ท่องไปตาม MTR สายสีน้ำเงิน – HongKong
Story by Editorial Staff
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า จะผ่านไปกี่ปี ฮ่องกงก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทางของเหล่านักเดินทางอยู่เสมอ เนื่องด้วยฮ่องกงนั้นมีครบถ้วนทั้งแหล่งท่องเที่ยวสถานที่กินดื่ม สังสรรค์ ธรรมชาติ สถาปัตยกรรม หลากหลายเรื่องราวมากมายที่สามารถตอบโจทย์ของนักเดินทางทุกรูปแบบ
ที่สำคัญใช้เวลาเพียงไม่นานเดินทางจากประเทศไทยด้วยสายการบินที่มากมายบินตรงสู่ฮ่องกงทำให้เราสามารถใช้วันหยุดสุดสัปดาห์เที่ยวชมเมืองและดื่มด่ำกับอาหารโดยไม่กระทบกับวันหยุดยาวของเราได้
การท่องเที่ยวฮ่องกงอย่างง่ายที่สุดคือ การท่องเที่ยวตามแนวรถไฟฟ้า อย่างเช่นครั้งนี้เราเลือกที่จะเดินทางไปกับเส้นทางสายรถไฟใต้ดิน MTR (Mass Transit Railway) สายสีน้ำเงิน (Island Line) ซึ่งเป็นสายรถไฟ MTR ที่ใช้ประโยชน์เพื่อเดินทางภายในเกาะฮ่องกง ระหว่าง Sheung Wan และChai Wan มีสถานีที่มีที่เที่ยวน่าสนใจหลายสถานี ไม่ว่าจะเป็น
MTR SHEUNG WAN (เชิง-หว่าน)
เชิงหว่าน ถือเป็นอีกหนึ่งในย่านสุดชิกของฮ่องกง หากคุณออกตรงบริเวณทางออก E2 เดินขึ้นเนินไปนิดจะเห็นอาคารสุดชิกตั้งอยู่ที่นี่คือ PMQ ที่เป็นศูนย์รวมของงานดีไซน์ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของฮ่องกง
PMQ ย่อมาจาก Police Married Quarters เดิมที่นี่คือแฟลตตำรวจเก่า แต่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้เป็นศูนย์กลางการออกแบบสร้างสรรค์ผลงานของเหล่าศิลปิน ดีไซเนอร์ชาวฮ่องกง
PMQ มีทั้งหมด 7 ชั้นประกอบด้วยสตูดิโอดีไซน์ของเหล่านักออกแบบ
ที่จัดแบ่งเป็นล็อกๆ ให้ศิลปินเข้ามาขายผลงานทั้ง จัดงานแสดง ขายสินค้าไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ
ด้านล่างบริเวณฐานตึกเก่ามีการจัดเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมที่เล่าประวัติความเป็นมาของอาคารให้ได้เยี่ยมชม รวมไปถึงมีร้านหนังสือและร้านอาหารให้บริการ
อย่าง ABERDEEN STREET SOCIAL ร้านกาแฟข้างๆ ก็คนเนืองแน่น ยิ่งในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ยิ่งคลาคล่ำไปด้วยหนุ่มสาว สายชิก สายช้อป เอาแค่ว่ามาถ่ายรูปก็คุ้มแล้วสำหรับที่นี่
MTR CENTRAL (เซ็นทรัล)
เดินต่อมาอีกนิดย่านเซ็นทรัล เรียกได้ว่าอารมณ์ต่อเนื่องจากการถ่ายภาพและเสพงานศลิป์ของคณุ ได้พลุกพล่านเป็นแน่แท้ เพราะไม่ว่าจะหันไปด้านไหนก็มีงานศิลปะสวยๆ เก๋ๆ เต็มไปหมด
ในย่านถนนสายเก่าของเซ็นทรัลนั้นคุณจะได้เห็นความผสมผสานอันลงตัวของศิลปะในโลกตะวันตกอย่างตึกรามบ้านช่อง ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว อาคารเก๋งจีน อย่างเช่น Fringe Club ที่มีการออกแบบสไตล์นีโอคลาสสิกด้วยอิฐสีขาวตัดกับสีน้ำตาล
ทำให้ตึกนี้ดูแตกต่างโดดเด่นออกมาจากตึกสูงโดยรอบ ด้านในนอกจากจะมีร้านคาเฟ่ให้บริการแล้ว ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการและศิลปะให้ได้ชมกันอีกด้วย
นอกจากงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ งานศิลปะแบบสตรีตอาร์ตหรือกราฟฟิตี้ที่แทรกตัวอยู่ตามผนังหรือกำแพงของบ้านเรือนในย่านนี้ก็สวยงามเช่นกัน
ทางการท่องเที่ยวฮ่องกงเองก็มีการประชาสัมพันธ์สำหรับจุดต่างๆ ที่มีภาพศิลปะที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้ตามรอยกัน
ถ้าคุณออกจากสถานีเซ็นทรัลตามทางออก A เห็นอาคาร Exchange Square และต่อบัสสาย 15 ไปนิดก็สามารถขึ้นไปชมเดอะพีค (The Peak หรือ Victoria Peak) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดบนยอดเขาวิกตอเรีย ที่ท่องเที่ยวอันดับต้นของฮ่องกงก็ว่าได้ เรียกว่าถ้าใครมาแล้วไม่แวะเดอะพีค ก็เหมือนมาไม่ถึงฮ่องกงเลย
นอกจากทางรถบัสแล้วถ้าออก J2 เดินไปตามป้ายบอกทางประมาณ 400 เมตร ก็จะถึง Peak Tram station ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาได้ สำหรับยอดเขาวิกตอเรีย (Victoria Peak) จัดได้ว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในฝั่งเกาะฮ่องกงโดยมีความสูงประมาณ 552 เมตรจากระดับน้ำทะเล ผู้คนที่เดินทางขึ้นมาบนเดอะพีคก็เพื่อจะได้ชมวิวของฮ่องกงในมุมสูงแบบพานอรามา ยิ่งช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน เป็นช่วงที่สวยงามมากที่เห็นพระอาทิตย์สาดแสงส่องกับเหล่าบรรดาตึกสูง และในยามค่ำคืนที่แต่ละอาคารต่างเปิดไฟที่สวยงามราวกับดาวบนดิน
ถ้ามีเวลาแนะนำให้ชมการแสดง Symphony of Lights ที่สวยงามจากบนนี้ด้วยคุณจะประทับใจเป็นอย่างมาก นอกจากจุดชมวิวแล้วก็ยังมีหลายที่เที่ยวและกิจกรรมให้ทำทั้งเส้นทางเดินธรรมชาติ งานแสดงนิทรรศการ โชว์การแสดง ก็มีจัดขึ้นด้านบนนี้ แต่สำหรับเราแค่ได้ขึ้นรถราง Peak Tram ที่ขึ้นลงยอดเขานี้เป็นเวลากว่า 120 ปีก็คุ้มแล้ว เพราะการขึ้นรถรางปกติ เราจะเห็นตึกสูงที่อยู่ไกลออกไปยังคงตั้งตรงปกติแต่ที่ Peak Tram นั้น หากลองสังเกตดูที่วิวด้านขวามือนั้นจะรู้สึกเหมือนตึกกำลังจะล้มเอียงไปด้านหน้า เป็นปรากฏการณ์ที่แปลกและไม่เหมือนรถรางที่อื่น
MTR ADMIRALTY (แอดมิรอลตี้)
ถัดจากย่านศิลปะของย่านเซ็นทรัลเชิงหว่านนั่งต่อมาอีกนิดที่สถานีแอดมิรอลตี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวเพราะที่สถานีนี้มีสวนสนุกโอเชียน พาร์ก (Ocean Park) สวนสนุกแห่งแรกของเกาะฮ่องกง
ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวอะเบอดีน เราสามารถออกทางออก B แล้วต่อรถเมล์สาย629 ไปลงที่ หน้า Ocean Park ได้เลย หรือเลือกนั่งสายสีเหลืองต่อไปสถานี Ocean Park ก็ได้เช่นกัน ที่นี่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1977 ปีนี้ (2019) ก็มีอายุกว่า 40 ปีแล้ว พื้นที่ทั้งหมดมีมากกว่า 915,000 ตารางเมตร
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญสองแห่งประกอบไปด้วย Waterfront และ Summit ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างกันโดยรถกระเช้าและรถไฟ Ocean Express ภายในสวนสนุกนอกจากจะมีเครื่องเล่นที่แบ่งเป็นโซนมากกว่า 6 โซนทั้ง Polar Adventure โซนที่จำลองขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ไว้ที่เดียว Old Hong Kong
โซนที่จำลองฮ่องกงในอดีต Thrill Mountain หุบเขาเขย่าขวัญ โซนนี้ท่านจะได้ห้อยหัวเหนือหน้าผา บนรถไฟเหาะสุดหวาดเสียว Rainforest โซนนี้ท่านจะพบกับดอกไม้นานาพรรณมากกว่า 1,000 ชนิด Aqua City อะควาซิตี้เป็นพื้นที่สวนสนุกทางทะเลระดับโลก Amazing Asian Animals ที่โซน Amazing Asian Animals จัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์ของเอเชียบางชนิดที่หายากที่สุด
แล้วยังมีร้านค้าและร้านอาหารระดับพรีเมียมมากกว่า 10 ร้าน เมนูต่างๆ มากมายที่ตอบสนองความชอบของแต่ละบุคคล เรียกได้ว่า 1 วันเที่ยวไม่ครบโซนอย่างแน่นอน
MTR WAN CHAI (หว่านไจ๋)
ปิดท้ายการเดินทางท่องเที่ยวรถไฟสายสีน้ำเงินกันที่สถานีหว่านไจ๋ สำหรับที่นี่น่าจะตอบโจทย์สำหรับคนที่รักความสงบ
เพราะหว่านไจ๋มีร้านค้า ร้านอาหารร้านคาเฟ่เก๋ไก๋ไม่ต่างจากย่านเซ็นทรัลหรือเชิงหว่าน หว่านไจ๋จะมีความเป็นฮ่องกงมากกว่า
คุณจะพบเห็นร้านขายเสื้อผ้าส่งออกหรือร้านขายเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์คุณภาพเยี่ยมได้จากย่านนี้ ในขณะเดียวกันก็จะมีโซนของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์รวมไปถึงของเล่นที่ตอบสนองความต้องการจับจ่ายของทุกวัยกันเลย
จะเห็นได้ว่าแทบทุกสถานีรถไฟฟ้าของฮ่องกงต่างก็มีข้อเด่นที่น่าสนใจให้ได้เยี่ยมชมกัน
หากเดินทางมาฮ่องกงครั้งต่อไป ลองเดินทางไปตามเส้นทางรถไฟฟ้าและแวะเที่ยวสถานที่ใหม่ที่ไม่เคยรู้ เคยดูคุณอาจจะพบความสุขที่ซ่อนอยู่ก็เป็นได้