OK ! Okayama

Story & Photo by Orawan

หากคุณต้องการหลีกลี้ผู้คนในย่านคึกคักของเมืองท่องเที่ยว โอคายาม่า (Okayama) ถือได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวทางเลือกอีกเมืองหนึ่งที่ฉันอยากแนะนำ เริ่มจากตื่นแต่เช้าแล้วนั่งรถไฟชินกันเซ็งจากเมืองหลักอย่างโอซาก้า

จากสถานีรถไฟชิน โอซาก้า (Shin Osaka) มุ่งหน้าสู่เมืองโอคายาม่า 50 นาทีเท่านั้น ก็มายืนรับแสงอาทิตย์อันอบอุ่นที่สถานีรถไฟโอคายาม่าอย่างเช่นฉันในครั้งนี้

การเดินทางภายในเมืองโอคายาม่าสะดวกสบายด้วยบริการรถราง บางคันก็แบบโบราณ บางคันก็ปรับปรุงให้ทันสมัย

แต่ไม่ว่าแบบไหนก็น่ารักมาก (ลากเสียงยาวๆ เลย) รถรางนี้จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลัก อย่างเช่น ปราสาทโอคายาม่า สวนโคระคุเอ็น และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ จากสถานีโอคายาม่านั่งไปไม่กี่ป้ายก็ถึงปราสาทโอคายาม่า (Okayama Castle)

ปราสาทโอคายาม่า หรือบางคนเรียกว่าปราสาทอีกา (U – jo) ตามสีปราสาทด้านนอกที่ดำเหมือนอีกาตรงกันข้ามกับสีขาวของปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) สร้างปี ค.ศ. 1597 ในยุคอาซูชิ – โมโมยามะ (Azuchi – Momoyama) อาจจะเป็นเพราะว่าตัวปราสาทนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอะชิ ทำให้บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างจะร่มรื่น และเย็นสบาย

ตัวปราสาทมีทั้งหมด 6 ชั้น ชั้นที่ 1 – 4 จะจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรม ประวัติความเป็นมาของปราสาท ชั้นที่ 5 – 6 จะเป็นจุดชมวิว ภายในตกแต่งให้ทันสมัย มีลิฟท์บริการขึ้นชมวิวด้านบน ด้านในปราสาทแต่ละชั้นก็จะมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมา ตลอดจนเครื่องใช้ต่างๆ

อ่านประวัติแล้วพบว่าอาคารหลังเดิมได้ถูกทำลายลงตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ มีเพียงหอสังเกตการณ์ชื่อว่าซึคิมิ ยาคูระ (Tsukimi Yagura)

ซึ่งเหลือรอดตั้งแต่ตอนสร้างปราสาทมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำอย่างเช่น การแต่งตัวเป็นเจ้าเมืองหรือเจ้าหญิง

มีเกี้ยวแบบโบราณตั้งอยู่ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ด้านล่างสุดมีร้านขายของที่ระลึกและร้านขนมไว้สำหรับคนที่ไม่ต้องการเดินขึ้นไปชมด้านบน

จากปราสาทโอคายาม่าเดินข้ามแม่น้ำไปก็จะเจอกับสวนโคระคุเอ็น (Korakuen Garden) สวนที่การันตีด้วยความงามระดับ 1 ใน 3 สวนสวยของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะมาฤดูไหนคุณก็จะได้เห็นความสวยงามของสวนแน่นอน เพราะพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลของสวนแห่งนี้ แบ่งการจัดต้นไม้เป็น 4 ฤดูกาลกันเลย

ชื่อของสวนมาจากสำนวนของหนังสือจีนโคระคุเอ็น (Korakuen) มีการตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นผสมกับจีน ประกอบไปด้วย ต้นไม้ ไม้ประดับ สระน้ำ เนินดิน และศาลาพักผ่อน

มีเส้นทางที่ตัดผ่านไปยังส่วนต่างๆ ด้วยการออกแบบที่ทำให้ผู้ที่เข้าชมได้เพลิดเพลินกับหลากหลายเส้นทางที่เชื่อมต่อกัน แต่บรรยากาศต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสวนที่รายล้อมด้านนอก เนินดินตรงกลาง ที่เห็นวิวมุมสูงของสวน

ตรงกลางสวนก็มีเรือนพักผ่อนที่มีน้ำไหลผ่าน สำหรับเป็นที่นั่งพักสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชม สำหรับฉันมุมที่ชอบมากคงเป็นตรงกลางที่เป็นสนามหญ้าเขียวสดกว้างใหญ่ ซึ่งจะไม่ค่อยเห็นในการจัดสวนแบบญี่ปุ่นเท่าไรนัก

ด้านหลังจะมองเห็นปราสาทโอคายาม่าอยู่ลิบๆ พอเดินมาเห็นวิวจุดนี้เรียกได้ว่า สวยจนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย ด้วยพื้นที่ประมาณ 133,000 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่ผืนหญ้าประมาณ 18,500 ตารางเมตร คาดว่า 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำถ้าจะดูให้ทั่วถึง

อีกหนึ่งสถานที่หากคุณมาโอคายาม่าแล้วอยากให้แวะไปกันคือเขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) หรือ เมืองโบราณบิคัง (Bikan Historical Quarter) ที่เมืองคุราชิกิ (Kurashiki) ของจังหวัดโอคายาม่า

ที่นี่คุณจะได้เห็นความผสมผสาน ที่ลงตัวกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น ระหว่างบ้านญี่ปุ่นโบราณสีขาวที่เรียงรายกันอยู่ จะมีอาคารทรงตะวันตกแทรกตัวอยู่ได้อย่างกลมกลืน

บรรยากาศค่อนข้าง จะสดชื่นด้วยเป็นเพราะสายลมที่พัดมาจากแม่น้ำคุระชิกิ และภาพของต้นหลิวน้อยใหญ่ที่กำลังล้อเล่นลมเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ

บ้านเรือนเหล่านี้หลายหลังเปิดเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสกลิ่นอาย ของเมืองเก่าที่เคยรุ่งเรืองตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 แห่งนี้

กิจกรรมที่เป็นที่นิยมคือการล่องเรือชมวิวของสองฝั่งแม่น้ำ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที คุณจะได้เห็นอีกมุมมองหนึ่งในการเดินทาง หรือถ้าไม่อยากลงเรือ ฉันแนะนำให้หาร้านขนมเก๋ๆ สักร้าน แล้วทดลองรับประทานพาเฟ่ต์ผลไม้ คุณจะรู้สึกสดชื่นไปกับความสดใหม่ของผลไม้ที่นี่อย่างฉันเป็นแน่แท้

คุณจะหาเมืองที่ครบเครื่องทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ ไม่พอผลไม้สด อร่อย แถมอากาศดี เย็นสบายตลอดทั้งปี ที่สำคัญใกล้กับเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างโอซาก้า (Osaka) สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับจากโอซาก้าได้อย่างสบาย คุณสมบัติแค่นี้คุณควร เซย์ โอเค และพร้อมจะเดินทางไปเที่ยวโอคายาม่า ดินแดนแห่งแสงอาทิตย์ (The Land of Sunshine) อย่างเช่นฉันได้หรือยัง

– จากโอซาก้าสู่โอคายาม่า ถ้ามี JR West Pass ประเภท Kansai Wide ก็สามารถขึ้นได้เลยทุกขบวน (รวมทั้งขบวนด่วนสุดอย่าง Nozomi) โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเติม
– ปราสาทโอคายาม่า หากนั่งรถรางจากสถานี JR Okayama ให้ลงที่ป้าย Shiroshita และถ้านั่งรถเมล์ ลงป้าย Kenchomae ค่าเข้าชมด้านในปราสาทโอคายาม่า (Okayama Castle) ผู้ใหญ่ 300 เยน เวลาทำการเปิด – ปิด : 09.00 – 17.30 น.
– สวนโคระคุเอ็น อยู่ใกล้กับปราสาทโอคายาม่าสามารถเดินมาได้ ค่าเข้า
ชมสวน ผู้ใหญ่ 400 เยน สามารถซื้อเป็นบัตรคู่เข้าชมปราสาทโอคายาม่า ราคาจะเหลือเพียง 560 เยน เวลาเปิดทำการ 07.30 – 18.00 น. (ระหว่าง 20 มีนาคม – 30 กันยายาน) 08.00 – 17.00 น. (ระหว่าง 1 ตุลาคม – 19 มีนาคม)
– เมืองโบราณบิคัง ห่างจากสถานทีรถไฟ JR Kurashiki คุระชิกิ โดยการเดินเพียง 15 นาที และห่างจากสถานีโอคายาม่าประมาณ 45 นาที
– สามารถดูข้อมูลของเมืองโอคายาม่า ผ่านเว็บไซต์ www.okayama-japan.jp/th/