Art in Central : Hong Kong
Story by Orawan / Photo by Vacationist Team
ด้วยพื้นที่เพียง 1,100 ตารางกิโลเมตรกับประชากรกว่าเจ็ดล้านคน ทำให้เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือฮ่องกงที่เรารู้จักกันดี จัดเป็นเขตที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่นที่สุดเขตหนึ่งในโลก
บวกกับช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ของทุกปีมีเทศกาลลดราคาทั้งเกาะเข้าไปเพิ่มอีก ทำให้ฮ่องกงมีปริมาณคนเพิ่มขึ้นอย่างมากมายสงสัยแล้วสินะว่า แล้วทำไมเรายังเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวฮ่องกงกันอีก
ท่ามกลางผู้คนและตึกสูงระฟ้าที่แน่นขนัดของย่านศูนย์กลางธุรกิจอย่าง “ย่านเซ็นทรัล” ยังมีเส้นทางสายศิลปะที่มีงานศิลป์ ประติมากรรม และอาคารสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวซ่อนตัวอยู่ รอให้คนเดินทางเช่นเราได้เข้าไปสัมผัส
หลังจากที่ฉันเริ่มต้นค่ำคืนที่ฮ่องกงบริเวณที่พักในย่านลานไควฟง (Lan Kwai Fong) แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ฮอตฮิตที่สุดในฮ่องกงที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและพนักงานบริษัทออกมาสังสรรค์กัน
แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้นทุกอย่างเงียบหายไปสนิทราวกับพลิกฝ่ามือ
บริเวณฟรินจ์คลับ (Fringe Club) อาคารอิฐสีครีมสลับแดง บนถนนโลเวอร์ อัลเบิร์ต (Lower Albert Road) ย่านเซ็นทรัลของฮ่องกง สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ 1890 เคยใช้เป็นห้องเย็นสำหรับเก็บน้ำแข็งและนมวัวระยะหนึ่ง ก่อนที่ตู้เย็นจะเป็นเครื่องใช้ที่มีแพร่หลายในครัวเรือนทำให้เกือบจะโดนทุบทิ้ง ก่อนจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 1913 พื้นที่แสดงศิลปะหลากหลายประเภท บริหารงานโดยองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร
ในปี ค.ศ. 1983 มีการจัดงานฟรินจ์ อาร์ต เฟสติวัล เป็นระยะเวลาถึงหนึ่งปีขึ้นที่นี่ เป็นที่ชื่นชอบบรรดาศิลปิน ทางเดอะ ฟรินจ์ คลับ จึงตัดสินใจปรับปรุงอาคารในจุดต่างๆ ต่อไปเพื่อให้เป็นศูนย์ศิลปะแบบครบวงจร
เมื่อเดินมุ่งหน้าขึ้นไปตามถนนฮอลลีวูด (Hollywood Road) เส้นทางที่ถือได้ว่ามีงานศิลปะ และสถาปัตยกรรมต่างๆ แทรกตัวอยู่มากมาย ไม่ไกลนักเราก็หันไปเห็นภาพวาดอาคารต่อกันบนกำแพงสีฟ้าที่ยาวเหยียดตลอดทางเดินตรงบริเวณจุดตัดของถนนแกรแฮม 46 กับถนนฮอลลีวูด 48 ที่นี่ถือเป็นจุดหลักที่หลายคนชอบมาถ่ายรูปกัน
นอกจากการถ่ายรูปสไตล์เก๋แล้วภาพหญิงสาวสองคนในชุดกี่เพ้าท่ามกลางศิลปะเป็นอีกสิ่งที่ฉันประทับใจจริงๆ
เดินขึ้นเนินไปนิด ข้างกำแพงข้าง Brooklyn Bar & Grill ก็จะเห็นอีกหนึ่งงานสีสันสดใส ชวนให้กระฉับกระเฉงมากขึ้น
เดินต่ออีกนิดบริเวณ Elgin Street งานจิตรกรรมฝาผนังของผับแบบเมืองบนผนังตัดกับแผงลอยโลหะสีเขียวร้านขนมหวาน Yuk Yip Desserts ก็เป็นงานชิ้นแรกที่ดูแปลกสำหรับฉัน
ไม่ไกลจากบริเวณนั้นมากนักบนเส้นทางตัดกันระหว่างถนนฮอลลีวูดกับถนนอาเบอร์ดีน (Aberdeen Street) คุณจะเห็นอาคารหน้าตาคล้ายห้องแถวโบราณตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่คือ ตึก PQM หรือ Police Married Quarters
อาคารหน้าตาแข็งๆ แบบนี้เคยเป็นโรงเรียนที่ให้การศึกษาแบบตะวันตกที่เก่าแก่ของฮ่องกงก่อนจะมาเป็นหอพักของตำรวจในปี ค.ศ. 1951 จนถึงปี ค.ศ. 2009
และถูกทิ้งร้างอยู่นานหลายปีจนทางรัฐบาลได้พัฒนาพื้นที่ราคาสูงกว่า 13,000 ล้านบาทแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของตลาดแห่งการสร้างสรรค์ในฮ่องกง
ด้านชั้นใต้ดินเปิดให้เข้าชมโครงสร้างใต้ดินของอาคารซึ่งเป็นโครงสร้างโบราณตั้งแต่ก่อสร้าง (ถ่ายรูปได้แต่ห้ามใช้แฟลช) ด้านบนอาคารคุณจะได้เห็นสินค้าดีไซน์ใหม่ๆ นิทรรศการ เวิร์กช็อปของศิลปินและดีไซเนอร์หนุ่มสาวของฮ่องกง ที่มีจัดแสดงตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟน่ารักๆ และมีงานศิลปะแทรกตัวอยู่อย่างคลาสสิก
ยกตัวอย่างเช่นบันไดทางเดินที่มีการเพนต์เป็นภาพปลาคาร์ป นึกไปถึงบันไดคล้ายกันแบบนี้ในอีกที่หนึ่ง เป็นความละมุนที่ซ่อนตัวอยู่แต่ก็รู้สึกได้ถึงความละเอียดอ่อน PMQ ถือเป็นอีกสถานที่สำหรับคนที่ต้องการความสุนทรีย์อีกแห่งหนึ่ง
ด้านข้างของตึก PMQ มีแกลเลอรีอีก 2 แห่ง คือ La Galerie Paris 1839 ที่แกลเลอรีนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่แกลเลอรีที่แสดงภาพถ่ายของฮ่องกงในมุมต่างๆ โดยตัวเลข 1839 ของแกลเลอรีมาจากปี ค.ศ.1893
ที่ทางรัฐบาลฝรั่งเศสได้รับสิทธิ์ในการนำเสนอภาพถ่ายจาก Louis Daguerre ส่วนอีกแกลเลอรี Karin Weber Gallery ที่อยู่ติดๆ กัน เป็น ‘500 Best Galleries Worldwide’ โดย Blouin Artinfo ในปี พ.ศ. 2558 และปี 2559
ที่นี่มีผลงานอันโดดเด่นของงานศิลปะนานาชาติหลายชิ้น อีกทั้งแกลเลอรีแห่งนี้ยังเป็นเจ้าภาพการจัดนิทรรศการในคอนเซปต์ฮ่องกงเพื่อสนับสนุนศิลปินท้องถิ่นอีกด้วย
เดินกันต่ออีกหน่อยสังเกตสักนิด หันมองด้านหลังบริเวณบันไดระหว่างถนนฮอลลีวูดกับถนนสแควร์ (Square Street) คุณจะเห็นภาพวาดของหน้าผู้หญิงสีสันสดใส พร้อมลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปินกราฟฟิตี้ท้องถิ่นอย่างกลุ่ม HKwalls
และเมื่อเดินตามบันไดขึ้นไปจะเห็นอีกหนึ่งภาพจิตรกรรมฝาผนังของศิลปินกราฟฟิตี้ชาวเกาหลีอย่าง Xeva กับเทคนิคโมเสกในรูปบรูซลี สองภาพนี้สีสันและเทคนิคค่อนข้างจัดจ้านผิดกับภาพโทนสีม่วงบนกำแพงของร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องคราฟต์เบียร์อย่างร้าน Craftissimo ที่ซ่อนตัวอยู่บนถนนทายเผ่งซ้าน (Tai Ping Shan)
แต่สำหรับฉันแล้วไม่ว่าภาพไหนก็ไม่ประทับใจเท่ากับภาพด้วยเทคนิคฟรีแฮนด์และเทคนิคการฉลุภาพ ศิลปินไทยอย่างคุณรักกิจ ควรหาเวช ที่ช่วยฟื้นอาคารเก่าบนถนนฮอลลีวูดนี้ขึ้นมา
ด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่รูปสุนัขจิ้งจอกบนกำแพงตึก Hollywood Building ใกล้กับร้าน Little Burro บนถนน Upper Station Street นั่นเอง ภาพสีสันสดใสพร้อมด้วยความภูมิใจที่เป็นฝีมือคนไทยทำให้อิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก
การแสดงตัวตนผ่านผลงานของศิลปินหลายท่านเหล่านี้จัดโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง HK Walls พลิกกำแพงที่ว่างเปล่า เป็นงานศิลปะให้พวกเราได้รื่นรมย์กันอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย
ยังมีผลงานอีกหลายชิ้นที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้ เปิดโลกทัศน์ และได้ทดลองสัมผัสสิ่งใหม่ๆ ใจกลางเมืองฮ่องกงกัน
การเดินทางชมเส้นทางสายศิลปะสามารถเริ่มได้จากการไปฟรินจ์คลับโดยรถไฟฟ้า MTR สาย Tsuen Wan Line หรือ สาย Island Line ลงสถานี Central ออกทางออก D1 เลี้ยวขวาไปตามถนน Pedder แล้วข้ามเข้าสู่ถนน Queen’s Road เดินขึ้นไปตามถนน Wyndham Street ประมาณ 5 นาทีคลับอยู่ตรงบริเวณแยก