Beloved…Berlin ปั่นสองล้อท่องเบอร์ลิน
Story & Photo by Kanjana Hongthong
สำหรับเมืองสุดเลิฟอย่างเบอร์ลิน (Berlin) กล้าพูดเลยว่ารักไม่เคยจืดจาง เมืองที่ชุ่มโชกไปด้วยประวัติศาสตร์อย่างเบอร์ลิน จะมากี่ทีก็ซอกแซกเมืองมากอดีตได้อย่างไม่รู้เบื่อ
เป็นเที่ยวที่ฉันออกสำรวจเบอร์ลินด้วยการปั่นสองล้อจากแถวพอทส์ดัมเมอร์ ปลาตซ์ (Potsdamer Platz) ผิดกับทุกครั้งที่มักไปออกสตาร์ทกันแถวประตูบรันเดนบวร์ก (Brandenburg Gate) หรือไม่ก็มุมใดมุมหนึ่งบนถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน (Unter den Linden) พูดเหมือนกันไกลกัน ที่จริงพอทส์ดัมเมอร์ ปลาตซ์อยู่ห่างจากประตูบรันเดนบวร์กไปแค่ราวๆ ครึ่งกิโลเมตรเท่านั้นเอง
หลายปีก่อนฉันมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ถึงได้พบว่า พอทส์ดัมเมอร์ ปลาตซ์ คือ ย่านศูนย์กลางความเจริญของเบอร์ลิน ไม่น่าเชื่อว่าพวกอาคารสูง โรงแรม และคาเฟ่ที่เห็นอยู่นั้น ในอดีตคือทุ่งโล่งที่แห้งแล้งความเจริญ เพราะเมื่อคราวสงครามเย็น ย่านนี้คือจุดยุทธศาสตร์สำคัญอีกแห่งหนึ่งของการวางแนวกำแพงเบอร์ลิน
จนเมื่อกำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลง พอทส์ดัมเมอร์ ปลาตซ์จึงถูกแปลงโฉมให้เป็นหน้าเป็นตาของเยอรมันอีกครั้ง ทุกวันนี้ที่นี่คือสถานที่ที่ใครอยากเห็นมุมทันสมัยของเบอร์ลิน ต้องมาเดินเตร็ดเตร่กันแถวนี้ เงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นป้ายแบรนด์ดังๆ เต็มไปหมด และเมื่อสำรวจผู้คนที่เดินสวนไปมาบนท้องถนนก็จะพบว่าคนรุ่นใหม่ฮิพๆ แนวๆ ของเบอร์ลิน มักมาเดินเล่นกันแถวนี้ และยิ่งใครชอบพวกพิพิธภัณฑ์ มาเดินแถวนี้คุณจะเพลินกว่าใคร
ปั่นสองล้อในระยะหอบสองหอบ ก็ถึงเช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) มุมที่นักท่องเที่ยวที่มาเบอร์ลินแทบทุกคนไม่มีใครยอมพลาดจุดประวัติศาสตร์ของเมืองแห่งนี้
จำได้ว่าตอนมาเบอร์ลินครั้งแรก เห็นเช็คพอยท์ชาร์ลีแล้วเพ่งมองด้วยความสงสัย เพราะที่กองอยู่ตรงหน้าเหลือไว้เพียงป้อมเล็กๆ ป้ายปักเขตแดนในสมัยนั้น และทหารยืนประจำการอยู่ โดยมีบรรดานักท่องเที่ยวแห่แหนกันเข้าไปถ่ายรูปด้วย ขณะที่ป้าย YOU ARE LEAVING THE AMERICAN SECTOR ก็ถูกแชะภาพใส่ทุกวัน
สำหรับคนท่องเบอร์ลินแบบฉาบฉวย มุมนี้จึงไม่มีอะไรที่เขาสนใจนัก แต่ถ้าเป็นนักท่องประวัติศาสตร์ตัวยงล่ะก็ มุมนี้จะทำให้ยืนนิ่งได้นาน เพราะเมื่อคราวที่เบอร์ลินยังอวลไปด้วยไอของสงครามเย็น มีกำแพงกั้นระหว่างตะวันออก และตะวันตก เช็คพอยท์ชาร์ลีถือว่าเป็นจุดที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นี่คือจุดผ่านแดนระหว่างเบอร์ลินตะวันตก ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ในความควบคุมของสหรัฐอเมริกา และเบอร์ลินตะวันออกซึ่งเป็นดินแดนในการควบคุมของสหภาพโซเวียต ซึ่งคนที่จะผ่านเข้าออกจุดนี้ ต้องผ่านการตรวจตราอย่างหนัก
ว่ากันว่า สมัยก่อนคนฝั่งตะวันตกสามารถข้ามไปฝั่งตะวันออกได้ง่ายกว่า ส่วนคนเบอร์ลินฝั่งตะวันออก นับจากกำแพงเบอร์ลินถูกเนรมิตขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ก็เหมือนคุกที่ปิดตาย ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวเบอร์ลินฝั่งตะวันออกไม่สามารถเดินทางข้ามไปฝั่งตะวันตกได้ แต่บางคนที่จำเป็นต้องเดินทางไปยังพวกประเทศคอมมิวนิสต์ทั้งหลาย ก็ต้องผ่านเช็คพอยท์ชาร์ลีที่จริงตลอดแนวกำแพงเบอร์ลิน ไม่ได้มีแค่เช็คพอยท์ชาร์ลีเพียงจุดเดียว แต่มีเช็คพอยท์อีก 3 จุด กระจายตัวตามจุดต่างๆ แต่จุดนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่สุด
ไปเที่ยวก่อนยังไม่มีนิทรรศกาลกลางแจ้ง แต่เที่ยวนี้เพิ่งเห็นว่าตรงหัวมุมถนน เขาทำเป็นมุมให้ความรู้เกี่ยวกับเช็คพอยท์ชาร์ลี หลายภาพเห็นแล้วถึงกับนิ่ง บางคนมีน้ำตาเอ่อ เมื่อภาพตรงหน้าคือชีวิตลำเค็ญยามต้องพาตัวเองหลบหนีข้ามไปยังอีกฝั่งของกำแพงจะบอกว่าอินก็ได้ มากี่เที่ยวก็อินแบบนี้เสมอ แต่ยังอินไม่มาก นักเดินทางหลายคนที่อินมาก ผละจากมุมนี้ก็นั่งรถใต้ดินต่อไปหากำแพงเบอร์ลินมุมที่เป็นอีสต์ ไซด์ แกลเลอรี (East Side Gallery) เลย
แต่ฉันปั่นสองล้อไปหาถนนสายช้อปปิ้งของเมือง และมุมหนึ่งที่ไม่แวะไม่ได้เลยคงเป็นเกนดาร์เมนมาร์คท (Gendarmenmarkt) เดิมทีชื่อ Lindenmarkt และ Neuer Markt แต่มาเปลี่ยนเป็นชื่อเกนดาร์เมนมาร์คทตั้งแต่ปี ค.ศ. 1799 อาจไม่ใช่จัตุรัสงามที่สุดในเยอรมัน แต่หลายคนบอกว่าถ้ามีการประกวดจัตุรัสในยุโรป เบอร์ลินส่งที่นี่เข้าประกวดได้สบาย
เป็นจัตุรัสที่มองดูก็รู้ว่าภูมิฐานเป็นที่สุด รอบตัวคืออาคารสำคัญ ทั้งโรงละคร คอนเสิร์ตฮอลล์ (Konzerthaus) โบสถ์ฝรั่งเศส (Französischer Dom) และโบสถ์เยอรมัน (Deutscher Dom) ใครอยากช้อปก็มีห้างสรรพสินค้าและช้อปปิ้งมอลล์ให้ผลาญเงินยูโรด้วย แต่ที่เยอะหน่อยก็คาเฟ่เก๋ๆ ชิลๆ น่าแวะแทบทุกร้าน
ฉันเองก็ไปเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านหน้าคอนเสิร์ตฮอลล์ที่สร้างตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ด้านหน้ามีรูปปั้นกวีชื่อดังของเยอรมันอย่างชิลเลอร์ ไม่น่าเชื่อว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คอนเสิร์ตฮอลล์ถูกทำลายอย่างหนัก มาบูรณะฟื้นฟูและเปิดแสดงคอนเสิร์ตอีกครั้งช่วงปลายศตวรรษที่ 20
สำหรับคนไม่รีบร้อน มาเอ้อระเหยที่มุมนี้แล้วคุณจะเห็นว่า นี่คือมุมพักผ่อนหย่อนอารมณ์ของนักท่องเที่ยวและชาวเมือง ที่มักมานั่งตามเก้าอี้ริมจัตุรัส และในช่วงใกล้สิ้นปี จะมีคริสต์มาส มาร์เก็ตที่นี่ด้วย
เมื่อไม่ได้รีบร้อนไปไหน ฉันเลยหาคาเฟ่เหมาะๆ นั่งจิบอะไรเย็นๆ เคล้าแดดหวานๆ ฟังเสียงดนตรีจากนักดนตรีริมทางอย่างเพลินใจ หายเหนื่อยนั่นแหละถึงได้ถอนสมอ มุ่งหน้าไปหาถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน ถนนสายหลักและเก่าแก่ของเบอร์ลิน ที่คนมาเบอร์ลินต้องพาสองเท้ามาย่ำกันทุกคน เพราะไม่ว่าจะเหยียบย่างไปมุมไหนของถนนสายนี้ ก็มีประวัติศาสตร์และเรื่องราวไปเสียทุกที่ เพราะแบบนี้อุนเทอร์ เดน ลินเดนถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ที่น่าเดินที่สุดของเยอรมัน
อย่างที่หลายคนรู้ว่าที่นี่คือต้นแบบถนนราชดำเนินของบ้านเรา เวลามีการประท้วง ก็มักจะเลือกถนนสายนี้เป็นที่รวมพลกันก่อนจะชุมนุม และหากมีเวลาเดินสำรวจ ก็จะพบว่าสถานที่สำคัญหลายอย่างอยู่บนสองฟากฝั่งของถนนสายนี้ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยฮุมโบลดท์ หอสมุดแห่งชาติ สถานทูต โบสถ์ โรงละคร หรือพวกอนุสรณ์สถานที่สำคัญของเบอร์ลินก็อยู่บนถนนสายนี้เช่นกัน หลายคนเรียกอุนเทอร์ เดน ลินเดนว่าถนนที่มีบุคลิกอันสง่างาม บ้างก็ว่ากลิ่นอายของอาณาจักรปรัสเซียยังแฝงเร้นอยู่บนถนนสายนี้ แต่ทั่วทั้งถนนไม่มีสิ่งปลูกสร้างชิ้นไหนที่โดดเด่นเท่ากับประตูบรันเดนบวร์กอีกแล้ว เพราะนี่คือสัญลักษณ์ของเบอร์ลินที่ทุกคนนึกถึง
นี่คือประตูเมืองที่ทอดตัวอยู่บนจัตุรัสปาริเซอร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1788 สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่มีเสาดอริก 12 ต้น ด้านบนสุดเป็นรูปปั้นขบวนรถม้าสีเขียวสี่ตัว พาเทพีแห่งชัยชนะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกของเบอร์ลิน ทุกวันนี้ นอกจากบรันเดนบวร์กจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเบอร์ลิน ยังเป็นประตูที่คอยเป็นเครื่องเตือนใจผู้คนให้นึกถึงประวัตศาสตร์และเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในเบอร์ลินอีกด้วย
จากนั้นฉันก็ไล่ไปหามุมสำคัญๆ ที่อยู่บนสองฟากฝั่งถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน ไม่ว่าจะเป็นจัตุรัสอเล็กซานเดอร์ (Alexanderplatz) อันเป็นศูนย์กลางของเบอร์ลินตะวันออก จะเรียกว่าเป็นจัตุรัสประวัติศาสตร์ของเบอร์ลินก็ว่าได้ เพราะประวัติศาสตร์หลายหน้าของเบอร์ลินมากมายเกิดขึ้น ณ จัตุรัสแห่งนี้
แต่วันที่ชาวเบอร์ลินจดจำมากที่สุดคือ 9 พ.ย. ปี ค.ศ. 1989 เมื่อเลขาธิการพรรคของเบอร์ลินตะวันออกได้กล่าวสุนทรพจน์ที่จัตุรัสแห่งนี้ โดยมีนักข่าวจากทั่วโลกและประชาชนเรือนแสนมายืนเบียดเสียดกันที่นี่ ข้อสำคัญถ่ายทอดสดผ่านทีวีด้วย ความผิดพลาดบางประการที่หลุดจากปากเขา ทำให้กำแพงแห่งสงครามเย็นทลายลงในค่ำคืนนั้น
ทุกวันนี้รายรอบจัตุรัสใหญ่แห่งนี้มีโบสถ์ Marienkirche อันเก่าแก่ หอนาฬิกา น้ำพุกลางลานกว้าง โรงหนัง โรงแรมหรู ร้านรวง อาคารพาณิชย์ และห้างสรรพสินค้า แต่ที่เกี่ยวสายตาทุกคู่ให้หยุดมองคือหอคอยเบอร์ลิน ทาวเวอร์ (Berliner Fernsehturm) หอโทรทัศน์ที่สูงที่สุดในเยอรมันและสูงเป็นอันดับสองของยุโรป ด้านบนของหอมีจุดชมวิวในมุมสูงได้ดีที่สุดในเบอร์ลิน สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา และมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่หมุนได้รอยตัวเอาไว้ให้นั่งรับประทานอาหาร
เดินเลยจากจัตุรัสอเล็กซานเดอร์มาไม่ไกลคืออีกหนึ่งไฮไลต์ของเบอร์ลินอย่างมหาวิหารแห่งเบอร์ลิน (Berliner Dom) โบสถ์เก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดและสวยดึงดูดที่สุดในเบอร์ลิน นั่งกินลมชมบรรยากาศอยู่หน้ามหาวิหารแห่งเบอร์ลินอยู่พักใหญ่ ฉันก็นั่งรถใต้ดินมุ่งหน้าไปหาอีสต์ ไซด์ แกลเลอรี มุมที่คนคลั่งไคล้ประวัติศาสตร์จัดให้อยู่ในหมวดจำเป็นต้องไป
ถึงแม้วันนี้ไม่มีกำแพงกั้นขวางคนทั้งสองฝั่ง แต่ความทรงจำ คราบน้ำตาและรอยหม่นเศร้าเปรอะเปื้อนกำแพงแห่งนี้เต็มไปหมด และถึงแม้ฉันจะไม่ใช่ผู้ช่ำชองเรื่องศิลปะแต่ก็รู้ได้ว่านี่คือห้องแสดงนิทรรศกาลกลางแจ้งที่น่าดูและใหญ่ที่สุดของเบอร์ลิน
– สายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์นอกจากจะมีเที่ยวบินเข้าเบอร์ลินแล้ว ยังมีอีกหลายเมืองในยุโรปไม่ว่าจะเป็น ซูริค ปารีส มิวนิค แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน บรัสเซลส์ โรม และอัมสเตอร์ดัม นอกจากราคาถูกใจสบายกระเป๋า ที่นั่งก็สะดวกสบายด้วย สอบถามได้ที่ 0 2652 6089 หรือคลิกไปที่ www.flyuia.com
– คนที่บินเข้าหัวเมืองอื่นในยุโรป ก็สามารถเดินทางมาหาเบอร์ลินได้ด้วยรถไฟยุโรป เช่นใครซื้อตั๋วประเภทยูเรล โกลบอล พาสที่ใช้ได้ 24 ประเทศในยุโรปมาด้วย นอกจากใช้นั่งรถไฟจากเมืองอื่นในยุโรปหรือเมืองอื่นในเยอรมันได้แล้ว คนมีตั๋วแบบนี้ยังใช้บริการรถไฟประเภท S-Bahn ในเบอร์ลินได้ฟรีอีกด้วย และมีส่วนลดสำหรับโรงแรมบางแห่งด้วย คลิกไปดูรายละเอียดได้ที่ www.raileurope.co.th
– เบอร์ลินเป็นเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปเมื่อมีตัวช่วยอย่างเว็บไซต์จองที่พักเจ้าประจำอย่างอโกดา www.agoda.com แต่แนะนำโรงแรม Hotel Gat Point Charlie โรงแรมสุดเท่ที่อยู่ใจกลางเมือง และใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างชาร์ลี เช็คพอยท์ โพทส์แดมเมอร์ พลาทซ์ จัตุรัสเกนดาร์เมน ห้องสมุดแห่งเบอร์ลิน อาคารรัฐสภา และถนนสายช้อปปิ้ง โรงแรมตั้งอยู่ที่ Mauerstrasse 81-82 Berlin (Mitte) โทร. +49 (0) 30 206 71747 หรือคลิกไปดูรายละเอียดได้ที่ www.gatrooms.com/charlie