Busan Chill & Chic

เคยมีประโยคที่ว่าหนุ่มปูซานเป็นคนพูดตรง  ค่อนข้างลุยๆ แต่เรียบง่าย เข้าถึงง่าย ประโยคนี้จริงหรือไม่ ฉันไม่รู้ที่รู้แน่ๆคือ เมืองปูซานที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ และยังเป็นเมืองริมทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากโซลแห่งนี้ นอกจากจะมีวิวทะเลที่สวยงามตลอดทั้งปีแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ทำกิจกรรมอีกมากมาย เหมาะสำหรับวัยรุ่นสายชิค วัยทำงานที่ต้องการการพักร้อน และกลุ่มของครอบครัวที่ต้องการความสนุกแบบครบวงจร  

ยิ่งในปัจจุบันทางเมืองปูซานได้ออกบัตรที่เรียกว่า VISIT BUSAN PASS แบบ 24 ชั่วโมง (ราคา 55,000 วอน)และ 48 ชั่วโมง (ราคา 85,000 วอน) ขึ้นมา ช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะสามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ที่ต้องเสียค่าเข้าชมในปูซานกว่า 30 แห่งได้อย่างอิสระมากขึ้น แถมยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ส่วนลดในร้านค้ากว่า 100 แห่ง ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านค้า ไม่พอบัตรนี้ยังสามารถนำไปใช้เติมเงิน ชำระเงินภายในร้านสะดวกซื้อ รวมถึงใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟใต้ดิน, รถโดยสารประจำทางได้อย่างง่ายดาย ทำให้การท่องเที่ยวในปูซานของสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติมของบัตรดูได้ที่ https://www.visitbusanpass.com/

บัตรนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืนจะค่อนข้างคุ้มค่ามากช่วยให้ประหยัด แถมยังสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวแบบชิคๆ หรือชิลล์ๆ ได้ในงบ55,000 วอน และ 85,000 วอน อย่างฉันมาปูซานรอบนี้ ก็เลือกเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่สามารถใช้บัตร VISIT BUSAN PASS ได้มาแนะนำ

สายธรรมชาติและความสงบ

หากพูดถึงวัดในปูซานแล้วหลายคนอาจนึกถึงวัดแฮดง ยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple) วัดที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองปูซานเป็นแน่ แต่ครั้งนี้ฉันจะแนะนำอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองปูซาน

ที่ สวนกึมกัง (Geumgang Park) สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาที่มีพื้นกว่า 2 พันไร่ ส่วนใหญ่เป็นต้นสน ซี่งถ้ามาในช่วงหน้าหนาว จะเห็นหิมะเกาะยอดสนสวยงามมาก แต่เนื่องจากฉันไปช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่เขียวขจีและสดชื่นแทน

ฉันขึ้น Geumgang Park Cable Car เคเบิลคาร์ที่มีสถานีต้นทางบริเวณในสวนกึมกัง และมีสถานีปลายทางที่ยอดเขากึมจอง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาทีก็ถึงปลายทาง จากนั้นเดินขึ้นอีกสักหน่อย พอได้ออกกำลังขาก็จะเห็นจุดชมวิวที่มองเมืองปูซานในมุมสูงได้อย่างเต็มตา

ไม่ไกลจากบริเวณเคเบิ้ลคาร์ เราสามารถเดินทางต่อไปยังวัดพอมอซา (Beomeosa Temple) แต่ถ้าคุณเริ่มมาวัดนี้ก่อน สามารถโดยสารรถใต้ดินของปูซานสาย 1 มาลงที่สถานี Beomeosa เเล้วออกมาทางประตูที่ 5 หรือ 7 จากนั้นก็เดินตามถนนไปทางตะวันตกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงป้ายรถเมล์  นั่งรถเมล์สาย 90 ต่อมาอีกประมาณ 25 นาทีก็ถึง

วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,300 ปี ภายในวัดได้เก็บรวบรวบมรดกทางวัฒนธรรมไว้มากมาย สังเกตุเห็นคนเกาหลีหลายคนเดินทางมาเพื่อเข้าโปรแกรมปฎิบัติธรรมที่นี่ นอกจากนั้น ถ้าคุณมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี คุณจะพบทิวทัศน์ที่สวยงามที่คุณต้องประทับใจอย่างแน่นอน

สายถ่ายรูป

สำหรับวัยรุ่นสายชิลล์ ชิค ชอบถ่ายรูป 3 จุดใหม่ที่อยากแนะนำ จุดแรกคือย่านคาเฟ่จอนโพ (Jeonpo Cafe District) จากสถานีรถใต้ดินปูซานสาย 2 ลงที่สถานี Jeonpo ทางออกที่ 7 เดิน 5 นาทีก็จะถึงย่านคาเฟ่จอนโพแล้ว บริเวณนี้เดิมเป็นย่านขายสินค้าประเภทวัสดุอุตสาหกรรมการผลิต โรงงาน โกดังและที่พักอาศัยมาก่อน เมื่อเวลาผ่านไป อาคารต่างๆ ได้ถูกปรับปรุงใหม่ เปลี่ยนให้กลายเป็นร้านกาแฟคาเฟ่ขนมหวาน ร้านเบเกอรี่ และร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ บางร้านดูอบอุ่น บางร้านสดใสน่ารัก บางร้านแนวเท่ห์ และร้านค้าแนวใหม่

โดยมากร้านค้าเปิดสายตั้งแต่ 11.00 น.เป็นต้นไป และจะคึกคักมากในช่วงค่ำ เป็นพื้นที่มีชีวิตชีวา น่าสนใจ จนได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 52 สถานที่ที่ต้องไปเยือนประจำปี 2017 (52 Places to Go in 2017) โดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ (The New York Times) และช่วงเดือนตุลาคมก็จะมีการจัดงานเทศกาลเป็นประจำ อย่างปี 2024 ช่วงวันที่ 12-13 ตลาคม ก็มีงาน Jeonpo Coffee Festival โดยมีบริษัทกาแฟในประเทศและต่างประเทศ 60 แห่งมารวมตัวกันออกร้าน เป็นต้น

จุดต่อไป เพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2024 ที่ผ่านมา นั่นคือ พิพิธภัณฑ์อาร์เต ปูซาน (Arte Museum Busan) บางคนอาจเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว ซึ่ง Arte Museum นั้นเป็นนิทรรศการที่จะโชว์ immersive media art โดยมีแค่ 8 ที่ในโลกเท่านั้น ได้แก่ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ,เฉินตู จีน, ฮ่องกง, ดูไบ สาธารณรัฐอาหรับ เอมิเรต  ส่วนที่เกาหลี มีถึง 3 ที่ได้แก่ที่คังนึง  ยอชู เกาะเชจู และที่ปูซาน ถือว่าเป็นที่ที่ 8

สำหรับพิพิธภัณฑ์อาร์เต ปูซานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีผลงานศิลปะสื่อ 16 ชิ้นจาก 19 ชิ้นที่สร้างขึ้นใหม่สำหรับปูซานโดยเฉพาะ กับพื้นที่กว่า 8,264 ตารางเมตรด้วยงบลงทุนกว่า 11 พันล้านวอน เนรมิตนิทรรศการที่หลากหลายได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว

ห้องนิทรรศการมีหลายห้องมาก อย่างห้อง CIRCLE นิทรรศการเกี่ยวกับวงกลม อ้างอิงความเป็นวงกลมทแต่ละแบบ อย่างวงกลมที่มีทรายสีทองคล้ายจะดึงดูดเราเข้าไป วงกลมสีแดงที่เรียกว่า SUN แสดงถึงที่มาของแสงอันเจิดจ้า ห้อง WATERFALL INFINITE เป็นการแสดงสายน้ำที่พุ่งลงมาจากความสูง 7 เมตรที่ไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมกับเอฟเฟกต์เสียงอันทรงพลังที่ชวนให้นึกถึงความรู้สึกของการได้ดำดิ่งลงไปในธรรมชาติ ห้อง FLOWER ROSE ที่เดินเข้าไปคล้ายกำลังอยู่ในสวนดอกไม้ กลิ่นหอมฟุ้งและรายล้อมไปด้วยดอกไม้มากมาย ห้อง THE ROSE OF VAN GOGH และห้อง FLOWER “ODYSSEY ROSE” ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูภาพนิทรรศการของศิลปินระดับโลก

ห้อง STARRY BEACH และ WAVE ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ริมทะเลและเกลียวคลื่น และยังมีอีกหลายห้องมากมาย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟพิเศษที่เรียกว่า ‘LIVE SKETCHBOOK’ ซึ่งให้เราวาดภาพและารถอัปโหลดภาพวาดนั้นขึ้นไปมีชีวิตบนหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่  มีร้านกาแฟที่ตัวโต๊ะออกแบบพิเศษ ถ้าเราเอาแก้ววางและลากไปมา จะมีดอกไม้วิ่งตามแก้วไปน่ารักมาก

พิพิธภัณฑ์อาร์เต (Arte Museum Busan) 10:00 – 21:00 ทุกวัน Last Admission: 20:00 ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ วันธรรมดา 22,000 วอน ส่วนวันหยุด 25,000 วอน ใช้บัตร VISIT BUSAN PASS ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

สะพานแขวนซงโดยงกุง (Songdo Yonggung Suspension Bridge)

สะพานชมวิวแห่งนี้ เปิดตัวครั้งแรกช่วงเดือนมิถุนายนปี  2020 เริ่มต้นจาก สวนสาธารณะอัมนัม  เชื่อมต่อไปยัง เกาะทงซอม ตัวสะพานมีความยาว 127.1 เมตร กว้าง 1 เมตร ถ้าเรามองจากมุมบนลงมา เราจะเห็นตัวสะพานที่ยืนออกไปทะเล และ ตีวงล้อมรอบเกาะทงซอมนั้นเป็นรูปกุญแจ เปรียบเสมือนว่ามาสะพานแห่งนี้จะโชคดี เป็น Lucky Key นั้นเอง

ค่าเข้าชม : 1,000 วอน ใช้บัตร VISIT BUSAN PASS ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ไปชมวิวต่อที่ จุดชมวิวปูซาน เอ็กซ์ เดอะ สกาย (BUSAN X the SKY) กัน จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่ที่หอคอยแลนด์มาร์คที่สูงที่สุดในปูซาน ด้วยความสูง 411.6 เมตร จึงเป็นจุดชมวิวที่สูงเป็นอันดับ 2 ของเกาหลีใต้ (รองจาก Seoul Sky ที่ตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุดของ Lotte World Tower ที่มีความสูง 555.7 เมตร) บริเวณจุดชมวิวเปิดให้บริการเดือนกรกฎาคมปี 2020

นอกจากความสูงที่ติดอันดับแล้วลิฟท์ของที่นี่ก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน เพราะจากชั้น 1 ขึ้นไปถึงชั้น 100 ใช้เวลาเพียง 56 วินาทีเท่านั้นเรียกว่าเร็วสุดๆ บนชั้น 100 นี่คุณจะเห็นทัศนียภาพอันงดงามเมืองปูซานทั้งท้องทะเล ภูเขาและสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงของปูซาน ไม่ว่าจะเป็นหาดแฮอึนแด เกาะทงแบกซอน เมืองทางทะเลแฮอึนแด สะพาน Gwangandaegyo และสวนสาธารณะแฮอึนแดได้อย่างเต็มตาด้วยกระจกบานยาวจากพื้นจรดเพดาน

นอกจากนี้ยังมีทางเดินกระจก ที่มองลงไปเห็นคุณสามารถมองลงไปที่หาดแฮอึนแดและคลื่นด้านล่างผ่านพื้นกระจกได้โดยตรง ท้าทายคนไม่กลัวความสูงได้เป็นอย่างดี ชั้นถัดลงมาอย่างชั้น 99 มีร้านอาหาร Sky 99 Grill & Pasta ร้านอาหารลอยฟ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ถ่ายทำฉากรับประทานอาหารในตอนที่หนึ่งของละครเกาหลี ‘Now, We are Breaking Up’ (2021-22) ละครโรแมนติกที่นำแสดงโดยซงฮเยคโยและจางกียง ใกล้กับร้านอาหารเป็นโซน Sky Garden ที่มีจุดถ่ายรูปมากมาย

และที่ใครๆมักพูดถึงคือ ที่นี่มีร้านกาแฟ Starbucks ที่สูงที่สุดในโลกนั่นเอง ถัดลงมาชั้น 98 น่าจะเป็นพื้นที่โปรดของคนชอบวิว และถ่ายรูป เพราะกว้างขวาง และมีการตกแต่งเป็นพื้นที่ถ่ายรูปหลายจุดมีร้านกาแฟ Blackup Coffee และร้าน X the GIFT สำหรับคนต้องการซื้อของฝากของที่ระลึก และยังมีอีกหลายโซนมากมาย

สำหรับค่าเข้าผู้ใหญ่ 27,000 วอน หากใช้บัตร VISIT BUSAN PASS ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ปิดท้ายทริปคนรักการถ่ายรูป ด้วยการล่องเรือยอร์ช Busan Yacht Tour The Yacht ที่ปูซาน ซึ่งจะบอกว่า ถ้าคุณมีบัตร VISIT BUSAN PASS คุณสามารถใช้บริการล่องเรือยอร์ชที่เมืองปูซานได้ ไม่ค่าใช้จ่ายเช่นกัน จากปกติราคาอยู่ที่ชั่วโมงละ 30,000 วอนในช่วงกลางวัน และหากเป็นช่วงพระอาทิตย์ตก หรือกลางคืนราคา 40,000 วอน โดยช่วงกลางวันไม่ต้องจ่ายเพิ่ม หากเป็นช่วงพระอาทิตย์ตกหรือกลางคืน จ่ายเพิ่มเพียง 5,000 วอนมีบริการทุกวันตั้งแต่ 13:00 – 22:00 น. ออกกันทุกชั่วโมงและหลายบริษัทมาก

ซึ่งเส้นทางของการล่องเรือขึ้นอยู่กับคุณเลือกบริษัทไหน เส้นทางไหนเลย  ถ้าเป็นช่วงเวลากลางคืน คุณก็จะเห็นวิวของแสงไฟของเมืองจากอ่าวปูซาน และตื่นตาไปกับดอกไม้ไฟที่ทางเรือแต่ละลำเตรียมมา สำหรับใครที่ล่องเรือในช่วงที่อากาศเย็น ไม่ต้องกังวลทางเรือยังมีบริการผ้าห่ม ถุงร้อน น้ำดื่ม เครื่องดื่ม ชาอุ่น กาแฟกระป๋อง และอื่นๆให้บริการ

นี่เป็นบางตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช้บัตร VISIT BUSAN PASS ได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม คิดง่ายๆ แค่คุณซื้อ VISIT BUSAN PASS แบบ 24 ชั่วโมง ราคา 55,000 วอน ไปใช้บริการแค่ 3 สถานที่ เช้าไป พิพิธภัณฑ์อาร์เต (Arte Museum Busan) 22,000 วอน บ่ายไป ชมวิวปูซาน เอ็กซ์ เดอะ สกาย (BUSAN X the SKY) 27,000 วอน ค่ำไป ล่องเรือยอร์ช 30,000 วอน ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 22,000+27,000+40,000 = 87,000 วอน แต่คุณจ่ายแค่ 55,000+5,000 ค่าเรือเพิ่มเพราะเป็นช่วงกลางคืนรวม 60,000 วอน เท่ากับคุณประหยัดไปถึง 27,000 วอนเลยทีเดียว

ไม่เพียงเท่านี้ บัตรนี้ยังใช้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างเช่น รถไฟสายท่องเที่ยว Haeundae Beach Train, ClubD Oasis ศูนย์การพักผ่อนสุดชิค ,  Busan Tower หอคอยคู่เมืองปูซาน รวมไปถึงการเช่าชุดฮันบกที่ทั้งหมู่บ้านกัมชอน Gamcheon Romantic Hanbok (Hanbok Rental Shop) และบริเวณหาดแฮอุนแดด ที่ Haeundae Haeon Hanbok (Hanbok Rental Shop) และอื่นๆอีกมากมายที่คุณไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.visitbusanpass.com/attractions/ แล้วไปหาซื้อ VISIT BUSAN PASS กัน รับประกันคุ้มแน่นอน

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0