24 Hours in Shibuya

Story & Photo by Orawan

ผู้คนกว่า 3,000 คนที่กำลังมุ่งหน้าเดินตรงไปยังจุดหมายปลายทางผ่านห้าแยกที่ไขว้ไปมาที่ชวนวิงเวียน แต่กลับไม่มีใครสักคนเดินชนกันเลย ที่นี่คือ แยกชิบุย่า (Crossing Shibuya) แยกที่ปรากฎตัวบนแผ่นฟิล์มมานักต่อนักไม่ว่าจะเป็น Resident Evil 4 Afterlife หรือ The Fast and The Furious 3  Tokyo Drift การที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้คนที่เดินสวนไปมาบริเวณแยกนี้ ให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของฉากในภาพยนตร์ก็ว่าได้

09.00 น. เริ่มต้นวันที่ห้าแยกชิบุย่า

เราเริ่มต้นมื้อเช้ากันที่วิวมุมสูงของห้าแยกชิบุย่าซึ่งมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นจากร้านกาแฟสตาร์บัคส์ สาขาSHIBUYA TSUTAYA ที่มีผู้คนมากมายมาจับจองที่นั่งกัน แต่ถ้าใครไม่ต้องการคนพลุกพล่านก็ต้อง L’Occitane Café สาขาชิบุย่า แต่ที่นี่เปิดสายหน่อยประมาณ 10.00 น. หรือตรงร้าน Estacion Cafe ที่ชั้น 5 ของโรงแรม Shibuya Excel Hotel Tokyu ก็มีที่นั่งติดกระจกที่สามารถเห็นวิวพานอรามาของห้าแยกชิบุย่าได้เช่นกัน เปิดตั้งแต่เช้า

แต่ถ้าจะประหยัดเงินได้มุมที่ตำลงมาอีกนิด ก็ต้องทางเดินมาร์กซิตี้ กัดกินแซนด์วิชขนมปังจากร้านสะดวกซื้อก็พอได้อยู่ อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่หากใครมาชิบุย่าต้องวิ่งตรงรี่ไปถ่ายรูปนั่นก็คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko Statue)

รูปปั้นสัมฤทธิ์แห่งนี้เป็นตัวแทนของฮาจิ สุนัขที่ได้ชื่อว่าเป็นสุนัขที่จงรักภักดีกับเจ้านายอย่างที่สุด ตำแหน่งที่คาดกันว่าคือประตูที่ฮาจิมานั่งรอเจ้าของชื่อ “ฮิเดะซะบุโร อุเอะโนะ” เป็นศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการเกษตรกรรม แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว แม้ว่ารูปปั้นนี้จะสร้างยาวนาน แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า รูปปั้นฮาจิโกะตัวเดิมนั้น เปิดตัวปี ค.ศ. 1934 ซึ่งตอนนั้นสุนัขฮาจิ ยังไม่เสียชีวิต วันที่เปิดรูปปั้น เจ้าฮาจิยังมาร่วมเป็นสักขีพยานอยู่เลย และอีก 1 ปีหลังจากนั้นเจ้าฮาจิถึงเสียชีวิต ประกอบกับช่วงสงครามโลกครั้งที่สองรูปปั้นฮาจิโกะถูกนำไปหลอมใช้งาน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1948 ทาเคชิ อันโด บุตรชายของศิลปินผู้สร้างรูปปั้นดั้งเดิมได้หลอมรูปปั้นฮาจิโกะนี้ขึ้นมาใหม่ และยังคงตั้งอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วไปช้อปปิ้งกันได้ คงไม่ต้องอธิบายกันมากว่าบริเวณห้าแยกชิบุย่าแห่งนี้มีร้านค้ามากมายเพียงใด คุณสามารถซื้อสินค้าได้แทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นสินคา้ ชิ้นเล็กๆ อย่างตุ้มหู แหวน ไปถึงตุ๊กตาขนาดใหญ่เท่าคนโอบก็ยังได้

11.00 น. มื้อกลางวันที่แลนด์มาร์กแห่งใหม่

สำหรับคนที่อยากหลบหลีกผู้คนที่พลุกพล่านออกไปสักนิดแนะนำให้เดินไปทางด้านใต้ของชิบุย่ามีแหล่งช้อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่เรียกว่า ชิบุย่าสตรีม (Shibuya Stream)

ความโดดเด่นของที่นี่นอกจากจะมีร้านค้าและธุรกิจที่มีเอกลักษณ์กว่า 30 ธุรกิจแล้ว

ยังมีลานกว้างและเส้นทางเดินริมแม่น้ำที่ยาวกว่า 600 เมตร ที่มีความรื่นรมย์ไปด้วยต้นไม้เพื่อให้ได้เพลิดเพลินไปกับสายน้ำและธรรมชาติ ซึ่งตรงบริเวณชั้นหนึ่งริมแม่น้ำนี้เองก็มีร้านอาหาร เครื่องดื่มให้บริการคุณสามารถซื้ออาหารแล้วนั่งกินริมน้ำได้

สำหรับชั้น 2 และ 3 ก็จะเป็นร้านค้าและร้านอาหารทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารนานาชาติเช่น อาหารสเปน ฯลฯ

ชั้นที่ 4-8 จัดเป็นห้องประชุมและจัดกิจกรรมต่างๆ นอกจากแหล่งช้อปปิ้งแล้วยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมชิบุย่าสตรีมเอ็กเซลกรุงโตเกียวแห่งใหม่ซึ่งใช้พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 9-13 ของอาคารเป็นที่พักระดับมาตรฐานสากล

เราสามารถแวะมาเที่ยวในยามเช้ารับประทานอาหารเช้า พร้อมรับแสงแดดอุ่นๆ หรือจะเลือกมาช่วงค่ำมาจิบเครื่องดื่มหรือกินอาหารริมแม่น้ำ เป็นชิบุย่าในอีกรูปแบบที่สามารถผ่อนคลายจากผู้คนจำนวนมากในเมืองได้อย่างไม่น่าเชื่อ

15.00 น. เงียบสงบกลางกรุงโตเกียว

นอกจากชิบุย่าจะขึ้นชื่อเป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังแล้วฮาราจูกุ (Harajuku) ถือได้ว่าเป็นแหล่งแฟชั่นวัยรุ่นญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อและพลุกพล่านอีกแห่ง แต่ในบริเวณนี้เองก็มีสถานที่ที่เงียบสงบอยู่อีกแห่ง นั่นคือ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine หรือ Meiji Jingu)

เป็นศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่ตั้งอยู่ย่านฮาราจูกุ ในเขตชิบุย่า

ถ้าคุณปลีกเวลาจากการจับจ่ายใช้สอยได้ที่นี่เป็นอีกแห่งที่ควรแวะ สร้างเพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็งตั้งแต่ปีค.ศ. 1920 มีพื้นที่กว่า 7 แสนตารางเมตร

เพียงแค่เดินผ่านเสาโทริอิขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านกว่า 12 เมตร เข้ามาจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่นและสงบได้อย่างทันที

เสาโทริอินี้เปรียบได้กับเขตแดนระหว่างมนุษย์และเทพเจ้าผ่านเสาเข้าไปเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่มีต้นไม้กว่าแสนต้น สามร้อยกว่าสายพันธุ์ ที่สร้างความรู้สึกสงบแตกต่างจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่อย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว

ก้าวเดินลึกเข้าไปด้านในป่าก็จะพบกับศาลเจ้าที่เป็นที่เคารพของคนญี่ปุ่น

ในช่วงปีใหม่ที่นี่จะมีทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไหว้พระขอพรกว่าสามล้านคนเลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้วก็ยังนิยมใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานแบบชินโตด้วย หากคุณมาจังหวะดีๆ คุณจะได้เห็นพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นที่สวยงาม

18.00 น. ค่ำคืนกับแสงสี

เมื่อแสงตะวันลาลับขอบฟ้า แสงไฟนีออนและป้ายโฆษณาบริเวณย่านชิบุย่าก็เปล่งแสงแข่งกันเป็นที่สนุกสนานกับสายตาในยามค่ำคืนเช่นนี้ คลับชื่อดังหลายแห่งเริ่มเปิดเพลงสนุกสนาน ครึกโครม ไม่ว่าจะเป็นที่ WOMB Clubasia ที่มาพร้อมกับผนังสีแดงและป้ายมังกรสีดำ ATOM TOKYO และอีกหลากหลายคลับที่พร้อมต้อนรับผู้คนที่ต้องการสังสรรค์ยามเลิกจากงานที่เคร่งเครียด และบรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสแสงสียามราตรี

ที่ชิบุย่ามีทั้งร้านที่พร้อมเปิดโต้รุ่งให้คุณกับเพลงแนว EDM HIPHOP ELECTRONICA แบบไม่ต้องหลับใหลกัน หรือแบบชิลๆสบายๆ แบบร้านนั่งเล่นพูดคุยก็ย่อมได้สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้คือแม้ว่าผู้คนที่ชิบุย่าแห่งนี้จะดูวุ่นวาย แต่ในมุมหนึ่งก็จะมีความเงียบสงบให้คุณได้พักกายพักใจตลอด ชิบุย่าเป็นสถานที่พร้อมต้อนรับผู้คนทุกรูปแบบเสมอ มาใช้ 1 วันของคุณที่ชิบุย่ากัน

Share This Post:000