การขับรถหน้าฝน
ฤดูฝนเป็นฤดูที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ ด้วยเพราะถนนลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่ก็ไม่ดี ดังนั้นท่านใดที่มีความจำเป็นต้องเดินทางช่วงหน้าฝนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษและก็ต้องเตรียมพร้อม เพื่อให้เราขับรถได้อย่างปลอดภัยในช่วงฤดูฝน ดังนี้
ตรวจเช็กสภาพรถอย่างละเอียดก่อนการเดินทาง
จุดที่ต้องตรวจลำดับแรกคือ ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ เพราะหากน้ำแห้งแบตเตอรี่จะไม่สามารถทำงานได้ และจะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด จากนั้นก็เช็กจุดต่างๆ ดังนี้
- สภาพของยางล้อยางของคุณอายุไม่ควรเกิน 3 ปี เพราะหากมากกว่านั้น เนื้อยางจะแข็งขาดความยืดหยุ่นและยึดเกาะถนน ตัวดอกยางควรอยู่ในสภาพดี ความลึกของดอกยางทั่วไปไม่ควรต่ำกว่า 3 – 4 มิลลิเมตร เพื่อประสิทธิภาพในการรีดน้ำ เติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ 2 – 3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อให้หน้ายางแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำดียิ่งขึ้น
- ระบบเบรก ช่วงหน้าฝนถนนลื่นกว่าปกติ ทำให้ต้องแตะเบรกบ่อยครั้ง ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าเวลาเบรกจับล้อได้เท่ากันหรือไม่ ทดสอบได้ง่ายๆ โดยขณะขับรถที่ความเร็ว 30 – 40 กม./ชมบนถนนผิวราบ สภาพดี และมีความปลอดภัยเพียงพอ มั่นใจว่าด้านหน้าปลอดภัย ดูกระจกหลังเป็นอันดับต่อไปว่าปลอดภัย จับหรือประคองพวงมาลัยไว้พอหลวมๆ จากนั้นทดสอบด้วยการเหยียบเบรกแรงๆ ถ้าพวงมาลัยนิ่งไม่ปัดในขณะเบรกก็ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าพวงมาลัยดึงซ้ายหรือขวาแสดงว่าเบรกกินซ้ายหรือขวาต้องตรวจสอบ และปรับตั้งระบบเบรกใหม่
- ที่ปัดน้ำฝน และกระปุกฉีดกระจกที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน ตรวจได้โดยเอามือจับรูดดู ต้องไม่มีเนื้อยางสีดำติดมือ หรือเวลาเปิดกวาดน้ำที่กระจก ต้องไม่มีรอยฝ้าหรือรอยขูดขีดบนกระจก และ
- เตรียมผ้าแห้งไว้เช็ดฝ้าที่ติดอยู่กระจกภายในรถ รวมถึงหมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอ
- ระบบสัญญาณไฟตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟกะพริบ ไฟถอยหลังว่าใช้การได้ดีทุกอย่างหรือไม่หากโคมแก้วเปื้อนให้เช็ดทำความสะอาดเพื่อให้ความสว่างเพิ่มขึ้น เพราะในกรณีฝนตกหนักถ้าสัญญาณไฟชัดเจนก็สามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับเราได้
- เพิ่มความระมัดระวังในตัวคนขับ (สิ่งที่ควรทำและควรหลีกเลี่ยง)ควรขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม และตื่นตัวกับสัญญาณเตือนต่างๆ เว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า เพราะถ้าขับตามจี้รถคันใหญ่ บางครั้งอาจปัดละอองน้ำมาให้หน้ารถเราได้ เปิดไฟหน้ารถเพื่อช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ และรถคันอื่นมองมาเห็นเรา หากจำเป็นต้องผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังมาก ให้ปิดเครื่องปรับอากาศชั่วคราว เพราะน้ำอาจจะเข้าไปที่พัดลมเครื่องปรับอากาศทำให้เสียได้ และพัดลมหม้อน้ำจะตีเอาน้ำเข้ารถเป็นละอองปกคลุมในห้องเครื่องเป็นสาเหตุให้รถดับได้
- หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก เพราะบางทีอาจกระแทกหม้อน้ำเสียหาย หรือเกิดน้ำซัดเข้าห้องเครื่อง ควรชะลอรถสักนิดก่อนวิ่งผ่าน หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้รถไถลได้ หลีกเลี่ยงการเชนเกียร์ต่ำกะทันหันขณะฝนตกเพราะการเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วจะส่งผลกระทบต่อความเร็วของล้อและยางทำให้รถลื่นไหลและสูญเสียการควบคุมใส่ใจรถของคุณสักหน่อยและดูแลตัวเองสักนิด แค่นี้คุณก็สามารถขับรถในช่วงหน้าฝนได้อย่างปลอดภัยแล้วค่ะ