Nan: Escape Back to Nature สัมผัสธรรมชาติ เที่ยวน่านหน้าฝน

ย่างเข้ากลางปี เมืองไทยหลายพื้นที่สายฝนเริ่มโปรยปรายเป็นช่วงเวลาต้นไม้ผลิใบอ่อนสลับกับใบเดิมทำให้ความเขียวชอุ่มและชุ่มฉ่ำ หลายคนมักพูดว่าอย่าเที่ยวฤดูฝนเลยไม่สนุก เปียกชื้นและแฉะ แต่บอกเลยว่าพลาดมากโดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนืออย่างน่าน จังหวัดสุดชิคที่ฤดูฝนเขาจะแปลงร่างเป็นดินแดนแห่งความเขียวขจีของธรรมชาติ ทั้งสายน้ำ ไอหมอก ภูเขา และทุ่งนา บวกกับอากาศกำลังเย็นสบายไม่ร้อนหรือหนาวเย็นจนเกินไป เป็นแหล่งโอโซนชั้นดี ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายที่สำคัญคือคนน้อย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจแบบสโลว์ไลฟ์ (slow life) สุดๆ

ช่วงกรีนซีซั่น (Green Season) แบบนี้ ที่พัก ร้านอาหารมักจะมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ราคาเบาๆ สบายกระเป๋าอีกด้วย ใครอยากหนีความวุ่นวายของสังคมเมือง เพื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติ ชาร์จพลังให้ชีวิต เน้นใช้ธรรมชาติบำบัด เตรียมแพ็กกระเป๋าไปกับเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดน่านช่วงกรีนซีซั่นที่ครบรสทั้งธรรมชาติ วิถีชุมชน วัฒนธรรม และอาหารพื้นเมืองให้ได้เลือกทำกิจกรรมได้หลากหลาย ตามไปพบความสุขแบบครบครัน ณ เมืองน่าน กัน

ก่อนลงไปเที่ยวโซนน่านทางเหนือ ไม่ไกลจากตัวเมืองน่านมากนักขับรถแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง คุณสามารถแวะไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแม่จริม ตำบลน้ำปาย อำเภอแม่จริม ได้ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพพืชพรรณสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นนลำธารสำคัญ และยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากมาย

มีกิจกรรมไฮไลต์ในช่วงฤดูฝน นั่นคือกิจกรรมล่องแก่งน้ำว้า ว่ากันว่าที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายน้ำที่เป็นที่สุดของการล่องแก่งในประเทศไทย โดยกิจกรรมล่องแก่งน้ำว้าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ล่องแก่งตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยสายน้ำว้าเป็นสายน้ำที่มีความยาวกว่า 300 กิโลเมตรแบ่งช่วงของลำน้ำว้าออกเป็น น้ำว้าตอนบน น้ำว้าตอนกลาง และน้ำว้าตอนล่าง ซึ่งที่น่าสนใจคือช่วงน้ำว้าตอนบน-กลาง มีแก่งมากกว่า 100 แก่ง

ตลอดลำน้ำว้ายังมีลำธารและน้ำตกสายน้อยใหญ่ ที่ไหลลงมารวมเป็นแม่น้ำว้า น้ำตกสวยงามเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ไม่ต้องห่วงในเรื่องความปลอดภัย เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด และเพราะว่าเป็นกิจกรรมในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้อาจจำเป็นที่จะต้องดูสถานการณ์จากพยากรณ์อากาศว่ามีพายุใหญ่ช่วงไหน แต่ถ้าเป็นฤดูฝนที่ฝนตกปกติก็สามารถล่องได้ตามปกติ ไม่เพียงแต่กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำว้าแล้ว ภายในอุทยานแห่งชาติแม่จริมยังมีกิจกรรมน่าสนใจอีกเพียบเช่น ขับรถชมวิว, เดินป่าเลียบลำน้ำแปง หรือปีนเขาหน่อ

โซนน่านเหนือ

โซนน่านเหนือ ได้แก่อำเภอที่อยู่บริเวณเหนืออำเภอเมืองขึ้นไป จุดแรกที่อยากแนะนำคือ บ้านสบขุ่น อำเภอท่าวังผา เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติรักการผจญภัย และรักวิถีชีวิตเรียบง่าย มาที่นี่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจและได้เติมพลังให้กับชีวิตอย่างแน่นอนกิจกรรมที่น่าสนใจมีให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

กางเต็นท์บนม่อนแกะ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินเหนือทิวทัศน์ภูเขาอันงดงาม เดินป่าศึกษาธรรมชาติในอุทยานแห่งชาตินันทบุรี สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ชมน้ำตก ลำธาร และเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาพระนอน ที่มีรูปร่างเปรียบเสมือนพระนอนที่ทอดตัวอยู่ ร่วมกิจกรรมไปกับเส้นทางกาแฟ ทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกกาแฟ วิธีการเก็บเกี่ยว และแปรรูปเมล็ดกาแฟ ชิมกาแฟสดๆ จากไร่ เรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย สรรพคุณ และวิธีการนำมาใช้ที่บ้านสวนยาหลวง สันเจริญ สำหรับการเดินทางนั้น บ้านสบขุ่นอยู่ห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 1.5 ชั่วโมง การเดินทางสะดวก ถนนลาดยาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถสองแถว หรือรถเช่า ส่วนที่พักบ้านสบขุ่นก็มีที่พักหลากหลายรูปแบบ จะเลือกพักโฮมสเตย์ เกสต์เฮาส์ หรือกางเต็นท์ก็ย่อมได้

จากบ้านสบขุ่นขับรถไปประมาณ 20 นาทีก็จะถึง ดอยวาว อุทยานแห่งชาตินันทบุรี อำเภอท่าวังผา สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบ Unseen Thailand ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม สวรรค์สีเขียวช่วงฤดูฝนดอยวาวเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ แหล่งต้นน้ำลำธาร มีความงามแบบพิเศษ ร่มรื่น เขียวขจี อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ และชมวิวทิวทัศน์อันงดงาม อีกทั้งขึ้นชื่อเรื่องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ดอกไม้ป่าหลากสีสัน และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ชอบผจญภัย ทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน

เดินทางต่อไปไม่ไกลเข้าสู่อำเภอสองแควบนเส้นทางสายโรแมนติก 1148 เส้นทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ลัดเลาะผ่านภูเขาสูง วิวทิวทัศน์อันงดงาม ผ่านบ้านสะเกิน ชุมชนท้องถิ่นที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย ผู้คนเป็นมิตร เหมาะสำหรับการเรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิม เดินทางต่อผ่านบ้านวังไผ่ สู่จุดหมายปลายทางจุดชมวิวดอยภูโว (บ้านวังไผ่) จุดชมวิวที่สวยงามบนยอดเขา สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทุ่งนาป่าไม้ และภูเขาได้อย่างกว้างไกล แม้ช่วงหน้าฝนอาจจะขึ้นลำบากแต่วิวสวยคุ้มค่า ใครที่ชื่นชอบการขับรถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามหลากหลายรูปแบบ ทั้งทุ่งนา ป่าไม้ ภูเขาสูงสลับซับซ้อนที่เขียวขจีแล้วละก็ จะต้องชอบเส้นทางนี้อย่างแน่นอน ที่พิเศษคือ คุณจะเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของถ้ำหลวงสะเกิน ณ อ่างน้ำงิม บ้านสะเกิน อำเภอสองแควแห่งนี้ที่ช่วงนี้พื้นที่เคยเป็นน้ำจะกลายเป็นพรมหญ้าสีเขียวอ่อน ใกล้ๆ กันนั้นเป็น อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ที่มีโขดหิน สายธาร และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด เหมาะสำหรับการเดินป่าและพักผ่อนหย่อนใจ

ภายในอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ถ้ำขนาดกลางที่เป็นอุโมงค์ลึกประมาณ 600 เมตร ปากถ้ำกว้างประมาณ 20 เมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงาม มีน้ำตกผาธารหรือน้ำตกหงส์เวียงจันทร์ น้ำตกจำนวน 6 ชั้น สูง 30 เมตรซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี สายน้ำไหลรินผ่านชั้นหิน ลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เป็นภาพทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง ธรรมชาติร่มรื่น รายล้อมด้วยป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ สามารถเที่ยวได้ตลอดปี แต่ฤดูที่แนะนำมากที่สุดคือช่วงฤดูฝน และปลายฝนต้นหนาว เพราะจะได้ชมความสวยงามของน้ำตกได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีพืชพรรณสีเขียวขจี และอากาศเย็นสบาย

มาเที่ยวน่านฤดูฝนทั้งที จะลืมมาเที่ยวอำเภอปัว ก็ดูเหมือนขาดอะไรไป อำเภอเล็กๆที่สุดแสนจะโรแมนติก มีที่เที่ยวหลายจุดให้คุณได้ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติช่วงฤดูฝนได้อย่างเต็มที่ เริ่มจาก สกาด หมู่บ้านที่มีจุดชมวิวผาบ่องที่ขึ้นชื่อจุดชมวิวที่เห็นทิวทัศน์ 360 องศาของดอยสกาด ภาพท้องฟ้าสีทองอร่าม ภูเขาสลับซับซ้อน ทุ่งนาเขียวขจี ช่างงดงามเกินคำบรรยาย

และได้สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่าย วัฒนธรรมท้องถิ่น ของชาวไทลื้อที่เก่าแก่ เลือกซื้อของฝาก เรียนรู้ภูมิปัญญา วัฒนธรรม เทคนิคการทอผ้าทอไทลื้อ ดอยสกาดมีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกเมี่ยง กาแฟ และมะแขว่น ที่นี่มีที่พักแบบโฮมสเตย์ บ้านไม้เก่า มากกว่า 100 แห่งให้เลือกพักตามความชอบของแต่ละคน ยิ่งช่วงฤดูฝนห้องพักของที่นี่เห็นทะเลหมอกแทบทุกที่เลยทีเดียว

สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวอำเภอปัวอีกหนึ่งแห่งคือ วัดภูเก็ต ชื่อวัดมาจากคำว่าภู ก็คือ ดอย รวมกับคำว่า เก็ต ของหมู่บ้านเก็ตที่ตั้งวัดนั่นเอง วัดนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ยอดนิยมในการมาไหว้พระ รับบุญกันแล้ว ในช่วงฤดูฝนแบบนี้ บริเวณด้านหลังวัดมีลานชมวิวที่มีวิวที่น่าสนใจเป็นวิวทุ่งนาเขียวขจีตัดกับวิวภูเขาสูงตระหง่าน สายหมอกลอยอ้อยอิ่ง เป็นอีกหนึ่งมุมสงบของจังหวัดน่านงดงามราวกับสวรรค์สรรค์สร้างสถานที่ท่องเที่ยวถัดไป คือ เส้นทางชมวิว 1715

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยทิวทัศน์อันงดงามอากาศบริสุทธิ์ และกิจกรรมมากมาย หนึ่งในไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ จุดชมวิว 1715 ตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 1256 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อถนนลอยฟ้า เชื่อมต่อระหว่างอำเภอปัวและอำเภอบ่อเกลือ ตัวเลข “1715” นั้น มาจากระดับความสูงจากน้ำทะเลปานกลาง บ่งบอกถึงความสูงชันของเส้นทางและความงดงามของทิวทัศน์ที่รออยู่เบื้องหน้า จุดชมวิว 1715 ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้าทาทับท้องฟ้าด้วยสีสันอันงดงาม ผสมผสานกับขุนเขาสลับซับซ้อน สร้างภาพวิวทิวทัศน์ที่ตราตรึงใจนักท่องเที่ยว นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว จุดชมวิว 1715 มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่จอดรถกว้างขวางร้านค้า จำหน่ายของกินของใช้ และห้องน้ำที่สะอาด รองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ

ห่างออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร ขับรถประมาณ 15 นาที ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่เวลาพูดถึงต้องนึกถึงต้นชมพูภูคาจะบานในช่วงอากาศหนาวในเดือนกุมภาพันธ์– มีนาคม ของทุกปี เป็นพันธุ์ไม้ที่หายากที่สุดในโลก พื้นที่ส่วนใหญ่ของเป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน พื้นที่ราบอยู่ตามบริเวณโดยรอบมียอดดอยภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดน่าน แม้ช่วงฤดูฝนจะไม่เห็นดอกชมพูภูคาบานแต่ที่อุทยานก็มีกิจกรรมและสถานที่ให้เยี่ยมชมมากมาย ทั้งถ้ำและน้ำตก ทั้งเป็นจุดล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง ระดับความยากของเส้นทางอยู่ระดับ 3 – 5 ประมาณ 100 กว่าแก่ง

ที่อำเภอปัวก็มีน้ำตกเช่นกัน ชื่อน้ำตกศิลาเพชร อยู่ที่ตำบลศิลาเพชร เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งขุนเขา ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยจัดการต้นน้ำ นำ ย่าง หมู่บ้านป่าตอง เป็นน้ำตก 3 ชั้นรายล้อมไปด้วยผืนป่าเบญจพรรณ และป่าดิบชื้น สามารถไปเที่ยวได้ตลอดปี แต่จะสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน หรือ ปลายฝนต้นหนาวบริเวณด้านล่างน้ำตกจะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาจำนวนมาก โดยเฉพาะ ปลาผีเสื้อติดหินน่าน และปลาค้างคาวติดหินน้ำตกศิลาเพชร ปลาท้องถิ่นประจำจังหวัดน่าน

แต่ถ้าใครไม่ชอบน้ำตก อยากรับประทานอาหารบนแพริมน้ำ นั่งชิวแช่เท้า บรรยากาศเย็นชุ่มฉ่ำ ร่มรื่น ได้ยินเสียงน้ำไหลแล้วละก็ แนะนำไปที่ วังน้ำปัว ได้เลย คุณจะพบกับบรรยากาศร่มรื่น ร่มเงาไม้ มีลำน้ำปัวไหลผ่านเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ นอกจากจะมีที่พักและร้านอาหารบริการแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำ เช่นชิงช้าห่วงยาง ล่องห่วงยาง ล่องแก่ง และล่องแพ

ถ้าไปเที่ยวในช่วงฤดูฝนก็ยิ่งเหมาะกับการเล่นล่องแก่งเป็นที่สุดถ้าเรามาจากวังน้ำปัวมุ่งสู่อำเภอบ่อเกลือเราจะผ่าน ถนนลอยฟ้า สวรรค์บนดอยแห่งเมืองน่าน เส้นทางที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามอลังการ เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์บนดอยดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยวิวทิวทัศน์ตระการตาถนนเส้นนี้

ประกอบด้วย 3 เส้นทาง ได้แก่ถนนหมายเลข 1256 วิ่งจาก อำเภอบ่อเกลือไปอำเภอปัว ถนนหมายเลข 1148 วิ่งจากอำเภอท่าวังผา-สองแคว ไปภูลังกา จังหวัดพะเยา ถนนหมายเลข 1081 วิ่งจากอำเภอสันติสุข ไปอำเภอบ่อเกลือ ตลอดเส้นทางที่ทอดยาวผ่านภูเขาสูง สองข้างทางโอบล้อมไปด้วยแมกไม้สีเขียวขจี พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นเต็มปอด

สำหรับถนนสาย 1081 หรือถนนหมายเลข 3 นับเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมแบบ Unseen Thailand ของจังหวัดน่าน ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติ วิถีชีวิตท้องถิ่น และวัฒนธรรมล้านนาเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบ Road Trip สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย อย่างช่วงฤดูฝนเช่นนี้นอกจากวิวทิวทัศน์อันเขียวขจี ทุ่งนาสีเขียว ขุนเขาสลับซับซ้อน คุณจะได้พบปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดอลังการ ชมวิวทะเลหมอกลอยอยู่เหนือยอดเขาพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด

อำเภอบ่อเกลือ อีกหนึ่งอำเภอโซนน่านเหนือที่น่าแวะ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง บ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา หนึ่งเดียวในโลก ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณ ลักษณะของบ่อเกลือเป็นหลุมลึกลงไปหลายเมตร ชะโงกดูไม่เห็นก้นบ่อเลย บริเวณปากบ่อจะมีไม้กั้นเป็นคอก และมีนั่งร้านสำหรับตักน้ำเกลือขึ้นมา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงดูแลรักษาบ่อน้ำเกลือ สืบทอดวิธีการต้มเกลือแบบโบราณดั้งเดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและอัธยาศัยอันดีของชาวบ้านที่ใครเห็นเป็นต้องประทับใจ

เดินทางต่อข้ามเทือกเขาภูคาสู่ สะปัน อำเภอบ่อเกลือ ตั้งอยู่ในตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อเสียงไม่เล็ก หลายคนเดินทางมาสะปัน เพื่อให้ธรรมชาติที่นี่โอบกอด ทั้งผืนป่าเขียวขจี ทุ่งนาข้าวที่แสนอุดมสมบูรณ์ ความงดงามของทิวทัศน์ วิถีชีวิตเรียบง่าย และวัฒนธรรมท้องถิ่นเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบ Slow Life พักผ่อนหย่อนใจ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ

ในช่วงฤดูฝนที่หมู่บ้านสะปันจะกลายเป็นสวรรค์ท่ามกลางสายหมอกก็ว่าได้ ได้มาลองเดินป่าชมน้ำตกสะปัน ฟังเสียงสายน้ำ สัมผัสความเย็นรายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ คุณจะรักความมีเสน่ห์ของหมู่บ้านแห่งนี้หากเป็นคนที่ชื่นชอบแนวผจญภัย อาจเลือกไปเดินทางต่อจากสะปันขึ้นไปชมนาขั้นบันไดของ โครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ (ด้านป่าไม้) จังหวัดน่าน ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) แห่งนี้ได้ โครงการนี้ที่ครอบคลุมพื้นที่ของ บ้านสะจุก

หากเป็นคนที่ชื่นชอบแนวผจญภัย อาจเลือกไปเดินทางต่อจากสะปันขึ้นไปชมนาขั้นบันไดของ โครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ (ด้านป่าไม้) จังหวัดน่าน ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) แห่งนี้ได้  โครงการนี้ที่ครอบคลุมพื้นที่ของ บ้านสะจุก สะเกี้ยง บ้านบวกอุ้ม และ บ้านเปียงซ้อ โดยมุ่งเน้นให้ชาวปลูกนาข้าวขั้นบันได้เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน 

แม้เส้นทางนี้เดินทางค่อนข้างยากลำบากไปสักหน่อยแต่หลังจากพบกับความสวยงามของนาขั้นบันได คุณจะประทับใจแน่นอน ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเงียบสงบพร้อมชมวิวนาขั้นบันไดที่ทอดยาวไปตามไหล่เขา ลดหลั่นเป็นชั้นๆ สวยงาม อลังการวิวทิวทัศน์ มีภูเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง ท้องฟ้ากว้างใหญ่ อากาศบริสุทธิ์ สดชื่น เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี พิธีกรรม วิถีชีวิตชาวเขา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น เรียบง่าย พอเพียง น่าสัมผัส

โซนน่านตอนใต้

อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น สามอำเภอในโซนน่านใต้นั้น เส้นทางนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ คือ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ดอยเสมอดาว ผาชู้ เสาดินนาน้อย แก่งหลวง และหมู่บ้านประมงปากนาย เป็นต้น

ก่อนเข้าตัวอำเภอเมืองน่าน จะผ่านอำเภอเวียงสา ซึ่งมีวัดน่าสนใจอย่าง วัดบุญยืน เป็นวัดพระอารามหลวงแห่งเดียวในอำเภอเวียงสา หลังคาพระอุโบสถทรงม้าสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของวัด ภายในมีพระพุทธรูปปางประทับยืนปิดทองทั้งองค์สวยงามมาก เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน และวัดเก่าแก่มีอายุกว่า 200 ปีแห่งนี้ถือว่าเป็นประตูสู่จังหวัดน่านอีกด้วยถัดลงไปที่อำเภอนาน้อย เป็นหนึ่งในอำเภอเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของน่าน

และมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยว คือดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ดอยเสมอดาวถึงแม้จะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่มองเห็นดาวได้ชัดเจนที่สุดอีกจุดหนึ่งของประเทศไทยเลย

อีกทั้งเป็นที่เดียวที่คุณสามารถชมได้ทั้งทางช้างเผือก ทะเลดาวทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกในที่เดียว ใครสายถ่ายรูป มาที่นี่ไม่ผิดหวังต้องชอบแน่นอน นอกจากนี้ยังมี อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย ที่เป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติ สามารถมองเห็นทั้งขุนเขาทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อย่างสวยงามน่าประทับใจ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของการดูดอกนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทยอีกด้วย

เสาดินนาน้อยและคอกเสือ แหล่งอารยธรรมที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยธรรมชาติโดยมีเสาดินขนาดใหญ่ยกตัวสูงขึ้นมาจากพื้นดิน เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำและฝนกลายเป็นความสวยแปลกทางธรรมชาติ

อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดล่าสุดน่านก็ยังมีพื้นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใหม่อย่าง วัดถ้ำเชตวัน หนึ่งใน 25 สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รางวัลใน Unseen New Chapters ปักหมุดมุมใหม่ เปิดไทยมุมต่างของจังหวัดน่าน วัดถ้ำเชตวัน เป็นสถานที่ที่ครูบาน้อย หรือ ครูบาน้อย ญาณวิไชย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของคนเมืองน่าน เดินทางเข้าไปปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำเป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ภายในวัดมีสถานที่สำคัญ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่น่าไปเยือนเพื่อกราบสักการะเป็นแหล่งศึกษาธรรมมะ ปฏิบัติธรรม และพื้นที่ที่รวมตัวกันของคนในพื้นที่ชุมชนในช่วงเทศกาลต่างๆ พระวิหารของวัดถ้ำเชตวัน มีความสวยงามจากศิลปะ และการก่อสร้างในรูปแบบล้านนา มีกลิ่นอายของความร่วมสมัยผสมอยู่ ภายในมีองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางพม่า และเป็นพระวิหารหลักที่นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่เดินทางมาสักการะต้องแวะมาเยี่ยมเยียนเป็นลำดับแรก วัดถ้ำเชตวันนั้นได้มีการประดิษฐานของพระธาตุอินทร์แขวน หรือพระธาตุไจก์ทีโย (องค์จำลอง) เจดีย์พระธาตุบนหินสีทองที่เหมือนกับทางประเทศพม่า (เมียนมา) เชื่อกันว่าผู้ที่เกิดปีจอ หากได้มาสักการะ แล้วชีวิตจะรุ่งโรจน์ สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธา และผู้ที่เกิดปีจอนั้นสามารถเดินทางมาที่ วัดถ้ำเชตวัน จังหวัดน่าน นี้ แทนได้

หนึ่งในของฝาก และเป็นหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่กำลังก่อร่างสร้างตัว ในพื้นที่อำเภอนาน้อยคือผ้าทอสีธรรมชาติ ของกลุ่มสตรีทอผ้าพื้นเมืองบ้านหนองห้า หากเดินทางไปเยี่ยมเยือน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับผ้าฝ้ายสีจากธรรมชาติ งานแสนประณีตในราคาที่จับต้องได้ รวมทั้งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เยี่ยมชมการทอผ้า เทคนิคการทอผ้า การสาธิตการย้อมผ้าฝ้ายจากสีธรรมชาติ ในพาร์ตของสีต่างๆ และที่มาของสีนั้นๆ

ไปต่อกันที่อำเภอนาหมื่นกับ วัดบ่อแก้ว อำเภอนาหมื่น ความโดดเด่นคือ เป็นวัดที่สร้างด้วยศิลปะแบบล้านนา พระอุโบถมีสีขาวทั้งหลังงดงามวิจิตรด้วยลวดลายแกะสลักปูนปั้นประดับกระจกสีต่างๆ ด้านหลังวัดสามารถมองเห็นวิวของทุ่งนาเขียวขจีบริเวณทางเข้า มีเสาสีขาวเรียงรายไปตลอดทั้งสองฝั่งปลายเสาเป็นรูปปั้นหงส์ติดโคมไฟไว้สำหรับเปิดยามค่ำคืน และไม่ไกลจากวัดบ่อแก้วคือวัดคำเรือง ตั้งอยู่โดดเด่นกลางทุ่งนา ที่เต็มไปด้วยนาข้าวตลอดสองข้างทางเมื่อเข้ามาถึง จะเห็นองค์พระธาตุและอุโบสถเล็กๆ ภายในมีพระประธาน พร้อมภาพเขียนที่อยู่รอบผนัง

เลยไปยังหมู่บ้านประมงปากนาย ชุมชนประมงเหนือเขื่อนสิริกิติ์ ชมท้องน้ำกว้างของทะเลสาบน้ำจืดล้อมรอบด้วยทิวเขาเขียวขจีเหนือเขื่อนสิริกิติ์ พร้อมชิมอาหารจำพวกปลาจากแพร้านอาหารที่มีไว้ให้บริการ เมนูปลาที่นี่เป็นปลาจากเขื่อน เช่น ปลากด ปลาบู่ปลาคัง ปลาแรด ปลาทับทิม เป็นต้น หากมีเวลาเหลือ หรือมีโอกาสค้างคืนที่ อำเภอนาหมื่น

เช้าๆ ขึ้นไปชมวิวบนดอยงาม ซึ่งมีพระธาตุดอยเขาแสง อันศักดิ์สิทธิ์ บ้านดอยงามตำบลบ่อแก้ว อำเภอนาหมื่น แม้เดินเท้าขึ้นบันไดกว่าสองร้อยขั้น แต่เมื่อได้เห็นความงดงามของทะเลหมอกในยามเช้าเหนืออำเภอนาหมื่นก็ค้มุ ค่าที่ได้เดินทางมาเยือน สายๆ ไปไหว้พระบ่อแก้วอันวิจิตรงดงาม บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการตื่นเช้าอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวสงบๆบรรยากาศดีๆ ต้องการธรรมชาติ ช่วยลดความเครียด ฟื้นฟูจิตใจ แนะนำเลย น่านฤดูฝนไม่ผิดหวังแน่นอน อย่างไรแล้วขับรถท่องเที่ยวด้วยความระมัดระวัง ทางขึ้นเขาฝนตก ถนนอาจจะลื่น ควรขับรถช้าๆ ที่สำคัญจองที่พักล่วงหน้า เพื่อรับโปรโมชั่นดีๆ จะได้ไม่เสียเที่ยวเผื่อที่พักอาจจะเต็ม เพราะเชื่อว่าหลายคนต่างก็อยากมาเที่ยวน่านในฤดูฝนอย่างคุณเหมือนกัน