Lovely… Sintra
Story & Photo by Kanjana Hongtong
สเปนอาจจะเซ็กซี่แต่โปรตุเกสก็มีความเย้ายวนไม่แพ้กัน ใครลองได้ดั้นด้นไปถึงโปรตุเกสแล้วจะให้เที่ยวแค่ลิสบอนหรือปอร์โตแล้วบินกลับ พูดเลยว่าพลาดมาก
ทางที่ดีเหาะเหินเดิน อากาศไปถึงโปรตุเกสแล้ว
เอ้อระเหยไปหาเมืองเล็กเมืองน้อยกันต่อในโปรตุเกส เพราะยังมีอีกหลายเมืองที่น่าแวะและน่าทำความรู้จัก
ซินทรา (Sintra) ก็เช่นกัน อาจจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ใครไม่โฉบไปเสียดายแย่
ซินทราอยู่ห่างจากลิสบอนไปเกือบ 30 กิโลเมตรเอง จากลิสบอนไปซินทรามีรถไฟออกทุก 10 นาที
ขึ้นรถไฟได้ที่สถานีรถไฟ Rossio ที่อยู่ใจกลางเมืองเก่าลิสบอน ที่นี่เป็นสถานีรถไฟที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามจากสถานีรถไฟซินทรา
ใช้เวลาเดินเท้าเข้าสู่ใจกลางเมืองประมาณ 10 นาที แต่ถ้าเดินไปถ่ายรูปไปก็อาจจะเลยเถิดไปถึงครึ่งชั่วโมงได้
เพราะระหว่างทางมีทั้งความรื่นรมย์และร่มรื่นให้แวะดูตลอดทาง
ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือบ้านเรือนที่เลื้อยไล่ไปตามเนินเขา
เมื่อเดินถึงย่านใจกลางเมืองก็จะเจอกับพระราชวังหลวง (Sintra National Palace) ที่เคยเป็นที่อยู่ของราชวงศ์ของโปรตุเกสในสมัยก่อนปฏิวัติปี ค.ศ. 1910
ถ้าหาไม่เจอให้สังเกตปล่องไฟสีขาว 2 ปล่องแหลมๆ ที่อยู่เหนือพระราชวัง
สมัยก่อนเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์และขุนนาง เมื่อไหร่ที่ต้องการหนีร้อนมาพึ่งเย็นก็จะมาพักผ่อนกันที่นี่ หรือแม้แต่บางครั้งที่ในเมืองเกิดโรคร้ายระบาดอย่างหนัก ที่นี่ก็เป็นแหล่งหลบภัยด้วยเช่นกัน
บางคนอาจจะมองว่าวังนี้ทำไมดูหน้าตาแปลกๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะถูกรื้อปรับขยับแต่งหลายรอบ แต่สำหรับชาวซินทราก็ยังถือว่าเป็นไข่มุกงามประจำเมืองที่ควรค่าแก่การรักษา
ใครที่มามือเปล่าก็ไม่ต้องกังวล ซินทรามีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแจกแผนที่พร้อม เจ้าหน้าที่คอยแนะนำข้อมูลทุกอย่าง
เพราะถึงแม้ซินทราเล็กก็จริง แต่มีพระราชวังหลายแห่งสร้างอยู่ตามเนินเขาสูง
แถมยังเป็นเมืองที่รวยสุนทรีย์ เพราะมีพิพิธภัณฑ์ให้แวะเยี่ยมชมงานศิลปะดีๆ เกือบ 10 แห่ง หรือถ้าใครชอบความร่มรื่นของสวน ที่นี่ก็มีสวนให้เดินเล่นเย็นใจมากกว่า 7 แห่ง
แต่เท่าที่เดินสำรวจดูคร่าวๆ ต้องบอกว่าเป็นเมืองเล็กที่น่าหยิกมาก เพราะไม่ว่าซอกซอยไหนของซินทราก็แปดเปื้อนไปด้วยความน่ารักน่าชัง
โดยเฉพาะตรอกแคบๆ บนเนินขึ้นลงในย่านเมืองเก่าที่ปูไว้ด้วยหินแกรนิต
สองฝั่งมีร้านค้าที่ตกแต่งหน้าร้านไว้อย่างเก๋ไก๋ด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบโปรตุเกส
ทุกตรอกของซินทราจึงน่าเดินและน่าช้อปอย่างยิ่งถ้าจะช้อปที่ซินทรา ของยอดนิยมของที่นี่ก็เป็นพวกกระเบื้องเคลือบ เซรามิก ภาพเขียนไปจนถึงพวกจิวเวลรี
ปกติเป็นคนสะสมภาพเขียนสีน้ำมันอยู่แล้ว เลยหิ้วติดไม้ติดมือกลับมาได้ภาพหนึ่ง
แต่ดูเหมือนนักท่องเที่ยวที่มาไม่มีใครช้อปหรือชมเพลิน เพราะไฮไลต์ของซินทราอยู่ห่างจากตัวเมืองไปอีก 5 กม. ที่นั่นคือ พระราชวังเปนา (Pena Palace)
ใครที่ตั้งใจจะไปพระราชวังเปนา จะเดินคงไม่ไหวเพราะเป็นทางขึ้นเขาคดเคี้ยว
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนั่งรถเมล์สาย 434 จากด้านหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่ารถไปกลับคนละประมาณ 4.5 ยูโร
พอขึ้นไปถึงก็จะเจอกับคลื่นนักท่องเที่ยวที่ต่อคิวกันซื้อตั๋วยาวเหยียดหน้าร้อนเขาเปิดถึงทุ่มหนึ่ง แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวแค่ 6 โมงเย็นก็ปิดแล้ว
จากปากทางเข้าพระราชวังเปนา ต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 10 นาที ถ้าใครไม่อยากเดิน เขามีรถให้บริการขึ้นลงคนละ 2 ยูโร แนะนำว่าใครมาเที่ยว ใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่สวมใส่สบายจะดีกว่าเพราะเป็นทางเดินขึ้นลงเขาซะส่วนใหญ่
ยิ่งถ้าใครตั้งใจจะเข้าไปเดินตามเส้นทางเดินภายในพระราชวังเตรียมน้ำดื่มติดไปด้วย เพราะฤดูร้อนจะร้อนมาก ก่อนจะมาเป็นพระราชวังสุดไฉไลที่ถูกเนรมิตขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19
ที่นี่เคยเป็นคอนแวนต์เล็กๆ ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 500 ปีก่อน ช่วงศตวรรษที่ 18 ที่ลิสบอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่นี่ก็ถูกฟ้าผ่าอย่างรุนแรง
แต่ต่อมากษัตริย์เฟอร์ดินานมาเป็นผู้ครอบครองต่อและโมดิฟายให้เป็นวังอันสุดแสนโรแมนติก โดยมอบหมายให้สถาปนิกชาวเยอรมันทำหน้าที่แต่งแต้มให้จนงามหยาดเยิ้ม
สีสันฉูดฉาดของพระราชวังสไตล์มัวริชแห่งนี้ และสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองส์ มัวริช และนีโอ-กอทิก ผสมผสานและกลมกลืนได้อย่างแนบเนียนบวกกับมุมต่างๆ ภายในพระราชวัง รวมถึงข้าวของที่กษัตริย์และราชวงศ์เคยใช้ ยังคงถูกเก็บไว้อย่างครบถ้วน ด้านในมีทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ระเบียงชมวิว และมีโบสถ์เล็กๆ อยู่ด้วย
น่าเสียดาย ที่เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปตามห้องหับต่างๆ ที่ทำให้หลายคนประทับใจน่าจะเป็นการออกแบบซุ้มประตู ที่แต่ละซุ้มจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น แต่ส่วนใหญ่จะชื่นชอบยอดปราสาทที่มีลูกเล่นแพรวพราว
แค่หน้าต่างและระเบียงตามมุมต่างๆ ที่ทำได้อย่างประณีตก็ทำเอาคนชอบถ่ายรูปมือเป็นระวิง ที่นี่ไม่เพียงได้รับตำแหน่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก แต่สำหรับชาวโปรตุเกสที่นี่คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของพวกเขา
ภายในเขตพระราชวังยังมีสวนสวยที่ทั้งสงบและร่มครึ้ม และตามเส้นทางเดินมีพันธ์ุไม้แบบเมดิเตอร์เรเนียนเอาไว้ให้นักท่องสวนได้ชมกัน
เดินถัดจากพระราชวังเปนาไปแค่เหนื่อยสองเหนื่อย เป็นมัวริช คาสเซิล (Moorish Castle) ปราสาทเก่าแก่ที่พวกมัวร์สร้างไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 แต่ปัจจุบันชำรุดทรุดโทรมจนเหลือเป็นป้อมปราการและหอคอยร้างๆ
พวกมัวร์เข้ามาแผ่อิทธิพลตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 8 เข้ามาสร้างปราสาทราชวังขึ้นบนเนินเขา มีป้อมปราการไว้คอยสังเกตการณ์ กำแพงและบันไดที่ทอดยาวคดเคี้ยวขึ้นไปบนปราสาทนั้นดูแข็งแรง มั่นคง
แต่ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของโปรตุเกส พระราชวังส่วนใหญ่จึงถูกทำลายลงอย่างน่าเสียดาย เมื่อขึ้นมาถึงบนนี้มองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองซินทราสวยงาม อากาศก็ดี
เพราะแบบนี้ราชวงศ์โปรตุเกสถึงนิยมมาสร้างพระราชวังฤดูร้อนกันที่ซินทราเมืองเล็กๆ ที่น่ารักในยุโรปมีอยู่เยอะ ซินทราเป็นหนึ่งในนั้น ใครชอบสะกดรอยตามหาเมืองเล็กที่น่ารัก บรรจุชื่อของซินทราเอาไว้ในลิสต์ได้เลย
-จากกรุงเทพฯ ไปลิสบอน สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์มีเที่ยวบินไปทุกวัน เปลี่ยนเครื่องที่อิสตันบูล คลิกไปดูที่ www.turkishairlines.com
-จากลิสบอนไปปอร์โตมีรถไฟออกทั้งวัน คลิกไปเช็กตารางรถไฟได้ที่ www.raileurope.fr
– ซินทรามีที่พักให้เลือกพอสมควร คลิกไปเลือกได้ที่เว็บไซต์จองที่พักอย่างแอร์บีเอ็นบี www.airbnb.com