เตรียมรถรับหน้าฝน
ก้าวเข้าเดือนมิถุนายน เมืองไทยเริ่มเปลี่ยนจากฤดูร้อนเตรียมเข้าสู่ฤดูฝน รถยนต์ของเราหลังจากที่เจอสภาพอากาศร้อนอบอ้าว สู่สภาพอากาศชื้นและแฉะ อุปกรณ์หลายอย่างต้องปรับสภาพ ลองไปดูกันว่ามีอุปกรณ์ใดบ้างที่ต้องตรวจสอบก่อนเข้าสู่หน้าฝน
ใบปัดน้ำฝน
ในเอกสารรถยนต์มักจะมีแจ้งว่าให้เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนอย่างน้อยปีละครั้ง ยิ่งช่วงเปลี่ยนฤดูจากร้อนเป็นฝน ยางของใบปัดน้ำฝนอาจเสื่อมจากความร้อนที่ผ่านมาก็เป็นได้ วิธีตรวจง่ายๆ ลองฉีดน้ำใส่กระจกรถแล้วลองเปิดใบปัดน้ำฝนดูว่า เกิดเสียงดังหรือเปล่า หรือเกิดคราบน้ำขณะทำงานหรือไม่ ลองใช้ผ้านุ่มชุบน้ำบิดให้หมาดเช็ดไปตามความยาวของใบปัดน้ำฝนดูว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ดีขึ้นเปลี่ยนดีกว่า ปัจจุบันราคาใบปัดน้ำฝนไม่แพงมากนัก วัดความยาวของยางปัดน้ำฝนเราไว้หน่วยเป็นนิ้ว
น้ำยาฉีดกระจก หรือน้ำเปล่า
ลองเปิดดูว่าน้ำยังฉีดแรงอยู่หรือไม่ เพราะช่วงแรกๆ ที่ฝนตก กระจกรถอาจมีฝุ่น การฉีดน้ำที่กระจกให้สะอาดเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าเปิดแล้วน้ำไม่แรงให้ลองใช้เครื่องเป่าลมเป่าผงฝุ่นที่อาจติดอยู่ เปิดฝากระโปรงหน้ารถเช็กระดับน้ำยาฉีดกระจกไม่ให้เหลือน้อยจนเกินไป เติมน้ำยาให้พร้อมสำหรับใช้งานอยู่เสมอ แต่ถ้าน้ำเต็ม เป่าฝุ่นแล้วก็ยังฉีดไม่แรง คงต้องปรึกษาช่าง
ระบบเบรก
เป็นสิ่งสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งสำหรับระบบเบรกของรถยนต์ในช่วงหน้าฝน (ระยะเบรกจะมากกว่าปกติ เพราะถนนลื่น) ให้เช็กระดับน้ำมันเบรกไม่ต่ำกว่า Min และไม่เกิน Max สีไม่ควรดำเข้มมากไป เช็กผ้าเบรกว่าสึกใกล้หมดหรือยัง ลองฟังจากเวลากดเบรกว่ามีเสียงอี๊ดๆ เหมือนเหล็กสีกันหรือเปล่า หรือต้องกดจมลึกกว่าปกติ หากพบสิ่งผิดปกติ ให้รีบนำไปเข้าศูนย์ฯ หรืออู่
สัญญาณไฟ
ระบบไฟส่องสว่างต่างๆ ทั้ง ไฟเลี้ยว, ไฟหน้า, ไฟสูง, ไฟเบรก ระบบไฟเหล่านี้เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญของการขับขี่ช่วงหน้าฝน ผู้ขับขี่ควรตรวจเช็ก ระบบไฟก่อนออกเดินทางว่าหลอดไหนชำรุด และเปลี่ยนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานทุกดวง รวมไปถึงทำความสะอาดคราบสกปรก เพื่อความสว่างและเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้นและยังช่วยให้รถคันอื่นเห็นรถของเราได้ชัดขึ้นอีกด้วย
ยางรถยนต์
ปกติยางรถยนต์จะมีอายุใช้งานประมาณ 2 ปีหรือระยะทางประมาณ 50,000 กม. และควรสับเปลี่ยนยางรถยนต์ที่ระยะทาง 10,000 กม. ตรวจสอบได้โดย ดูว่าเนื้อยางจะต้องไม่แข็งลองเอาเล็บจิกดู ดอกยางจะต้องไม่สึกจนต่ำกว่าขีดบอกระดับต่ำสุดของยาง หรือต้องลึกมากกว่า 2 มม. ถ้าต่ำกว่านี้ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัย เติมลมยางให้มากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) เพื่อยางจะรีดน้ำดีขึ้น ตรวจเช็ก ลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และอย่าลืมตรวจเช็กยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งานเสมอ