กนกพร สุภิมาส เพราะการเดินทาง คือกำไรต่อยอดชีวิต
Story & Photo by Boonyaporn
พื้นเพของป้าเกษเป็นคนเชียงใหม่ค่ะ สมัยก่อนเป็นช่างเสริมสวย และด้วยความที่ทำงานอยู่แต่ในบ้านก็เลยตั้งชื่อร้านว่า Inhouse (อินเฮ้าส์) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสมาชิกในเว็บไซต์พันทิปค่ะ ปัจจุบันป้าได้ย้ายไปอยู่ที่อ่างทอง ขายพวกน้ำชากาแฟในโรงอาหารให้กับข้าราชการที่ศาลากลางจังหวัด และโดยส่วนตัวป้าเป็นคนชอบเที่ยวมากๆ ชอบพาตัวเองไปในที่ที่เราอยากจะไป ในช่วงแรกป้าเลือกไปเที่ยวที่เขาจัดเป็นแพ็กเกจหรือตามทัวร์ต่างๆ แต่เราก็ยังไม่ได้รู้สึกอินมากเท่าที่ควร ก็เลยลองเข้าไปตามเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ด้วยความที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยเป็น มันเลยเก้ๆ กังๆ ตามประสาคนไม่รู้ จนไปเจอห้อง บลูแพลนเน็ตในเว็บไซต์พันทิป ป้ารู้สึกว่ามันเข้าท่าดี และเราก็จะได้เพื่อนเที่ยวด้วย ถือเป็นการเปิดโลกโซเชียลของป้าเพราะพอเราเริ่มเขียนรีวิว ได้แลกเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวหรือภาพถ่ายกับคนนั้นคนนี้มันทำให้เราสนิทกันมากขึ้น จนมีความคิดว่าพวกเราน่าจะไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งป้าก็จะเป็นหัวเรือใหญ่ในทริปนี้ คือเป็นคนหาผู้ร่วมทริป สาเหตุเพราะป้ารู้จักคนเยอะ ส่วนทริปแรกๆ ที่เราไปก็จะเป็นแบบ one day trip ไปเที่ยวสนุกๆ ใกล้กรุงเทพฯ มันเป็นความทรงจำที่ป้ารู้สึกว่า เราโชคดีมากๆ ที่ได้รู้จักกับพวกเขา” ป้าเกษเริ่มแนะนำตัวให้เราได้รู้จัก และเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเดินทางท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเพราะเว็บไซต์พันทิป แน่นอนว่าสิ่งนี้ได้สร้างมิตรภาพและประสบการณ์ให้แก่ป้าเกษเป็นอย่างมาก และนอกจากจะสร้างมิตรภาพในกลุ่มคนชอบเที่ยวแล้ว ป้าเกษยังเล่าให้เราฟังอีกว่า กลุ่มท่องเที่ยวของป้าเกษได้มีการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อผู้ยากไร้ขึ้นอีกด้วย “สมัยก่อนในห้องบลูแพลนเน็ตจะแบ่งกลุ่มออกเป็นยิบย่อย แต่ที่ป้าเข้าร่วมกลุ่มบ่อยที่สุดคือกลุ่มหัวใจเดินทาง เป็นกลุ่มของคนที่มีใจรักในการท่องเที่ยวและทำบุญไปด้วย ทำให้ก่อกำเนิดมูลนิธิบลูแพลนเน็ตเพื่อการศึกษา เด็กด้อยโอกาส ในปี 2554 โดยจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อไปดูว่าโรงเรียนไหนขาดแคลนอะไรบ้าง เราก็จะเข้าไปช่วยเหลือ เช่น สร้างอาคารเรียน สร้างห้องสมุด ฯลฯ เรียกได้ว่านอกจากจะได้เที่ยวแล้ว เรายังได้อิ่มบุญกันอีกด้วย”
แน่นอนว่าการเที่ยวได้สร้างความสุขและความประทับใจให้แก่ป้าเกษมาโดยตลอด รวมถึงทริปที่ป้าเกษบอกกับเราว่ายังประทับใจไม่รู้ลืมจนถึงทุกวันนี้นั่นก็คือ ประเทศเวียดนาม “ทริปเวียดนามเป็นสิ่งที่ป้าเกษประทับใจที่สุด เป็นทริปแรกที่กลุ่มเที่ยวด้วยกันในพันทิปจัดขึ้นเมื่อปี 2549 ไปด้วยกันทั้งหมด 13 คน เดินทางไปที่เมืองฮานอย ฮอยอัน เว้ ซึ่งสาเหตุที่ป้าประทับใจก็เพราะว่า เวียดนามเป็นเมืองที่ยังคงไว้ซึ่งความเก่าแก่ ทุกอย่างที่อยู่ที่นั่นไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน หรือสถาปัตยกรรมเก่าๆ ทุกอย่างยังคงสวยงาม เรารู้สึกแฮปปี้มากที่ได้ไปเยือนที่นั่น ถ้าใครจัดทริปก็จะขอไปด้วย อยากไปอีก (หัวเราะ) ส่วนอีกเมืองที่ป้าเกษประทับใจไม่แพ้กันเลยก็คือ เมืองซาปา ที่เมืองนี้ก็ยังคงอนุรักษ์ทุกอย่างไว้อย่างเดิม บวกกับสิ่งแวดล้อมของเมืองทำให้ใครที่ไปเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า มันสุดยอดมาก”
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า อายุอานามของป้าเกษก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่ทำไมถึงชอบท่องเที่ยวโลดโผนโจนทะยานเหมือนกับวัยรุ่น ซึ่งป้าเกษก็กระซิบบอกเราว่า อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข หาใช่อุปสรรคสำหรับป้าเกษ “อายุไม่ใช่อุปสรรคในการท่องเที่ยวของป้าเลยนะ อาจเป็นเพราะเราเดินทางตลอด ซึ่งอย่างที่บอกคือสมัยก่อนป้าไปเที่ยวคนเดียวตามแพ็คเกจ เพราะยังไม่กล้าที่จะไปเที่ยวแบบแบ็กแพ็ค แต่พอป้าได้รู้จักกับคนที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน ป้าก็เริ่มที่จะก้าวเข้าไปเพราะเป็นคนไม่กลัวอะไรเลย กลุ่มไหนเข้ามาใหม่ ป้าก็เดินเข้าไปเลยและบอกกับเขาว่าป้าขอไปด้วยนะ ขอเป็นสมาชิกด้วยคน บวกกับเราเป็นคนสนุกสนานเฮฮา ทำให้เวลาไปกับเที่ยวกับกลุ่มไหน เราก็จะรู้สึกแฮปปี้ตลอด และอีกอย่างคือเรื่องเที่ยวป้าจะไม่ค่อยขัด เพราะป้าจะเต็มที่ตลอด แต่ถ้าเรามุ่งมั่นว่าจะไปที่ไหน และเราทำจริงๆ เราสามารถไปได้หมด วัยและอายุไม่ใช่อุปสรรคเลย เพราะป้ายังแข็งแรง ป้ายังไปได้ และถ้าเรายังเดินนำหน้าพวกเด็กๆ ก็อย่าถือเอาเรื่องตัวเลขอายุมาเป็นอุปสรรคเลย ให้ถือเรื่องความภาคภูมิใจเป็นหลักดีกว่า
และที่แปลกคือ ป้าไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกับคนในวัยเดียวกันนะ กลุ่มที่ป้าไปส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยทำงาน และอาจจะเป็นเพราะว่าเราทำตัวไม่ค่อยเหมือนคนแก่ ทำให้ปรับตัวกับหลานๆ ในกลุ่มได้เร็ว แต่ป้าก็พยายามชวนเพื่อนสนิทไปเที่ยวเหมือนกันนะ ไปเที่ยวลุยๆ แบบป้านี่แหละ เขาก็บอกว่าคงไม่ไหว เพราะชีวิตมาถึงวัยนี้แล้วก็อยากสบาย พูดง่ายๆ ว่าสไตล์การเที่ยวของเราไม่เหมือนกัน เราชอบเที่ยว เขาชอบช็อป ซึ่งมันสวนทางกับที่ป้าต้องการ เพราะเรามีแต่งบเที่ยวไม่มีงบสำหรับช็อปปิ้ง อาจเพราะเรารู้สึกว่าวัยแบบเราไม่รู้ว่าจะซื้อของไปสะสมเพื่ออะไร” และนอกจากการได้ออกไปเที่ยวเปิดโลกกว้างจะเป็นสิ่งที่ป้าเกษรักแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ป้าเกษรักได้อย่างสนิทใจ และถือเป็นแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวคือ การถ่ายภาพ “ป้ารักการถ่ายภาพมากพอๆ กับการได้ออกไปเที่ยว ตอนแรกเราไม่รู้ตัวหรอกว่าจะชอบมากขนาดนี้ จนกระทั่งได้ออกเดินทาง พอป้าได้จับกล้องแล้วเห็นภาพที่ตัวเองถ่ายออกมา มันรู้สึกว่าใช่ เหมือนเราตกหลุมรักใครสักคน (หัวเราะ) แล้วหลังจากนั้นก็บอกกับตัวเองว่า ฉันต้องออกเดินทางเยอะๆ เพื่อที่จะได้เก็บภาพสวยๆ มาฝากคนอื่นและชื่นชมกับผลงานของตัวเอง มันทำให้เราได้มองย้อนดูฝีมือการถ่ายภาพสมัยก่อนของเราด้วย และตอนนี้ฝีมือป้าพัฒนาขึ้นมาก เพราะเราเรียนรู้ด้วยตัวเองและชอบที่จะพาตัวเองไปกับกลุ่มถ่ายภาพ และต้องขอบคุณชมรมตากล้องอ่างทอง ป้าสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าป้ามีฝีมือได้เพราะชมรมนี้ เขาจะสอนถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบ และเขาพร้อมที่จะให้ความรู้เราจริงๆ แบบไม่สนใจยี่ห้อกล้อง คุณจะเอาโทรศัพท์มือถือไปเรียนเขาก็ยินดีที่จะสอน ทางชมรมเขาจะสอนเราจัดองค์ประกอบของภาพ สอนเรื่องมุมมอง และเขาก็มักจะบอกว่า ป้าเกษเป็นลูกศิษย์ที่พัฒนาเร็วมาก แต่ป้าจะเป็นคนที่แต่งรูปไม่เก่ง คือใครที่ดูรูปปุ๊บจะรู้เลยว่าเป็นของป้าเกษ เพราะสีของรูปจะจัดมาก มีสีสันคัลเลอร์ฟูล แต่ยอมรับเลยว่าแนว Land scape ของป้าเกษจะมาอันดับต้นๆ เลย”
ถึงแม้การถ่ายภาพจะเป็นแรงบันดาลใจให้ป้าเกษได้ออกไปเที่ยวแล้ว ปัจจัยหลักอีก 3 อย่างที่ป้าเกษยึดถือในการใช้ชีวิตก็เป็นเสมือนตัวแปรหลักที่ทำให้ป้าเกษมีความสุขกับการท่องเที่ยว “เงิน เวลา และโอกาส คือปัจจัยหลัก ในการออกไปท่องเที่ยวของป้า เพราะด้วยวัยเท่านี้ ป้าถือว่าตัวเองใช้ชีวิตได้คุ้มค่ามากๆ อยากขอบคุณเบื้องบนที่มอบความแข็งแรงให้กับป้า ถึงแม้ว่าป้าจะขาดในเรื่องอื่น แต่ป้าโชคดีในเรื่องของสุขภาพ ป้าได้ไปเที่ยวในที่ๆ ป้าอยากไป โดยขณะที่คนอื่นอาจจะมีเวลา มีเงิน แต่ไม่มีโอกาส ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายแทนเป็นอย่างมาก และสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอบคุณเบื้องบนก็คือ การได้พบกัลยาณมิตรที่ดี ทำให้ป้าได้เจอแต่คนดีๆ ไปเที่ยวที่ไหนหรือไปร่วมทริปอะไรกับใครก็มีแต่คนเมตตาและรักเรา อาจจะมีคนไม่ชอบเราแต่ก็ถือว่าเป็นส่วนน้อย แต่ป้าจะพยายามคิดว่ามีคนรักเราตลอด เพราะถ้าเราคิดในแง่บวก มันก็ทำให้ชีวิตเราโอเคได้นะ และป้าก็จะเที่ยวจนกว่าเราจะไม่มีเวลา ไม่มีเงิน และไม่มีโอกาส คำว่าโอกาสในที่นี้น่าจะใช้ได้กับคำว่าสุขภาพ แต่เราไม่อยากใช้เลย เพราะมีความรู้สึกว่าอยากมีสุขภาพที่ดีแบบนี้ตลอดไป แค่สุขภาพดีมันก็ทำให้เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ ได้เห็นในสิ่งที่เราอยากจะเห็น และได้สัมผัสในสิ่งที่เราอยากจะสัมผัส เหมือนคำสอนที่ว่า การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นี่คือเรื่องจริงเลย” เป็นความจริงอย่างที่ป้าเกษบอก การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตของมนุษย์ แต่นอกจากการไม่มีโรคและเป็นคนสุขภาพร่างกายแข็งแรงจะทำให้ป้าเกษได้ออกเดินทางแล้ว ประสบการณ์และการพบเจอผู้คนหลากหลายก็สอนให้ป้าเกษได้เรียนรู้การใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้นด้วย
“การได้ออกไปเที่ยวให้อะไรหลายๆ อย่างกับป้ามาก อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ แต่อีกสิ่งหนึ่งคือเราได้เห็นความหลากหลาย เช่น ในทริปที่ไปเที่ยว เราได้เจอคน 10 คน เราได้รู้จัก ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของเขา ซึ่งมันให้ประสบการณ์ในการมองคน มองสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าในบางที่จะซ้ำซาก แต่มันก็ไม่ซ้ำในเรื่องของเวลา เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ที่อยู่ตรงจุดนั้นมันก็จะไม่เหมือนกัน ป้าจึงคิดว่าการเดินทางคือการได้ประสบการณ์ที่ดี ได้รู้จักเพื่อน และที่สำคัญมันคือกำไรของชีวิต” ก่อนจะแยกย้ายจากกัน ป้าเกษได้ฝากแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้กับคนที่อยู่ในวัยเช่นป้าเกษ และเชิญชวนให้ไปใช้ชีวิตในช่วงวัยนี้กันให้คุ้มที่สุดก่อนที่จะไม่มีโอกาส “ป้าอยากบอกว่า คนในวัยเรามีแต่นับถอยหลัง มันไม่มีเดินไปข้างหน้า
ถ้าคุณมีโอกาส มีเวลา และมีเงิน คุณลองก้าวออกมา ออกไปเที่ยวกันเถอะ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในวัยเดียวกันหรือรุ่นเดียวกัน เราสามารถไปกับคนต่างวัยได้ แล้วคุณจะได้อะไรดีๆ กลับมาจากพวกเขาเหล่านั้น เพราะคนต่างวัยเขาจะดูแลเราดีมาก ไม่ต้องไปกลัว เพราะฉะนั้นหากมีครบสามสิ่งตามที่ป้าได้บอก คุณก็ออกเดินทางเลยค่ะ แล้วสุขภาพของคุณจะแข็งแรง คุณจะได้เจอแต่สิ่งดีๆ พอเราเจอแต่สิ่งดีๆ เราก็จะไม่เครียด เพราะความเครียดเป็นตัวบ่อนทำลายทุกอย่าง และที่สำคัญมันเหมือนได้ชาร์จแบตให้กับร่างกายเราด้วย พอแบตเราเต็มก็จะมีแรงทำในสิ่งที่เราต้องทำได้อย่างสบายใจ อย่าเอาความคิดเรื่องความแก่เป็นภาระให้คนอื่น จงตัดเรื่องนี้ทิ้งออกไป เพราะเวลาเราจะไปไหน ถึงแม้เราจะไม่ร้องขอ เขาก็จะดูแลเราเหมือนเดิม อย่างน้อยเราก็จงภูมิใจที่เรามีอภิสิทธิ์ความเป็นคนแก่อยู่ในมือ” การทำให้ตัวเองมีความสุขนั้นไม่ใช่เรื่องยาก จะอยู่ในวัยไหนเราก็สามารถมีความสุขได้อย่างเต็มที่ ตอนเด็กๆ เราอาจจะมีความสุขกับการได้เล่นของเล่นสักชิ้น แต่พอแก่ตัวไปเราอาจจะมีความสุขหลายเท่าทวีคูณหากเราได้ออกไปเปิดโลกกว้าง ซึ่งมันก็อยู่ที่ว่าเราจะให้อายุเป็นตัวกำหนดความแก่ของเราหรือเป็นแค่ตัวเลขสองหลัก ก็อยู่ที่เราเท่านั้นจะเลือกให้มันเป็น… จงภูมิใจที่เรามีอภิสิทธิ์ความเป็นคนแก่อยู่ในมือ
เคล็ดไม่ลับการเดินทาง
ในการเดินทางแต่ละทริป เราไม่ควรคาดหวังอะไรมากมาย หากเราคิดว่าสนุกมันก็จะสนุก คิดแค่ว่าเราจะได้ไปเจอประสบการณ์ใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆ ยิ่งเราได้เจอเพื่อนร่วมทางใหม่ เราก็จะเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาแล้ว เตรียม 3 สิ่งเท่านี้ให้พร้อมก็พอคือ โอกาส เวลา และเงินในกระเป๋า ถ้าพร้อมแล้วก็ออกไปลุยกันเลยค่ะ
อ่านบทสัมภาษณ์ป้าเกษในนิตยสาร Vacationist เดือนเมษายน 2558
ต้องการซื้อเล่มเดือนนี้ย้อนหลัง คลิกที่รูปปกนิตยสารได้เลย