Amazing Bagan
Story & Photo by Kanjana Hongthong
ถ้าจะมีเมืองหนึ่งในโลก ที่ฉันเที่ยวแบบซ้ำไปซ้ำมาต้องมีชื่อของพุกาม หรือ Bagan อยู่ด้วยแน่นอน ที่นี่เป็นดินแดนแห่งความสงบงาม บ้างก็ว่าศาสนาพุทธของชาวพม่าเริ่มต้นที่อาณาจักรแห่งนี้ ทุกวันนี้ยังคงปรากฏร่องรอยแห่งความรุ่งเรืองและศรัทธาของผู้คนที่มีต่อพุทธศาสนาในสมัยนั้น ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้และซาบซึ้งไปกับแรงศรัทธาของคนในอดีตกาล
ทุกวันนี้พุกามยังคงเหลือเจดีย์ที่ยังคงสภาพดีและได้รับการบูรณะสี่ถึงห้าพันองค์ และในบรรดาเจดีย์สี่พันกว่าองค์ที่เหลืออยู่นั้น ก็นับว่ามีรูปแบบการก่อสร้างอันหลากหลาย เพราะ การสร้างเจดีย์ของชาวพุกาม ไม่เพียงเป็นการเสริมบารมีและเป็นดัชนีวัดความมั่งคั่งของผู้คนในสมัยก่อน แต่ยังเชื่อกันว่า นี่คือการทำบุญที่เป็นประตูไปสู่สวรรค์ นักประวัติศาสตร์พม่าท่านหนึ่งได้พูดถึงการสร้างวิหารและเจดีย์ต่างๆ ที่พุกามว่าไม่ได้เกณฑ์แรงงานคนมาสร้าง แต่เป็นศรัทธาที่บริสุทธิ์ ที่แสดงลักษณะของชาวพุกาม คือเท้ายืนบนพื้นอย่างเข้มแข็ง แต่วิญญาณมุ่งตรงสู่สวรรค์ และนี่คือ 5 มุมต้องไป ในพุกาม ที่ผู้ไปเยือนพุกามทุกคนจัดให้อยู่ในหมวดจำเป็นต้องไป
วัดอนันดา
วัดอนันดาถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองพุกาม แต่คนพม่า เขายกให้ที่นี่เป็นสุดยอดแห่งมหาวิหาร ด้วยเป็นเจดีย์รูปทรงสวยและสง่างามที่สุดในย่าน Old Bagan อนันดาในวันนี้ สวยสมบูรณ์แบบชนิดไร้ที่ติ ว่ากันว่าสถาปัตยกรรมอันวิจติ รของวัดนี้ ถอดแบบมาจากวัดที่มีชื่อเดียวกันที่อินเดีย ทางเดินเข้าสู่เจดีย์แห่งนี้ มีของวางขายล่อใจนักช้อปเกลื่อนกลาดไปหมด ถ้าไม่ยั้งมือยั้งใจรับรองกระเป๋าฉีกกันไปข้าง
ไม่ใช่ภายนอกเท่านั้นที่ดูงดงามแต่ภายในเจดีย์ยังกว้างขวาง สมกับเป็นวัดใหญ่ประจำเมือง วัดนี้สร้างโดยช่างชาวมอญในสมัยของ พระเจ้าจันสิทธา กษัตริย์องค์ที่ 44 แห่งอาณาจักรพุกาม ผู้คนมาไหว้พระปิดทองกันอื้ออึงแน่นวัด โดยเฉพาะด้านทิศใต้ ที่มีพระพุทธรูปปิดทององค์เก่า กฎกติกามารยาทของวัดแห่งนี้เหมือนที่วัดมหามุนีแห่งมัณฑะเลย์ คือถ้าเป็นผู้หญิงหมดสิทธิ์เข้าไป ปิดทองที่องค์พระ ได้แค่กราบไหว้อยู่ห่างๆ ถ้าจะปิดทองต้องฝากชายหนุ่มให้เข้าไปปิดแทน ยิ่งเดินเข้าสู่ด้านในยิ่งแคบ ส่วนของทางเดินแคบและมืด ซ้อนกันประมาณ 3 ชั้น แต่ยังพอมองเห็นว่าภายในวิหารถูกออกแบบผนังเป็นช่องๆ โดยช่างมอญ ช่องที่ว่านั้นมีไว้สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปหินทรายขนาดเล็กปางต่างๆ ถึง 1,800 องค์ และยังมีไว้เพื่อป้องกันเสียง สะท้อนจากการสวดมนต์ภายในวัด
วัดทัพพิญญู
เจดีย์สัพพิญญู (Thatbyinnyu Temple) หรือบางทีนักท่องเที่ยวจะเรียกว่า ทัพพิญญู เป็นหนึ่งในสี่ศาสนสถานแห่งความยิ่งใหญ่ ประจำเมืองพุกาม ที่สร้างโดยพระเจ้าอลอง สิทธุ เป็นเจดีย์วิหารที่สูงถึง 201 ฟุต มีดีกรีสูงสุดในพุกาม
องค์เจดีย์มี 5 ชั้น ชั้นที่ 5 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ แต่ตัวเจดีย์มีความทรุดโทรมจึงห้ามคนขึ้นไปด้านบน ส่วนชั้นที่ 4 เป็นที่เก็บพระไตรปิฎก น่าเสียดายที่เจดีย์แห่งนี้ ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปชั้นบนได้ ไม่งั้นคงเป็นอีกมุมหนึ่งที่เห็นทุ่งเจดีย์ได้อร่ามตา
วิหารธรรมยางยี
วิหารธรรมยางยี (Dhammayangyi Phato) เป็นเจดีย์องค์ใหญ่ที่สุดในพุกาม
วิหารธรรมยางยี หรือ ธรรมขันติวิหาร ถือเป็น 1 ใน 4 ศาสนสถาน แห่งความยิ่งใหญ่ของพุกาม มีตำนานเล่าถึงการก่อสร้างของวิหารแห่งนี้ ว่ากษัตริย์นราธุมักมีวิธีตรวจงานที่แสนแปลก นั่นคือจะใช้เข็มสอดเข้าไปในรอยต่อระหว่างก้อนอิฐ ถ้าเข็มเล็ดลอดเข้าไปได้ ช่างจะโดนตัดแขนทันที
กว่าจะสร้างเสร็จไม่รู้ว่าช่างเสียแขนไปกี่คนแล้วไม่ทราบ แต่ด้วยกฎสยองนี้เอง ช่างจึงทุ่มเทสร้างอย่างสุดฝีมือ แน่นหนา ธรรมยางยีจึงเป็นเจดีย์ที่บึกบึน แข็งแกร่ง
ภายในแม้จะมืดทึบไปนิดแต่ก็ใหญ่โตโอ่โถงดี ลักษณะภายในวิหารนี้จะออกแบบแปลก คือจะมีการปิดทางเดินในหลายๆ จุดด้วยอิฐ ซึ่งเป็นวิธีแบบโบราณ แนวก่ออิฐเรียงเรียบแน่นจนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งผนัง
เจดีย์บูพยา
เจดีย์บูพยา (Bupaya Pagoda) ตามข้อมูลอ้างอิงว่าเป็นเจดีย์เก่าที่สุดของพุกาม และนี่คือหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกดีที่สุดของเมืองพุกาม
ตามตำนานเล่าว่าเจดีย์บูพยาสร้างโดย ชนชาวพยู ยุคก่อนอาณาจักรพุกามซะอีก และเหตุที่พูดกันปากต่อปาก ว่าเป็นจุดชมอาทิตย์อัสดงดีที่สุด น่าจะเป็นเพราะตั้งอยู่ริมน้ำอิรวดีพอดิบพอดี แถมตั้งอยู่ในเขตเมืองโบราณ เรียกว่าโลเคชั่นเต็มสิบ ยิ่งยามดวงอาทิตย์ร่วงหล่นเหนือ น่านน้ำอิรวดีจนผืนน้ำกลายเป็นสีทองระยิบแล้ว น่าจะเป็นจุดดีที่สุดจริงอย่างที่หลายคนเทคะแนนไว้
พระเจดีย์ชเวซิกอง
พระเจดีย์ชเวซิกอง (Shwezigon Paya) เป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า อันเป็นมหา บูชาสถานที่มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนของฟันและกระดูกไหปลาร้าของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ชเวซิกองอาบอิ่มรัศมีความศักดิ์สิทธิ์ และสุกอร่ามไม่แพ้เจดีย์ใหญ่แห่งอื่นในพม่า
องค์เจดีย์รูประฆังควำเด่นตระหง่าน มหัศจรรย์แห่งศรัทธาแรงกล้าไม่เคยเหือดแห้ง ชเวซิกอง ไม่ต่างจากเจดีย์ไหนๆ ในพม่า ที่ไม่เคยร้างผู้คน คลื่นผู้คนที่ศรัทธาในพุทธศาสนายังคงไหลบ่ามากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองชเวซิกองอยู่ติดกับเมืองยองอู
เจดีย์ใหญ่แห่งนี้นับเป็นเจดีย์ที่คนพม่าให้ความเคารพนับถือเป็นอันดับ 2 หรือ 3 รองจากชเวดากอง หรือชเวมอว์ดอว์ที่หงสาวดี ถูกสร้างขึ้นในยุคต้นของพุกาม ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11 เริ่มสร้างในรัชสมัยของพระเจ้าอโนรธา กษัตริย์องค์ที่ 42 แห่งอาณาจักรพุกามมหาราชองค์แรก ผู้รวบรวมชนชาวพม่าให้เป็นปึกแผ่นได้เป็นครั้งแรกในอาณาจักรพุกาม และรับศาสนาพุทธนิกายมหายานเข้ามาเผยแผ่จนฝังแน่นในใจชาวพม่า
ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จมาสักการะเจดีย์ชเวดากอง ก็ทรงกลับไปสร้างเลียนแบบ ไว้ที่พุกามบ้าง แต่มาเสร็จเอาในรัชสมัยของพระเจ้าจันสิทธาผู้เป็นโอรส องค์เจดีย์ได้รับการซ่อมแซมปฏิสังขรณ์และเสริมต่อจนมีรูปแบบเจดีย์ศิลปะพม่า ถึงจะยิ่งใหญ่ไม่เท่าชเวดากอง หรือสูง ไม่เท่าชเวมอว์ดอว์ แต่ที่นี่คือศูนย์รวมจิตใจของชาวพุกามโดยแท้ นี่คือ 5 มุมน่าไปในพุกาม ที่พูดเลยว่า ถ้าได้เห็นครบ จะรู้เลยว่า พุกามเลอค่าสมราคามรดกโลกจริงๆ
-จากกรุงเทพฯ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเที่ยวบินไปย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ทุกวัน จะตั้งต้นที่เมืองไหนก็ได้ จากนั้นบินต่อไปพุกามได้ คลิกเข้าไป สำรวจเที่ยวบินที่ www.bangkokair.com/ หรือ โทร. 1771
-พุกามมีโรงแรมให้เลือกเยอะ แต่แนะนำให้ไปพัก ที่ โรงแรมธาราบาร์ เกท เพราะตั้งอยู่ในทำเลดีมาก ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว คลิกไปจองหรือสำรวจได้ที่ www.tharabargate.com