Beautiful Castles to Visit in Spring

เรื่องโดยทีมงาน Vacationist

ถ้าพูดถึงฤดูใบไม้ผลิและดอกซากุระแล้วละก็แทบทุกคนต้องนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างแน่นอน ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระเริ่มผลิบานตั้งแต่เดือนมีนาคม เมษายน แค่คุณนั่งเครื่องบินลงที่สนามบิน คุณก็จะเห็นวิวทั่วทั้งพื้นที่เป็นสีชมพูของดอกซากุระเต็มไปหมด และแต่ละที่ของญี่ปุ่นก็มีซากุระที่สวยงามขึ้นชื่อเต็มไปหมด ทั้งสวนสาธารณะ ริมแม่น้ำ หรือบนภูเขาต่างๆ แต่อีกสถานที่หนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี นั่นก็คือ ปราสาทญี่ปุ่นนั่นเอง ในช่วงฤดูกาลปกติ ปราสาทญี่ปุ่นก็มีความสวยงามน่าค้นหาอยู่แล้วยิ่งเวลาฤดูใบไม้ผลิด้วย ปราสาทต่างๆ ยิ่งสวยงาม เป็นความอ่อนไหวสีชมพูล้อมรอบกับความขึงขังของตัวปราสาท

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) จังหวัดนากาโนะ (Nagano)

ปราสาทมัตสึโมโตะเป็น 1 ใน 12 ปราสาทแบบดั้งเดิมและถือเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นที่สร้างเมื่อปี 1590 โดยอิชิคาว่า คาซุมาสะ และยาสุนากะ ลูกชายของเขา ปราสาทแห่งนี้ถูกเรียกว่า ปราสาทอีกาแห่งนากาโนะ 1 ใน 5 ปราสาทเก่าแก่ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ มีความสวยงาม และเป็นจุดชมธรรมชาติในแต่ละฤดูที่แสนงดงาม ต้นซากุระที่นี่ปลูกอยู่รอบคูน้ำของปราสาทและด้านในพื้นที่ปราสาทมีประมาณ 300 ต้น พอช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง ก็จะเห็นสีชมพูสวยตัดกับหลังคาสีดำของปราสาทซึ่งมีเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวเป็นฉากหลัง หลายคนนิยมถ่ายรูปบริเวณสะพานสีแดงตรงบริเวณทางเข้าปราสาท และเพลิดเพลินไฟที่มีจัดไลต์อัปอย่างงดงาม

การเดินทาง แนะนำให้ใช้รถไฟด่วนพิเศษ JR Super Azusa เลย ขึ้นจากสถานีชินจุกุ (Shinjuku) มาลงที่สถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto) ซึ่งใกล้ปราสาทมัตสึโมโตะมากที่สุดเดินไปประมาณ 15 นาที ก็ถึงปราสาท

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)

ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทที่ได้รับการจัดอันดับจากสารพัดสื่อทั่วโลกให้เป็นปราสาทที่สวยงามน่าไปที่สุด ปราสาทฮิเมจิเป็น 1 ใน 12 ปราสาทแบบดั้งเดิมที่ยังเหลืออยู่ในญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าก็คือปราสาทแห่งนี้ไม่เคยถูกทำลายจากแผ่นดินไหว สงครามหรือไฟไหม้เลยสักครั้งเดียว นอกจากจะเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นแล้วยังเป็นมรดกของโลกอีกด้วย

บริเวณรอบปราสาทมีซากุระมากถึง 1,000 ต้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถ้าเดินไปตามทางเดินภายในบริเวณปราสาทก็จะเห็นภาพดอกซากุระสีชมพูอ่อนๆ ท้องฟ้าสีคราม พร้อมปราสาทสีขาวอันงดงามเป็นภาพที่สวยงามประทับใจเป็นอย่างมาก และเนื่องจากที่นี่เป็นที่นิยมอันดับต้น ดังนั้นถ้าต้องการหลีกเลี่ยงผู้คนแนะนำให้ไปช่วงก่อนเที่ยงจะดีที่สุด

การเดินทาง เดินตามถนนโอเตะมาเอะโดริ ซึ่งใช้เวลา 20 นาที หรือขึ้นรถบัสจากสถานีฮิเมจิโดยใช้เวลา 5 นาที สถานีฮิเมจิเชื่อมกับโตเกียว, โอซาก้า, ฮิโรชิมะ และเมืองใหญ่อื่นๆ ด้วยโทไคโด/ซันโย ชินคันเซน

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) จังหวัดโอซาก้า (Osaka)

โอซาก้าเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในภูมิภาคคันไซเลยก็ว่าได้ นักท่องเที่ยวหลายคนแวะเวียนมาโอซาก้าในแทบทุกฤดูกาล สำหรับปราสาทโอซาก้าเองก็เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวแวะมาชมความสวยงามของปราสาทไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีต้นซากุระมากถึง 4,000 ต้น และยังมีคลองสวยงามขนาดใหญ่โอบล้อมรอบตัวปราสาท เรียกให้หลายคนปักหมุด ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งสถานที่ต้องมาเยือน แนะนำเริ่มจากตรงบริเวณสวนสาธารณะนิชิโนมุระ อยู่ทางฝั่งตะวันตกของพื้นที่ปราสาทก่อน ตรงจุดนั้นจะเปิดพื้นที่เปิดโล่งเห็นตัวปราสาท พอเดินไปตามเส้นทางรอบปราสาทไปเรื่อยๆ หากไปช่วงบ่าย ควรอยู่ให้ถึงค่ำ จะได้ชมความงามแบบช่วงเย็นที่สวยงามไปอีกแบบ ที่นี่มีจัดไลต์อัปหรือจัดแสงสีช่วงกลางคืนด้วย ความพิเศษของที่นี่อีกอย่างคือ มีต้นซากุระที่ทางจังหวัดเลือกใช้เพื่ออ้างอิงและประกาศวันซากุระบานอย่างเป็นทางการด้วย

การเดินทาง หากมาจากสถานีโอซาก้า ให้ลงที่สถานีโอซาก้าโจโคเอ็น (Osakajo-koen) สถานีโอซาก้าโจโคเอ็น เป็นสถานีเริ่มต้นและสถานีปลายทางของรถไฟสาย Osaka Loop Line นั่งจากย่านธุรกิจอันดับหนึ่งอย่างสถานีโอซาก้า ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

ปราสาทที่ตั้งอยู่ภายในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ เป็นปราสาททางตอนเหนือสุดในบรรดาปราการปราสาททั้ง 12 แห่งที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นกันในญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ก็ยังเป็น 1 ใน 100 แหล่งชมซากุระขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอีกด้วย ภายในสวนฮิโรซากิบริเวณปราสาท ที่มีซากุระมากกว่า 2,500 ต้น หนึ่งในนั้นมีต้นซากุระพันธุ์โยชิโนะปลูกมาตั้งแต่ปี 1882 ซึ่งมีอายุมากถึง 140 ปีว่ากันว่ามันเป็นต้นซากุระพันธุ์โยชิโนะที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและยังมีต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะที่อายุมากกว่า 100 ปีอีกกว่า 300 ต้นเลยทีเดียว ในช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงโกลเดนวีกต้นเดือนพฤษภาคม (ประมาณวันที่ 23 เมษายน – 5 พฤษภาคม) จะมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระขึ้นเป็นประจำทุกปี เรียกว่างาน Hirosaki Cherry Blossom Festival จุดชมซากุระที่น่าสนใจคือ บริเวณทางเดินเลียบคูตะวันตกมีการปลูกต้นซากุระเอาไว้ทั้งสองข้างจนเรียกว่าเป็นอุโมงค์ซากุระ บริเวณคูน้ำของปราสาท ยามเวลาซากุระร่วงจะเห็นเป็นพรมซากุระทอดยาวสวยงามมาก

การเดินทาง จากโตเกียวให้เริ่มต้นจากสถานีโตเกียว หรืออุเอโนะ (Ueno) สามารถนั่งชินคันเซน มาถึงสถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori) จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟด่วนสึการุ (Limited Express Tsugaru) สายโออุ (Ou Main Line) ไปลงที่สถานีฮิโรซากิ (Hirosaki) จากสถานีนั่ง รถบัสเมืองฮิโรซากิจากด้านหน้าสถานีรถไฟไปลงป้ายชิยาคุโชะมาเอะ (Shiyakusho-mae) ค่าโดยสาร 100 เยน แล้วเดินต่ออีก 4 นาที

ปราสาทนาโกย่า (Nagoya) จังหวัดไอจิ (Aichi)

ปราสาทนาโกย่า นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนาโกย่า ความงดงามของปราสาทนาโกย่าคือพื้นที่ธรรมชาติที่กระจายตัวอยู่โดยรอบปราสาททั้งสวนนิโนะมารุ (Ninomaru) ที่มีทั้งต้นไม้ สายน้ำ และที่พลาดไม่ได้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิซากุระประมาณ 10 สายพันธุ์จะผลิบานสร้างความสวยงามรายล้อมปราสาท โดยพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ (Someiyoshino) เป็นสายพันธุ์ที่มีมาก และถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์มากที่สุด ตัวดอกจะมีสีชมพูอ่อนๆ เกือบจะขาวเวลาบานจะฟูๆ เต็มห้ากลีบ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์หายาก ที่เรียกว่า gioiko ซึ่งบานในช่วงกลางเดือนเมษายน เป็นดอกซากุระสีเขียวหายากและบานช้ากว่าซากุระพันธุ์อื่นๆ ทุกปีที่ปราสาทจะมีการจัดเทศกาลซากุระ เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงกลางเดือนเมษายน มีการออกร้านมากมายรอบๆ บริเวณปราสาท และมีการประดับไฟช่วงกลางคืนด้วยตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป เราสามารถชมซากุระยามค่ำคืนพร้อมการจัดไฟ ประดับที่บริเวณปราสาทได้อย่างสวยงามด้วย

การเดินทาง จากสถานี Shiyakusho Station เดินไปเล็กน้อย

ปราสาทคุมะโมโตะ (Kumamoto Castle) จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto)

เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีแนวรั้วกำแพงหินที่สวยในญี่ปุ่น ตัวปราสาทได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในปีค.ศ. 2016 ปัจจุบันก็ยังอยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม แต่ก็เริ่มกลับคืนสู่สภาพที่สวยงามแล้ว ภายนอกของปราสาทแห่งนี้เป็นจุดชมดอกซากุระชื่อดังยังสามารถมองเห็นได้จากลานกว้างในเขตวงล้อมกำแพงที่สอง (นิโนะมารุ Ninomaru) และล็อบบี้ชมวิวของที่ว่าการอำเภอ

ซากุระที่นี่เป็นพันธุ์ยามะซากุระ (Yamazakura) และโซเมอิโยชิโนะ (Someiyoshino) กว่า 800 ต้นที่เรียงรายอยู่ในบริเวณปราสาท สวนแห่งนี้เปิดถึงเวลากลางคืนควบคู่ไปกับการเปิดไฟในตัวปราสาทเช่นเดียวกันกับอีกหลายปราสาท ดอกซากุระจะบานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน

การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR คุมาโมโตะ : ขึ้นรถเมล์ “ซิโรเมกุริน” ประมาณ 30 นาที แล้วลง “ที่จอดรถนิโนะมารุ”

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0