Classic life in Vienna – ชีวิตสุนทรีย์ที่เวียนนา

Story & Photo by เรื่องเล่าจากกระเป๋าเดินทาง

จะมีเมืองหลวงสักกี่เมือง ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดของโลก เพราะส่วนใหญ่แล้วเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่มักประสบปัญหาความแออัดหรือมลภาวะ แต่เมืองหลวงของประเทศออสเตรียอย่างกรุงเวียนนา (Vienna) กลับครองแชมป์เมืองคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยการประเมินจากปัจจัยต่างๆ ทั้งเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม ปัญหาอาชญากรรม การศึกษา และการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข

สำหรับฉัน ขอยกตำแหน่งเมืองที่ร่ำรวยอารมณ์สุนทรีย์ที่สุดของโลกให้กับเวียนนา สมกับที่เป็นนครหลวงแห่งการดนตรีของประเทศที่มีนักแต่งเพลงคลาสสิกมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นเบโธเฟน, โมซาร์ต หรือโยฮันน์ ชเตราสส์

การเดินทางก็สะดวกสบายด้วยระบบขนส่งมวลชนที่ดีมาก มีทั้งรถไฟแบบ S-bahn และรถไฟใต้ดิน U-bahn รวมถึงรถเมล์และรถรางให้บริการด้วย ถ้าใช้เวลาอยู่ในเวียนนาหลายวันขอแนะนำให้ใช้ Vienna card ที่สุดคุ้ม

กรุงเวียนนานั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางจากทั่วมุมโลก เริ่มต้นกันที่ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) พระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บูร์กที่โก้หรูภูมิฐาน

ตัวอาคารเป็นสไตล์โรโคโคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย โดยย่อแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนหลั่งไหลมาชื่นชมการตกแต่งที่หรูหราอลังการ มีห้องต่างๆ จำนวนมากถึง 1,441 ห้อง แต่เปิดให้เข้าชมได้เพียง 40 ห้อง ที่ต้องใช้เวลาเกือบเต็มวันในการชมให้ทั่วถึง

ด้านหลังอาคารพระราชวังมีสวนสวยสไตล์บารอกที่ยิ่งใหญ่อลังการรอต้อนรับนักท่องเที่ยว มีรูปปั้นศิลปะเกี่ยวกับเทพนิยายกรีกและโรมันอีกกว่า 40 รูป แทรกอยู่ตามหมู่ต้นไม้ เดินขึ้นเนินไปเป็นจุดชมวิวที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่ง มองลงมาเห็นตัวพระราชวัง มีฉากหลัง เป็นบ้านเมืองและย่านเมืองเก่า

จากนั้นให้นั่งรถไฟใต้ดินไปยังถนนริง (Ring Strasse) ถนนวงแหวนยาว 4 กิโลเมตรที่โอบล้อมใจกลางเมืองเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆหลายแห่งของเมือง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง โรงละคร และพิพิธภัณฑ์มากมาย ชื่อเสียงของเวียนนายังโดดเด่นมากในเรื่องการเป็นเมืองสีเขียวของยุโรป เพราะมีสวนสาธารณะและพื้นที่กว้างเยอะมาก จัตุรัสโจเซฟ (Josefsplatz) จัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเวียนนา มีสวนสวยเอาไว้ให้ชาวเมืองมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ฟังเสียงเพลงจากนักดนตรีบรรเลงให้ฟัง เป็นความสุนทรีย์สมกับที่อยู่บนดินแดนแห่งดนตรีคลาสสิกจริงๆ

ไม่ไกลออกไปคืออีกหนึ่งไฮไลต์ที่เวียนนาภูมิใจนำเสนอ นั่นคือ พระราชวังฮอฟบูร์ก (Hofburg Palace) เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์ฮับส์บูร์กมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13-20 ด้านในมีพิพิธภัณฑ์กว่า 20 แห่ง แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือพิพิธภัณฑ์ซีซี่ (Sisi Museum) ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญต่างๆ ของราชวงศ์ เช่น เครื่องเงิน เครื่องถ้วยชาม และภาพวาดที่งดงาม

ข้ามไปฝั่งตรงข้ามของถนนริง มีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches Museum หรือ Museum of Art History) เป็นพิพิธภัณฑ์คู่ที่หันหน้าเข้าหากันระหว่างจัตุรัสมาเรียเทเรซา สำหรับคนที่ชื่นชอบศิลปะ ที่นี่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของโลกในการสะสมงานวิจิตรศิลป์และมัณฑนศิลป์ มีผลงานในสมัยราชวงศ์ฮับส์บูร์กเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังชมอย่างอิ่มตา

ส่วนคนที่ชอบศิลปะร่วมสมัย แนะนำให้ไปเดินเล่นที่พิพิธภัณฑ์ควาร์เทียร์ (MuseumsQuartier: MQ) ซึ่งเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในปี 2001 ถือเป็นหนึ่งในศูนย์วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ที่นี่ฉันเพลิดเพลินไปกับความแตกต่างระหว่างอาคารในสไตล์บารอกกับภูมิทัศน์สมัยใหม่ที่ผสมผสานกันอยู่ในศูนย์แสดงผลงานศิลปะ

หลังจากชื่นชมผลงานศิลปะร่วมสมัยอันโดดเด่น ผลงานศิลปินเอกแห่งโลกยุคใหม่อย่างปิกัสโซและแอนดี้ วอร์ฮอล แล้วให้ออกมานั่งผ่อนคลายบนม้านั่งแนวแอ็บสแตรกด้านนอกอาคาร หรือนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่ที่มีให้เลือกมากมายในบริเวณนี้

ในย่านเมืองเก่าของเวียนนาที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของเมืองก็สะท้อนภาพความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ในสมัยยุคกลาง ไม่ว่าจะเป็นโรงละครแห่งชาติ (Opera House) ที่มีการแสดงอุปรากรให้ชมทุกวัน มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen) ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา

เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ทรงสูงมียอดปลายแหลมๆ หลายยอด เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกทิกที่อ่อนช้อยงดงามมาก

บริเวณรอบๆ มีคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย เดินเพลินๆ ต่อไปบนถนนกราเบน (Graben) ถนนสายหลักของย่านเมืองเก่าที่มีอาคารเก่าแก่สวยงามและมีโบสถ์ Catholic Church of St. Peter แทรกตัวอยู่

มองจากด้านนอกอาจดูไม่อลังการมากนัก เเต่ด้านในสวยงามเเละอลังการไม่เเพ้โบสถ์ที่อิตาลีหรือฝรั่งเศสเลยทีเดียว

สถานที่โปรดของฉันในย่านเมืองเก่า คือ Central Cafe คาเฟ่ชื่อดังของเวียนนาที่มีชื่อเสียงมายาวนาน เปิดมาตั้งแต่ปี 1876 สมัยก่อนเป็นที่นิยมของนักคิดเเละบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ใช้เป็นที่พักผ่อนเเละถกความคิดกัน ไม่ว่าจะเป็น ซิกมุน ฟรอยด์, สตาลิน, ฮิตเลอร์, อดอล์ฟ ลูส์ เป็นต้น

ปัจจุบันเป็นสังคมชาวคาเฟ่ที่มีชีวิตชีวา นั่งจิบกาแฟ ชิมขนมอร่อยๆ ในคาเฟ่เก่าแก่ที่ตกแต่งเวอร์วังยังกับพระราชวัง

เมนูโดดเด่นคือ Sacher Torte หรือเค้กช็อกโกแลตสอดไส้แยมแอปริคอตต้นตำรับของออสเตรีย และ Kaiserschmarrn เเพนเค้กราดด้วยซอสผลไม้ ที่เป็นเมนูโปรดของกษัตริย์ Franz Joseph I ในอดีต

กินอิ่มแล้วไปเดินเล่นต่อบนถนนคาร์นท์เนอร์ (Kärntner Strasse) ถนนสายช้อปปิ้งของเวียนนา มีร้านเรียงรายตามอาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ต้องระวังกระเป๋าตังค์เป็นพิเศษเพราะมีสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกซื้อเหมือนหลุดเข้าไปบนสวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง

เวียนนายังมีสถานที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากท็อปลิสต์ที่ควรค่าแก่การไปชม ไม่ว่าจะพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Naturhistorisches Museum) ที่มีการจัดแสดงที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก,

หอสมุดแห่งชาติของประเทศออสเตรีย (National Bibliotheque) ที่รวบรวมหนังสือมากที่สุดในประเทศออสเตรีย,

อาคารรัฐสภาออสเตรีย (Austrian Parliament Building) อันโออ่า

พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่พระราชวัง เบลเวอเดียร์ (Belvedere Palace) อดีตพระราชวังที่ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานศิลปะที่ดีที่สุดของกรุงเวียนนา ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงยุคปัจจุบัน,

สวนสาธารณะเวียนเนอร์ พราเตอร์ (Wienner Prater) สวนสนุกที่เปิดให้บริการยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลก,

ตลาดแนชมาร์ก (Naschmarkt) ตลาดเก่าแก่ที่เป็นเหมือนคลังอาหารแห่งกรุงเวียนนา เพราะรวบรวมทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาหารไว้อย่างครบครัน ตั้งแต่ขนมขบเคี้ยวไปจนถึงอาหารสำเร็จรูปชั้นยอด

เยี่ยมชมอาคารฮุนเดิร์ตวาสเซอร์เฮาส์ (Hundertwasserhaus) อาคารที่พักที่ออกแบบแหวกกฎเกณฑ์ทั้งหลาย ปฏิเสธการใช้เส้นตรง สีสดใสสะดุดตาและกลมกลืนกับธรรมชาติสีเขียว หรือจะออกไปเดินเล่นนอกเมือง ชมบรรยากาศริมสองฟากฝั่งแม่น้ำดานูบ

เวียนนาเป็นเมืองที่สงบและสะอาดมากเมื่อเทียบกับเมืองหลวงของประเทศอื่นๆ เป็นเมืองแห่งศิลปะ อาคารบ้านเมืองสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัยเก่าและใหม่ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว บรรยากาศโรแมนติกที่มีเสียงดนตรีคลาสสิกให้เสพอยู่ทุกมุมเมือง นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันอยากวนเวียนกลับไปเวียนนาอยู่บ่อยๆ

ข้อมูลท่องเที่ยวเวียนนาเพิ่มเติม
www.aboutvienna.org
www.vienna.info
https://www.schoenbrunn.at/en/