One Day in Sawara – หนึ่งวันใน ซาวาระ
Story & Photo by Orawan
เคยมีคนถามฉันว่า “อยากเที่ยวเมืองเล็กใกล้กรุงโตเกียว แนะนำหน่อย”
“มีเวลาวันเดียวไปเที่ยวไหนใกล้กรุงโตเกียวได้บ้าง”
“ไม่ได้ไปเกียวโต แต่อยากดูเมืองเก่าแบบนั้นบ้าง ไปไหนดี?”
นี่ เลย…ซาวาระ (Sawara) เมืองการค้าเก่าแก่สมัยเอโดะตั้งอยู่ที่จังหวัดชิบะ จากสนามบินนาริตะนั่งรถไฟ JR Narita Line for Choshi ไปลงที่ สถานีซาวาระใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าออกจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียวก็ต้องนั่งรถไฟสาย Yokosuka Sobu ไปลงที่สถานีนาริตะแล้วต่อไปยังสถานีซาวาระใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง แนะนำว่าออกจากโตเกียวประมาณสัก 8 โมงเช้า กำลังเหมาะถึงที่เมืองซาวาระประมาณ 10 โมงเช้าพอดี
เดิมซาวาระอาจจะไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนักแต่หลังจากที่มีละครมาถ่ายทำ เมืองซาวาระ “เอโดะน้อยแห่งโฮกุโซ (Hokuso)” แห่งนี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นประกอบกับการเดินทางที่สะดวกแล้วยังทำให้นักท่องเที่ยวไม่ลังเลใจที่จะแวะมาสัมผัสเมืองแห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้
โดยเราสามารถเห็นร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของเมืองในวันวานเหล่านั้นได้บริเวณริมแม่น้ำโอโนะ (Ono River) ซึ่งคลองแห่งนี้เคยใช้ขนส่งสินค้ากันในสมัยเอโดะ
อาคารตลอดแนวถนนคาโตริ (Katori) ได้ปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้าขายของที่ระลึกและร้านอาหาร เช่น ร้านผลิตเทียนญี่ปุ่น โรงทอผ้าลวดลายแบบญี่ปุ่นแท้
ร้านผลิตถ้วยชามกระเบื้องและเซรามิก ร้านเครื่องไม้แกะสลัก ร้านผลิตกระดาษเขียนจดหมาย สินค้าที่ขายส่วนใหญ่เป็นสินค้าทำมือและมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะสนนราคาไม่แพงมากนัก สามารถจับจ่ายใช้สอย (เงินเยนที่มี) ได้อย่างคล่องมือ
ในบริเวณเดียวกันมีสะพานขนาดเล็กข้ามแม่น้ำที่ชื่อ สะพานจาจา (Ja Ja Bridge) หรือสะพานโทโยฮาชิ เดิมเคยเป็นช่องทางชลประทานเพื่อจัดส่งนำผ่านท่อภายในสะพาน ไปยังนาข้าวที่อยู่ด้านล่างในช่วงที่ต้องการใช้นำในระหว่างฤดูเพาะปลูกข้าว
แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำ สะพานจะระบายน้ำออกไปที่แม่น้ำโดยการถอดแผงกั้นออกเสียงน้ำเมื่อมีการระบายออกเป็นเสียง “จาจา” จึงเรียกสะพานนี้ว่า “สะพานจาจา”
ปัจจุบันแม้จะไม่มีการส่งน้ำเช่นเดิมแต่ทางเมืองก็มีการระบายน้ำทุกๆ 15 นาทีเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชม และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ของเมืองนี้ก็คือการล่องเรือชมความสวยงามของทิวทัศน์สองฝั่งลำน้ำที่ไหลผ่านเขตอนุรักษ์แห่งนี้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 1,300 เยน และเด็ก 700 เยน
ทางขึ้นลงเรือตั้งอยู่ใกล้กับบ้านเก่าของ อิโนะ ทาดาทากะ (Ino Tadataka) ผู้สำรวจและทำนิฮอน เอ็นไกยโยชิ เซ็นซุ หรือแผนที่ประเทศญี่ปุ่นจนสำเร็จจากการวัดพื้นที่ด้วยการเดินเท้าเป็นคนแรก อิโนะ ทาดาทากะ ใช้ชีวิตอยู่นาน 30 ปี หลังจากที่เขาแต่งงานตัวบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว หลังคามุงด้วยกระเบื้องหนา แบบญี่ปุ่น
บริเวณด้านหน้าของตัวบ้านเป็นส่วนค้าขายสินค้า ส่วนด้านหลังเป็นส่วนที่อยู่อาศัย ซึ่งเราจะเห็นสิ่งของเครื่องใช้สมัยก่อนที่จัดแสดงอยู่ รวมทั้งการจัดสรรที่อยู่อาศัยในอดีต ที่สำคัญที่นี่ชมฟรี แต่ถ้าใครอยากรู้จักอิโนะ ทาดาทากะให้มากยิ่งขึ้น
เราแนะนำให้เข้าไปชมที่พิพิธภัณฑ์อิโนะทาดาทากะ (Ino Tadataka Museum) ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านนั่นเองเดินข้ามสะพานจาจาไปก็ถึง ค่าเข้าชมอยู่ที่ 500 เยนต่อคน เปิดตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น. (เข้าชมได้ถึง 16.00 น.) ภายในจัดแสดงเรื่องราวการเดินทางการสำรวจญี่ปุ่น และภาพร่างแผนที่ของอิโนะ ทาดาทากะเอาไว้มากมาย
บอกได้เลยว่าถ้าได้ทราบรายละเอียดแล้วคุณจะรู้สึกทึ่งถึงความสามารถของท่านอิโนะคนนี้ นอกจากอาคารไม้โบราณที่อยู่ทั่วทั้งบริเวณแล้ว คนที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมสมัยโบราณ อาคารมิตซูบิชิ (SawaraMitsubishi-kan) เป็นอีกหนึ่งอาคารที่น่าสนใจ ในช่วงยุคเอโดะ (ช่วงปีค.ศ. 1603 – 1867) มีสินค้ามากมายได้ถูกส่งมารวบรวมไว้ที่ซาวาระและเกิดมีการผลิตสินค้าทั้งสาเกและมิโซะ (ซอสถั่วเหลือง) เกิดกระบวนการค้าขาย ทำให้เกิดความรุ่งเรือง ในปี ค.ศ. 1880
ธนาคารคาวาซากิได้เข้ามาเปิดสาขาในเมืองซาวาระกลายเป็นสำนักงานสาขาอย่างเป็นทางการของธนาคารคาวาซากิในอีก 8 ปีต่อมา อาคารในซาวาระที่เหลืออยู่ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1914 สำนักงานสาขากลายเป็นสาขาของธนาคารมิตซูบิชิที่ซาวาระในปี 1943 ซึ่งธนาคารมิตซูบิชิได้บริจาคให้แก่เมืองคาโตริในปี 1989 ในที่สุดเป็นอาคารสไตล์ตะวันตกสองชั้นที่ก่อด้วยอิฐที่ไม่ไกลจากศูนย์บริการข้อมูลนักเด่นสะดุดตาทีเดียว
สินค้าเด่นของภูมิภาคแถบนี้ก็คือโชยุ มิโสะ นำมันงา เหล้าสาเก สำหรับที่เมืองซาวาระมีโรงกลั่นเหล้าญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์มากว่า 193 ปี ชื่อโรงสาเกโทคัน (Tokun Sake warehouse)ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1825 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสองโรงกลั่นที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองนี้ ภายในโรงผลิตมีถังสาเกขนาดใหญ่สูงเกือบ 1 ชั้นอาคาร มีวิทยากรบรรยายประวัติความเป็นมาและกรรมวิธีการผลิตสาเกที่ส่งผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเจ้าของรุ่นปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 7 แล้วสำหรับสาเกที่นี่รสชาติดีมาก บอกไปเฉยๆ อาจจะว่าโม้ แต่ที่นี่มีรางวัลการันตีรับรองจากงานประกวดมากมายกว่า 15 ครั้ง เ
ราสามารถเข้าชมและทดลองชิมสาเกคุณภาพเยี่ยมเช่นนี้ได้ และในช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคมของทุกปีที่เมืองซาวาระจะมีเทศกาลซาวาระมัตสุริ (SawaraMatsuri) ซึ่งจะมีพิธีแห่ตุ๊กตายักษ์ขนาดสูงกว่า 9 เมตร ที่เป็นตัวแทนของนักรบวีรบุรุษญี่ปุ่นในตำนาน โดยถ้ามาในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลเราสามารถไปชมอุปกรณ์ที่บรรดาช่างทั้งหลายใช้ในการประดิษฐ์ดาชิ อุปกรณ์ที่ใช้ในเทศกาลนั้นทางพิพิธภัณฑ์ดาชิไคคัง(Daishi Kaikan Musuem) ได้เก็บดูแลไว้ เราสามารถชมได้เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานีซาวาระ1 วันในซาวาระของฉันหมดไปด้วยความรวดเร็ว สำหรับคนที่มีเวลาฉันแนะนำให้มาสัก 2 วัน 1 คืน เพราะซาวาระยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจอีกหลายแห่ง ฉันต้องกลับมาเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้อีกแน่นอน