REdiscover Khao Yai
ภาพโดย Royal Enfield Thailand
เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง Royal Enfield มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แบรนด์อังกฤษ จัดทริป REdiscover Khao Yai 2 วัน 1 คืน โดยมีทั้งสื่อสายรถ และสื่อไลฟ์สไตล์ ร่วมประสบการณ์การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในครั้งนี้
เรานัดเจอกันเพื่อรับฟังเส้นทางการเดินทางในครั้งนี้ ที่ตึก CW Tower แถวถนนรัชดาภิเษก โดยได้แนะนำ “คุณอนุจ ดัว” หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, รอยัลเอ็นฟีลด์ ที่จะร่วมเดินทางขับขี่ไปกับพวกเราในครั้งนี้
จัดเต็มกับชุดและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ รถที่พวกเราจะได้ทดสอบในครั้งนี้คือ รุ่น Classic 350 ร่วมด้วย Interceptor 650 Twin และ Continental GT 650 Twin ซึ่งครั้งนี้เราจะขับขี่กันในแบบคาราวาน โดยมีพี่เซ็ม และ พี่แมน คอยดูแลขบวนประกบหน้าและหลังเพื่อความปลอดภัย
เราออกเดินทางโดยมุ่งหน้าถนนพระราม 9 และวิ่งต่อกรุงเทพกรีฑา-ฉลองกรุง ซึ่งช่วงเวลาที่ขับขี่การจราจรคล่องตัวพอสมควร แม้ว่าตัวรถจะมีน้ำหนักพอควร แต่ก็ไม่ทำให้การควบคุมลำบากแต่อย่างใด เรียกได้ว่าให้ความคล่องตัวได้ดีน่าพอใจมาก
อัตราการเร่งแซง การควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่ปลายเท้า สัมพันธ์กับการปล่อยคลัชที่มือ และบิดคันเร่ง ความรู้สึกมาเต็ม ทำให้พวกเราสนุกกับการขับขี่กันมากทีเดียว
เผลอแป๊บเดียวเราก็มาถึงร้าน Voodoo Cafe (วูดู คาเฟ่) ร้านอาหารชื่อดังย่านหนองจอก เพื่อรับประทานอาหารเช้ากัน
เมื่อเข้ามาในบริเวณร้าน บอกเลยว่าจะต้องหลงใหลสวนสวยสไตล์ยุโรป และบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้รอบๆ ร้าน อีกทั้งการตกแต่งของร้าน ทำให้พวกเราเพลิดเพลินกับรสชาติที่อร่อยและร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่อย่างสนุกจนเกือบลืมเวลาออกเดินทางกันเลย
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน เราก็มุ่งหน้าถนนรังสิต-นครนายก เราได้ใช้ความเร็วกันพอสมควรเพราะสภาพการจราจรคล่องตัวมากพอสมควร ความเร็วที่ได้ทำให้การขับขี่สนุก ไม่รู้สึกเหนื่อยในการขับขี่ และตัวเบาะก็รองรับสรีระของผู้ขับขี่ได้ดี (ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่แบบที่ชื่นชอบ)
หลังจากเราได้ลองทั้งอัตราเร่ง การทรงตัว ความคล่องตัว กันมาพักใหญ่ก็แวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ ดาษดา รีสอร์ต บริเวณริมบึงน้ำ บรรยากาศสงบ ไม่มีแดด ทำให้หลังอิ่มท้องกันแล้ว พวกเรายังนั่งชิลๆ เสพบรรยากาศกันจนอิ่มตา
เราขับขี่ออกมาท่ามกลางบรรยากาศครึ้มๆ ของเมฆฝนที่ไล่ตกไปก่อนหน้าเรา สภาพถนนแห้งไปหมดไม่เหลือร่องรอยน้ำฝนให้เป็นอุปสรรคมากนัก แต่กลับทำให้พวกเราขับขี่ด้วยความสบายตัว กับอากาศเย็นๆ หลังฝนตก
จนมาถึงทางเข้าด่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือวาตรวจวัดความดังเสียงท่อด้วยกฏรอบเครื่องยนต์ 4,000 รอบ/นาทีจะต้องดังไม่เกิน 95 เดซิเบล รถ Royal Enfield ที่มาร่วมทริปผ่านเกณฑ์ทุกคัน ไม่มีปัญหา ข้อสำคัญของการขับขี่รถภายในอุทยานฯ อย่างปลอดภัยทั้งคนและสัตว์ป่า แนะนำให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
เส้นทางการขับขี่ท่ามกลางต้ไม้ใหญ่สีเขียว ที่เพิ่งรับน้ำฝนชุ่มฉ่ำกันมาก่อนหน้า ก็ถ่ายทอดความสดชื่นเย็นสบายมาให้เราได้สัมผัสกัน เชื่อว่าหลายๆ คนที่เคยขับขี่บนเส้นทางนี้ คงรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้ดี
จากนั้นขบวน REDiscover ออกเดินทาง เราแวะเก็บภาพสวยๆ กันที่อ่างเก็บน้ำสายศร สายลมเย็นๆ พัดมา นักท่องเที่ยวหลายๆ กลุ่มต่างลงมาเก็บภาพทั้งกลุ่มครอบครัว คู่รัก เป็นภาพที่สวยงาม
เรามาแวะพักดื่มกาแฟกันที่ร้านกาแฟเขาใหญ่ ร้านค้าสวัสดิการฯ บริเวณด้าน นั่งชมป่าไม้ที่อยู่เบื้องหน้าเราหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว นั่งมองดูกวางมาแทะเล็มหญ้าบริเวณลำธารต้นน้ำลำตะคอง พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอด
ในบริเวณศูนย์บริการฯ ก็ยังมีกวางตัวใหญ่ให้เราได้เห็นกันด้วย แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทางอุทยานฯ ที่ติดป้ายประกาศให้ทราบอยู่หลายจุด เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและสัตว์ป่า
ตรงทางเข้าศูนย์บริการนักท่องเทียว ณ ที่ทำการอุทยานฯ ก่อนที่จะเข้าไปร้านกาแฟ ด้านข้างของจุดประชาสัพันธ์ยังมีการจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมา และสถานที่ภายในอุทยานรวมทั้งชนิดของสัตว์ป่าที่พบภายในอุทยานฯ ให้เราได้เรียนรู้ศึกษา น่าสนใจมากทีเดียว
เราขี่ลงทางฝั่งปากช่อง ได้ทดสอบระบบช่วงล่าง เบรก เอนจินเบรก เพราะเป็นทางลงเขาต่อเนื่อง มีทางโค้งให้ได้ทดสอบการทรงตัวเป็นระยะ รถ Royal Enfield ก็พาพวกเราเข้าเช็กอินที่ Kirimaya Golf Resort & Spa ได้อย่างสะดวก
หลังแยกย้ายกันไปอาบน้ำให้สบายตัว เพิ่มความสดชื่น ช่วงเย็นเรามีปาร์ตี้กันเล็กน้อย นอกจากร่วมรับประทานอาหารเย็นกันแล้ว ยังได้นั่งพูดคุย ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น โดยคุณอนุจ ดัว ที่ได้ร่วมขับขี่มาในขบวนครั้งนี้กับพวกเรา
ได้มาร่วมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับรับฟังข้อแนะนำ และข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์จากกลุ่มสื่อที่ได้ร่วมทดสอบครั้งนี้ ด้วยความเต็มใจ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขพัฒนาต่อเนื่องให้ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของทาง Royal Enfield และไม่เพียงแค่นั้น ทาง Royal Enfield ยังมุ่งหน้าเพื่อประโยชน์ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ต่อสังคมโดยรวม
หลังค่ำคืนให้บรรยากาศแบบเพื่อน ที่ได้คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เราแยกย้ายไปพักผ่อน เพื่อวันพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับ
รุ่งเช้าท่ามกลางความสวยงามและอากาศที่เย็นสบายภายในรีสอร์ต เมื่อรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อย พวกเรามารวมตัวเพื่อฟังเส้นทางขับขี่ช่วงขากลับ ซึ่งมีการเปลี่ยนไปใช้เส้นทางมวกเหล็ก-มิตรภาพ-พหลโยธิน สภาพจราจรเป็นแบบไฮเวย์ มีรถใหญ่เป็นเพื่อนร่วมทาง แน่นอนว่ารถของ Royal Enfield พาพวกเราเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
การขับขี่แบบกลุ่มเพื่อน ทำให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ในหลายๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องการขับขี่เท่านั้น มุมมองและแนวคิด การพูดคุยและรับฟัง ทำให้เราได้เปิดโลกในมุมอื่น ถ้าเป็นกลุ่มเพื่อนที่ชอบหรือหลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกแบบ Royal Enfield แล้วยิ่งเป็นการเดินทางที่ออกรสยิ่งนัก