MUJI ฉลองเปิดสาขาโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ ครั้งแรกกับสโตร์โมเดลโรดไซด์ ขนาดใหญ่ 2 ชั้น และโซนใหม่สินค้าราคาดี จากมินิมัลไลฟ์สไตล์สู่คอมมูนิตี้เชื่อมโยงผู้คนในพื้นที่
ทุกพื้นที่จะมีแต่ความมินิมัล! นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ มูจิ ประเทศไทย (MUJI) ฉลองเปิดตัวสาขาใหม่โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ เพื่อมอบประสบการณ์และวีถีความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นในแบบฉบับ MUJI ให้เข้าถึงทุกคนได้ง่ายยิ่งกว่า และครอบคลุมทุกมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างความแปลกใหม่และมีสีสันมากยิ่งกว่า ด้วยการเนรมิตร้านขนาดใหญ่เป็นสโตร์สองชั้น
บนชั้น 1 และ 2 ของศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ ในรูปแบบโรดไซด์ ซึ่งนับว่าเป็นสาขาแรกในประเทศไทย พร้อมเซอร์ไพร์สเหล่ามูจิเลิฟเวอร์ ด้วยไฮไลท์และความพิเศษที่จะนำมาให้สัมผัสเป็นครั้งแรก ท่ามกลางย่านพักอาศัย และเป็นจุดเชื่อมต่อของหลายพื้นที่เขตปริมณฑล สะท้อนการเดินทางของ MUJI จากแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่อยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของทุกคน สู่การเป็นคอมมูนิตี้ศูนย์กลางที่สนับสนุนการเชื่อมโยงผู้คนในพื้นที่ โดย ร้านมูจิโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ (MUJI Robinson Lifestyle Ratchaphruek)พร้อมให้บริการในวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 นี้ เป็นต้นไป
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ร้านมูจิโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ (MUJI Robinson Lifestyle Ratchaphruek)เป็นอีกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมูจิ ประเทศไทย (MUJI) เนื่องจากเป็นร้านโมเดลโรดไซด์ หรือ ร้านรูปแบบริมถนน สาขาแรกที่เปิดกับศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดถนนอย่างศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ ออกแบบร้านให้เป็น 2 ชั้น มีขนาดพื้นที่กว่า 1,700 ตารางเมตร เพื่อต้องการมอบประสบการณ์และวีถีความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นในแบบฉบับ MUJI ให้เข้าถึงทุกคนในย่านทำเลที่อยู่อาศัย และเป็นถนนเส้นทางที่สัญจรเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ และในหลายเขตพื้นที่ปริมณฑลได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ก็สามารถช้อปปิ้ง แฮงเอาท์ นัดพบปะสังสรรค์ และสัมผัสกับไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับ MUJI ได้ในพื้นที่ใกล้ย่านที่อยู่อาศัยของตนเอง แต่ยังคงได้รับประสบการณ์ คุณภาพของสินค้า และการบริการในมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่และมีความแตกต่างจากสาขาอื่น ๆ ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และรูปแบบของสโตร์สองชั้น เพื่อให้เข้ากับวิถีการบริโภคและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในพื้นที่ย่านที่อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
โดยไฮไลท์ของร้าน MUJI Robinson Lifestyle Ratchaphruek เปิดตัวด้วย โซนสินค้าราคาดี ต่ำกว่า 300 บาท ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย รวบรวมสินค้าคุณภาพที่เป็นที่นิยมในหลากหลายหมวดหมู่ ที่มีราคาต่ำกว่า 100 บาท 200 บาท และ 300 บาท
อาทิ ไม้ทำความสะอาด 35 บาท กระดาษซับหน้า 39 บาท ใยอาบน้ำ 39 บาท รองเท้าแตะในบ้าน 99 บาท ผ้าขนหนู 99 บาท เบาะรองนั่ง 290 บาท พรมเช็ดเท้า 150 บาท กระบอกน้ำอะคริลิค 250 บาท เป็นต้น
ตามมาด้วยโซนซิกเนเจอร์ MUJI Coffee Corner ที่มาพร้อมกับไฮไลท์เมนูใหม่ เบเกอรี่สไตล์ตะวันตกแบบ Hot Menu ในราคาที่คุ้มค่า เพียง 59 -119 บาท อาทิ ครัวซองท์แซนวิช ริงแซนวิช เดนิช และพานินี่ ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครอบครัว และการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ที่ต้องการความรวดเร็ว รับประทานง่าย รสชาติอร่อย และอยู่ท้อง โดยสามารถเสิร์ฟแบบเป็นเมนูทานภายในร้าน หรือจะรับแบบ Take home ใส่กล่องหิ้วพร้อมทาน รองรับวิถีชีวิตที่รีบเร่ง ต้องการความสะดวกและคล่องตัว พร้อมต่อการไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ทันที โดยเป็นเมนูเอ็กซ์คลูซีฟที่จำหน่ายเฉพาะสาขานี้ นอกจากนี้ ยังมีเมนูเค้ก และขนมสไตล์ญี่ปุ่นอีกมากมายให้เลือกสรร ในราคาที่ชวนให้ลิ้มลอง
ไฮไลท์ถัดมา คือ Exclusive Early Launch Products ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และดูแลเส้นผม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มกลิ่นหอมเข้าไป อย่างกลิ่นส้ม กลิ่นฟลอรัล และกลิ่นเลม่อน โดยราคาปรับลงแต่คงคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมจากสารสกัดธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ประกอบด้วย แชมพู และครีมนวดผม จำนวน 3 สูตรเพื่อการดูแลโดยเฉพาะ ได้แก่ สูตรสำหรับผิวอ่อนโยน (Sensitive Skin) สูตรสำหรับผมแห้งเสีย (Damage Hair) และสูตรสำหรับผมตรง (Smooth Hair) โดยแชมพู ราคา 149 บาท และครีมนวดผม ราคา 199 บาท สบู่ปรนนิบัติผิวกาย (Body Soap Moist) กลิ่น Floral ราคา 149 บาท โฟมล้างหน้า (Face Foam) กลิ่น Floral ราคา 129 บาท สบู่ล้างมือ (Hand Soap) กลิ่น Lemon ราคา 129 บาท และโลชั่นบำรุงผิวกาย (Body Lotion) กลิ่น Floral ราคา 129 บาท จากนั้นคือผลิตภัณฑ์ MUJI CURRY แกงกะหรี่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น จำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งโดดเด่นด้วยคุณสมบัติทางกลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบคุณภาพที่มีความหอมและกลมกล่อม ไม่มีการแต่งกลิ่น สีและรสชาติ โดยมี 5 รสชาติ ได้แก่ BUTTER CHICKEN CURRY, DHAL CURRY, CHICKEN RENDANG, CHICKEN MASAK LEMAK และ CHICKEN KEEMA CURRY ในราคาเพียง 139 บาท โดยจะเปิดตัวและวางจำหน่ายเฉพาะที่ร้าน MUJI Robinson Lifestyle Ratchaphruek เป็นแห่งแรกก่อนสาขาอื่น ๆ
นอกจากนี้ ยังมีโซนเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านขนาดใหญ่กว่า 100 ตารางเมตร ที่นำสินค้าคอลเลกชันใหม่ หลากหลายประเภทแบบครบครัน อาทิ เตียงนอนครบทุกขนาดไซส์และทุกดีไซน์ พร้อมด้วยบริการ MUJI Interior Consultation Service ซึ่งเป็นบริการที่ปรึกษาด้านออกแบบภายใน และยังมีโซนที่ห้ามพลาดอื่น ๆ อาทิ โซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชาย หญิง และเด็กในราคาที่จับต้องได้ โซน MUJI Green โซนต้นไม้ที่ MUJI คัดสรรให้เหมาะกับการเลี้ยงในบ้าน และ Normal Shop ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และรีฟิลสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ น้ำยาทำความสะอาดเสื้อผ้า แชมพูสระผม ในราคาย่อมเยา เพื่อสนับสนุนแนวคิด Zero Waste ที่เป็นมิตรต่อโลก รวมถึง MUJI Yourself ออกแบบลวดลายบนสินค้ากระดาษในแบบของตัวเอง ด้วยการแสตมป์ลายพิเศษที่มีให้เลือกสรรมากมาย
ร่วมฉลองเปิดร้าน MUJI Robinson Lifestyle Ratchaphruek สาขาใหม่ พิเศษ! ครั้งแรกกับไอศกรีม MUJI Soft Serve 2 รสชาติ คือ Hokkaido Milk และ Green Tea มีทั้งแบบ Cone ในราคา 99 บาท และ Cup ราคา 79 บาท โดยจะจำหน่ายไอศกรีม Soft Serve เพียง 3 เดือนเท่านั้น
ตามมาด้วย Exclusive Photobooth ครั้งแรกของตู้ถ่ายรูปจากร้าน MUJI สาขากรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เก็บทุกโมเม้นท์ความประทับใจด้วยเฟรมภาพสุดคิ้วท์แบบสนุกสนานและมีสีสันมากยิ่งขึ้น เพียงซื้อสินค้าครบ 500 บาทต่อใบเสร็จ รับสิทธิ์ถ่ายรูปฟรีทันที
และครบ 700 บาท รับฟรี! Special Christmas Gift ของตกแต่งคริสต์มาส ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากเส้นใยธรรมชาติ ทำด้วยมือจากชุมชนชาวอาข่าจังหวัดเชียงราย สำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2565 เพียง 3 วันเท่านั้น! โปรโมชัน Lucky Draw เพียงซื้อสินค้าครบทุกๆ 1,000 บาท รับ 1 สิทธิ์จับสลาก ลุ้นรับของรางวัล MUJI รวมกว่า 6,000 ชิ้น ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2565 – 2 มกราคม 2566
MUJI Robinson Lifestyle Ratchaphruek ณ ชั้น 1 และ ชั้น 2 ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ เปิดบริการแล้วตั้งแต่ 23 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook: MUJI Thailand และ Instagram: MUJI_Thailand