ที่เที่ยวไถหนาน (Tainan)

ไถหนานตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวันและมีความใหญ่เป็นอันดับ 5 ในบรรดาเมืองต่างๆ ของเกาะไต้หวัน ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของไต้หวันก่อนจะย้ายไปยังไถจงและไทเป เมืองนี้ได้สมญานามว่า เมืองหงส์ โดยเปรียบกับหงส์ที่สามารถคืนชีพได้เสมอ

เหมือนกับเมืองนี้ที่สามารถฟื้นกลับมารุ่งเรืองได้หลายครั้ง นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจังหวัดที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน และเป็นแหล่งวัฒนธรรมทื่ลือชื่อ โดดเด่นเรื่องของวัดวาอาราม โบราณสถานและอาหารพื้นเมือง

หอจื่อคั่น (Chihkan Tower)

หอจื่อคั่น หนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ สร้างไว้เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการ เมื่อปี 1653 ในสมัยที่ไต้หวันถูกชาวดัตช์เข้ามาปกครอง

เดิมชื่อว่า Fort Provintia ชื่อของป้อมมาจากหมู่บ้านดั้งเดิมของชาวไต้หวันบันทึกโดยชาวดัตช์ชื่อ Sakam ซึ่งได้พัฒนาเป็น Tainan ในปัจจุบัน

หลังชาวจีนเข้ามาจึงเปลี่ยนเป็น Chhiah-kham ซึ่งจะเห็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบจีนตั้งโดดเด่นอยู่

วัดลัทธิขงจื๊อไถหนาน (Tainan Confucius Temple)

เป็นวัดประจำเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย วัดสร้างขึ้นเพื่อสักการะขงจื๊อซึ่งเป็นนักปราชญ์ชาวจีนและเหล่าสานุศิษย์ของท่าน ภายในหอหลักของวัดมีตกแต่งหลังคาเป็นชั้นและรูปปั้นมังกร มีห้องนิทรรศการจัดแสดงเสื้อผ้าและภาชนะในพิธีการ วัตถุที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งคือภาชนะสำหรับดื่มไวน์ที่ทำจากดินเหนียวซึ่ง นำมาจากหลุมศพของขงจื๊อ

Great South Gate of Tainan

กำแพงป้อมปราการเก่าของไถหนาน สามารถเดินมาได้จากวัดลัทธิขงจื๊อไถหนาน มาตามถนนหนานเหมิน โดยที่ประตูใหญ่ทางทิศใต้ ซึ่งประตูคู่ขนาดใหญ่เสร็จสมบูรณ์ในปี 1835 เป็นประตูที่ชมได้ง่ายที่สุด ประกอบกับตั้งอยู่ในสวนสาธารณะที่น่ารื่นรมย์ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมากันมาก เป็นเครื่องเตือนความทรงจำเกี่ยวกับอดีตทางทหารของไถหนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมือง

บ้านต้นไม้แห่งอันผิง (Anping Tree House)

ที่นี่ในอดีตเคยเป็นคลังสินค้าของบริษัทต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจต่อมามีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองบริษัทต่างๆ จึงย้ายออก กลายเป็นที่รกร้างและต้นไม้ปกคลุม

ต่อมาทางการได้เข้ามาพัฒนาให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่จัดงานแสดงศิลปะ สถานที่จำหน่ายของที่ระลึก

ความโดดเด่นของบ้านหลังนี้คือการที่มีต้นไทรแผ่รากมาปกคลุมเต็มบ้านไปจนเป็นภาพแปลกตาและน่าทึ่งมาก

พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย (Chimei Museum)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้เป็นของ Mr. Shi Wen-Long เจ้าของบริษัท Chi Mei Corporation ซึ่งได้รวบรวมงานศิลปะหลากหลายรูปแบบจากทั่วทุกมุมโลก โดยเน้นศิลปะแบบตะวันตกตามความชอบส่วนตัวของเจ้าของกว่า 4,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปกรรม เครื่องดนตรีที่โดดเด่นคือ ไวโอลินที่ใหญ่ติดอันดับโลก ชุดเกราะโบราณ อาวุธโบราณวัตถุสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่ฟอสซิลและสัตว์สตัฟฟ์ ก็มีจัดแสดงที่นี่

หมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง (Ten Drum Cultural Village)

เดิมเป็นโรงงานผลิตน้ำตาล ในสมัยที่ญี่ปุ่นเข้ายึดไต้หวัน ผลิตน้ำตาลและส่งกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานแห่งนี้รอดพ้นจากการถูกทิ้งระเบิด แต่ก็ต้องปิดตัวลง ในปี ค.ศ. 2005 Ten Drum Art Percussion Group ได้เข้ามาเช่าโรงงานร้างแห่งนี้ และจัดตั้งเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมหอกลอง (Ten Drum Cultural Village)

โดยคงโครงสร้างเดิมของโรงงานไว้ ภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวในอดีต และการจัดกิจกรรมด้านในโรงงานด้วย

ก่อนที่จะเข้าไปชมการแสดงการโชว์ตีกลอง ด้านหน้าจะมีลานให้นักท่องเที่ยวได้ฝึกตีกลองตามจังหวะ

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0