วย รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในชุมชนชาวเขาที่อยู่ข้างเคียง ฉันแนะนำให้คุณอุดหนุนสินค้าแล้วซื้อเครื่องดื่มสักแก้ว
จากนั้นเดินลงไปชมสถานีรถไฟที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวันที่อยู่ไม่ไกลนักอย่างสถานีโตเหลียน (Duoliang Station) จะเห็นนักท่องเที่ยวหลายคนเลือกที่จะแวะมาถ่ายรูปรถไฟที่เคลื่อนตัวผ่านออกจากอุโมงค์ของขุนเขาเลาะเลียบไปแนวชายฝั่งโดยมีฉากหลังเป็นท้องทะเลและท้องฟ้าที่งดงามอย่างมาก
อีกจุดหนึ่งที่งานศิลปะกับสถาปัตยกรรมผสมผสานกันได้อย่างลงตัวคือหมู่บ้านดนตรีเตี่ยฮัว (Tiehua Music Village)บริเวณกลางเมืองไถตง ที่นี่เรียกว่าเป็นตลาดของสินค้าทำมือ(Handmade) ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งก็ว่าได้ ทั่วทั้งบริเวณจะเต็มไปด้วยงานศิลปะ รวมไปถึงอาคารสถาปัตยกรรมรูปร่างสะดุดตา
คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายทั้งสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ เสื้อผ้า ขนม
ตลอดจนลิ้มรสกับอาหารเคล้าไปกับบรรยากาศแสนโรแมนติกที่มีเหล่านักดนตรีหลากหลายรูปแบบมาขับกล่อมเสียงเพลงให้คุณฟัง
ฉันเดินทางไปช่วงหัวคำที่บรรยากาศกำลังครึกครื้นทีเดียวไม่น่าเชื่อว่าเวลา 2 ชั่วโมงที่นั่นผ่านไปเร็วมาก หากใครมีโอกาสมาไถตงฉันอยากให้ลองแวะมาที่นี่ดู
ธรรมชาติและมนุษย์ (Nature & Human)
สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของไต้หวันคือ ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไถตง ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมเลยคิดดูว่าอากาศที่นี่จะบริสุทธิ์แค่ไหน และถึงแม้ว่าที่นี่จะมีชนเผ่าอยู่ร่วมกันหลายเผ่า แต่ทุกเผ่าก็อยู่ร่วมกันอย่างดี และสงบสุขฉันมีโอกาสได้สัมผัสกับวัฒนธรรมชนเผ่าผ่านทางอาหารหลากเมนูและการเยี่ยมชมหลากหลายสถานที่ หนึ่งในที่ประทับใจอย่างเช่น ร้านอาหารริมทะเล นอกจากจะได้รับประทานอาหารชนเผ่าที่แสนอร่อยแล้วบรรยากาศริมทะเลของร้าน สวยงามจนต้องยกนิ้วให้ พร้อมติดดาวให้ 5 ดาวเลย หรือการได้เรียนรู้ธรรมชาติตามเส้นทางเดินป่า ที่มีไกด์กิตติมศักดิ์ซึ่งเป็นหัวหน้าชนเผ่าปู้หนงเป็นคนพาชมและศึกษาเส้นทางเดินธรรมชาติ
ไฮไลต์อยู่ที่จุดชมวิวเมืองที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอกจากขุนเขาที่สร้างความประทับใจอยู่ในใจไม่หายจนถึงวันนี้ พอๆ กับเสียงหัวเราะและความสนุกสนานของเหล่าผู้ร่วมเดินทางในยามได้ลองยิงธนูที่ลานกิจกรรมของชนเผ่า
หรือตอนที่พวกเราอดไม่ไหว ขยับแข้งขยับขาไปกับเสียงดนตรีที่เร้าใจและความน่ารักของเด็กน้อยชนเผ่าที่ศูนย์วัฒนธรรมชนเผ่าอาเหม่ย(Amis Folk Center)
เพราะไม่ใช่แค่ความสนุกของเสียงเพลงแต่ทิวทัศน์ท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก ทำให้เราอยากจะย้อนกลับไปอีกครั้ง
อีกกิจกรรมที่นอกจากจะให้ความสุขแล้วยังได้ของติดมือกลับบ้านคงหนีไม่พ้นการไปเยี่ยมชมสวนแก้วมังกรที่เปิดให้เราได้เข้าไปเก็บผลแก้วมังกรและร่วมกิจกรรมการทำแยม งานนี้ได้ทั้งผลไม้สดๆ กลับบ้านและแยมไว้ทาขนมปังในตอนเช้าอีกด้วย คุ้มสุดๆแต่สำหรับคนที่ชื่นชอบท้องทะเลไม่ต้องน้อยใจไถตงก็มีเสน่ห์การท่องเที่ยวสายทะเลให้ไต้ชมอย่างเช่นที่ศูนย์อนุรักษ์ปลาฟูซ่าน (Fushan Marine Sanctuary) เป็นอีกจุดหนึ่งที่คุณจะได้เดินท่องทะเลที่มีเหล่าปลาเล็กน้อยรายล้อม
หรือจะเดินออกกำลังให้เหงื่อซึม โดยการข้ามสะพานโค้งแสนสวยอย่างสะพานซันเซียนไถ (Sanxiantai) หรือสะพานสามเซียน เป็นสะพานโค้งจากฝั่งไปสู่เกาะกลางทะเล
ที่นี่เป็นจุดแรกที่จะเห็นแสงอาทิตย์ในไต้หวัน เป็นหนึ่งในสถานที่ไฮไลต์ที่ทางกรมการท่องเที่ยวได้แนะนำ
สำหรับฉัน ไถตงเป็นเสมือนเพชรที่รอการเจียระไน และประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รู้ถึงความน่าสนใจและมหัศจรรย์ที่ซ่อนตัวอยู่ ด้วยศักยภาพของทรัพยากรมากมายของที่นี่กำลัง
รอให้คุณได้มาสัมผัส เชิญมา Get more Experience – สัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าที่ไถตงกัน
งานเทศกาลบอลลูนสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://balloontaiwan.taitung.gov.tw
-การเดินทางมาไถตง แม้จะไม่มีสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ไถตง แต่เราสามารถนั่งเครื่องลงที่ไทเปและต่อเครื่องภายในประเทศมาลงที่สนามบินไถตงได้หรือนั่งรถไฟจากไทเป (Taipei) มาไถตง (Taitung) ด้วยรถไฟขบวน Puyamaใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง
-สินค้าขึ้นชื่อของไถตง ได้แก่ น้อยหน่า กระเจี๊ยบ ลิ้นจี่
ขอขอบคุณ – สำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นไถตง(Taitung County Government) www.taitung.gov.tw/en
– การท่องเที่ยวไต้หวันประจำประเทศไทย (Taiwan Tourism Bureau)