ฟอร์ด ประเทศไทย นำทัพสื่อมวลชนพิสูจน์สุดยอดความแกร่งกว่า 3,000 โค้งกับฟอร์ด เรนเจอร์ เพื่อพิชิตภารกิจสุดท้าทาย กับทริป “Mission Possible”
ตาก ประเทศไทย, 10 มิถุนายน 2562 – ฟอร์ด ประเทศไทย ยกคาราวานสื่อมวลชนร่วมทำภารกิจสุดท้าทาย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ชุมชนเขตวัฒนธรรมพิเศษกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง บ้านเลตองคุ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
พร้อมพิสูจน์สมรรถนะ ความแข็งแกร่ง ทนทาน และการบรรทุก พร้อมรับมือทุกถานการณ์ของ “ฟอร์ด เรนเจอร์” รถกระบะเกิดมาแกร่ง สยบทุกเส้นทางโหด ผ่านกว่า 3,000 โค้ง กับภารกิจเพื่อชุมชนอันห่างไกล “Mission Possible”
ในวันแรก คาราวานรถฟอร์ด เรนเจอร์ เริ่มภารกิจสุดท้าทาย หลังเดินทางถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ด้วยการจับจ่ายและเลือกซื้อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับกิจกรรมที่ทางสื่อมวลชนจะเข้าไปร่วมพัฒนาชุมชนในเขตพื้นที่ทุรกันดาร ไม่ว่าจะเป็นอาหาร แท้งก์น้ำ เครื่องปั่นไฟ โซลาร์เซลล์ และวัสดุก่อสร้างเพื่อใช้ในการบูรณะโรงเรียนและสถานที่สาธารณะในชุมชน ซึ่งล้วนมีน้ำหนักมาก
โดยฟอร์ด เรนเจอร์ ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ด้วยศักยภาพที่เหนือชั้นในการบรรทุกได้กว่า 961 กิโลกรัม และลากจูงได้สูงถึง 3,500 กิโลกรัม สำหรับรุ่นไวล์ดแทรค และรุ่นลิมิเต็ด พร้อมพื้นที่ท้ายกระบะกว้างและฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift Tailgate ช่วยลดการออกแรงและเพิ่มความสะดวกในการปิดเปิดฝาท้าย
ทำให้สื่อมวลชนจิตอาสาสามารถจัดการงานหนักได้อย่างง่ายขึ้น จากนั้นคณะจึงออกเดินทางพร้อมสัมภาระหนักต่างๆ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะและความทนทานของ ฟอร์ด เรนเจอร์ กันต่อ
ด้วยช่วงล่างที่แข็งแกร่งและโครงสร้างพิเศษที่เชื่อมต่อด้วย Ford Smart Mount ช่วยกระจายน้ำหนักไปทั่วท้ายกระบะ รวมทั้งระบบพวงมาลัยไฟฟ้าและระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว จึงช่วยให้การควบคุมรถและการทรงตัวผ่าน 1,219 โค้ง ตลอดเส้นทางกว่า 170 กิโลเมตร จากอำเภอแม่สอดไปยังอำเภออุ้มผาง เป็นไปได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย และปลอดภัย
ในวันถัดมา คณะสื่อมวลชนพร้อมออกเดินทางสู่บ้านเลตองคุ พื้นที่วัฒนธรรมพิเศษกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงลัทธิฤาษีที่มีประวัติศาสตร์นานกว่า 200 ปี ที่ยังคงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลก วิถีชีวิตของกระเหรี่ยงเลตองคุ คือการปลูกพืชสวน พืชไร่ โดยยังคงรักษาวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อแบบดั้งเดิมไว้ เช่น การห้ามตัดผม โดยผู้ชายจะมวยผมไว้ตรงกลางหัว ส่วนผู้หญิงจะมวยผมไว้ที่ท้ายทอย
ชาวเลตองคุจะไม่เลี้ยงและไม่กินเนื้อสัตว์เลี้ยงทุกชนิด เช่น หมู เป็ด ไก่ สัตว์ที่เลี้ยงเช่น ช้าง วัว และควาย จะเอาไว้ใช้งานเท่านั้น ห้ามกินเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่ มีบุญคุณ และถ้าสัตว์เหล่านี้ตายไปจะต้องทำพิธีเผาให้ด้วย ส่วนสัตว์ที่ชาว เลตองคุกินคือปลาและสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยงไว้ นอกจากนี้ยังห้ามดื่มเหล้าด้วย หมู่บ้านเลตองคุเคร่งครัดเรื่องประเพณี ความเชื่อ และมีกฎระเบียบเป็นอย่างมาก
ในการเดินทางเข้าถึงบ้านเลตองคุ ซึ่งตั้งอยู่กลางหุบเขาบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ต้องเดินทางผ่านแนวเขาทางโค้งและขึ้นลงลาดชัน ต่อด้วยเส้นทางที่แคบและขรุขระ เป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร คาราวานรถฟอร์ด เรนเจอร์ ได้ขับขี่ด้วยระบบ 4×4
พร้อมทดสอบอัตราเร่งและสมรรถนะของเครื่องยนต์และเกียร์ของรุ่นไวล์ดแทรค และรุ่นใหม่ลิมิเต็ด ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่มอบพละกำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สำหรับรุ่นไวล์ดแทรค และกำลังสูงถึง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร สำหรับรุ่นลิมิเต็ด ทำให้การเดินทางบนเส้นทางที่ยากลำบากและทุรกันดารเป็นเรื่องง่ายดาย
นอกจากนี้ ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (HDC) ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดแบบสมบุกสมบันอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์
เมื่อเดินทางถึงบ้านเลตองคุ ทัพสื่อมวลชนได้ร่วมแรงร่วมใจทำภารกิจ เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนเขตวัฒนธรรมพิเศษกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการบูรณะสะพานไม้ที่ชำรุดที่ใช้เป็นทางเข้าออกหลักระหว่างหมู่บ้านกับชุมชนภายนอก
รวมถึงร่วมแรงร่วมใจกันปรับปรุงและฟื้นฟูโรงเรียน ตชด. บ้านเลตองคุ
โดยเปลี่ยนหลังคาโรงอาหารที่ชำรุดทรุดโทรม ปรับปรุงพื้นกระเบื้องยางในห้องเรียนเพื่อให้เด็กๆเรียนหนังสือได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทาสีอาคารเรียนใหม่
ติดตั้งเสาไฟโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มแสงสว่าง ติดตั้งเครื่องกรองน้ำและแท้งก์น้ำเพื่อให้ชุมชนมีน้ำสะอาดในการอุปโภคบริโภค และปรับปรุงระบบแสงสว่างให้สุขศาลาประจำหมู่บ้าน โดยอุปกรณ์ต่างๆ ได้บรรทุกเข้ามาโดยฟอร์ด เรนเจอร์ทั้ง 10 คัน หลังเสร็จภารกิจ สื่อมวลชนได้ตั้งแคมป์พักแรม และรับประทานอาหารพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยงฤาษี พร้อมชมการแสดงพื้นบ้าน รำตง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน
วันรุ่งขึ้น สื่อมวลชนได้ออกเดินทางสู่บ้านเปิ่งเคลิ่ง สุดเขตชายแดนประเทศไทย ติดบ้านห้วยแดนทางฝั่งพม่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่สำคัญและมีประวัติความเป็นมามากว่า 100 ปี ระหว่างการเดินทาง สื่อมวลชนได้ทดสอบการขับขี่แบบต่างๆ อีกครั้งหนึ่งโดยเฉพาะการใช้ระบบ 4×4 Low พร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย อีกตัวช่วยในการขับขี่แบบออฟโรดเมื่อเผชิญกับเส้นทางโหด เป็นการปิดท้ายทริปภารกิจเพื่อชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ก่อนเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
“สมรรถนะ เทคโนโลยีการขับขี่ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายที่เหนือชั้นของฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นที่มาของภารกิจในครั้งนี้ เราทราบดีว่ายังมีผู้คนและชุมชนในเขตพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารที่ยังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก การเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ เหล่านี้ต้องอาศัยยานพาหนะที่ตอบโจทย์การขับขี่บนเส้นทางที่ยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษ บ้านเลตองคุ นี้อยู่กลางหุบเขา
การลงพื้นที่มีความท้าทายอย่างมาก ทำให้ความช่วยเหลือเข้าถึงได้ยาก แต่ด้วยศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด รวมถึงความสามารถในบรรทุกของหนักและลากจูงของฟอร์ด เรนเจอร์ ทำให้ภารกิจ ‘Mission Possible’ ในครั้งนี้เป็นไปได้และสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ตอกย้ำนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ภารกิจในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มาจากตัวรถเพียงอย่างเดียว หากคือจิตใจที่ยิ่งใหญ่ของสื่อมวลชน ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ร่วมแรงร่วมใจฟันฝ่าอุปสรรคและความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่อันห่างไกล มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กับเรา ถือว่าเป็นความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน” นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
“นอกจากนี้ เพื่อทำให้งานทุกอย่างเป็นไปได้ ฟอร์ด ประเทศไทย ยังได้เดินหน้าขยายไลน์อัพของเรนเจอร์ โดยการเปิดตัว 6 รุ่นย่อยใหม่ เกียร์ธรรมดา ทั้งรุ่น ไวล์ดแทรค รุ่น XLT รุ่น XLS และ รุ่น XL+ ใหม่ ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ มีวางจำหน่ายในประเทศไทย รวมทั้งสิ้นกว่า 26 รุ่น ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งในด้านการทำงานและการใช้ชีวิตที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความแข็งแกร่ง ทนทาน ทรหด พร้อมรองรับทุกงานหนัก” นางสาวศุภรางศุ์ กล่าวเสริม