CHAMONIX – MONT BLANC THE REAL TOP OF EUROPE

เรื่องและภาพโดย…เรื่องเล่าจากกระเป๋าเดินทาง

หากพูดถึงยอดเขามงบล็อง (Mont Blanc) คิดว่าใครๆ ก็คงได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม เพราะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป ด้วยระดับความสูงถึง 4,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาแอลป์ของประเทศฝรั่งเศส จนได้รับการขนานนามว่า The Real Top of Europe ที่ถูกเรียกอย่างนี้เพราะหลายๆ คนอาจจะเข้าใจผิดจากคำแอบอ้างใช้สมญานามว่า Top of Europe ของหลายๆ สถานที่ท่องเที่ยวในยุโรป อย่างเช่น ยอดเขายุงเฟรา (Jungfraujoch) ที่มีสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรป แต่ยอดเขายุงเฟราไม่ได้มีความสูงเท่ายอดเขามงบล็อง

เมืองชาโมนี (Chamonix) เป็นเมืองที่เปิดประตูต้อนรับนักเดินทางที่ต้องการมาชื่นชมยอดเขามงบล็อง ด้วยทำเลที่ตั้งท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขา มีสายน้ำไหลผ่านกลางเมือง มีกิจกรรมสนุกๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งกิจกรรมในฤดูหนาว อย่างการเล่นสกี สโนว์บอร์ด หรือกิจกรรมเดินเขา ปีนเขา ปั่นจักรยานในฤดูร้อน เมืองเล็กกลางหุบเขาแห่งนี้จึงมีมนตร์เสน่ห์มากมาย แม้ชาโมนีจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ไม่เคยเงียบเหงา เพราะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกือบทั้งปี มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ให้บริการครบครัน เป็นเมืองที่ทั้งน่าอยู่และน่าเที่ยว

ที่นี่เป็นเหมือนบ้านอีกหนึ่งหลังของฉันที่มีโอกาสได้แวะเวียนมาบ่อยๆ รู้สึกผูกพันและทิ้งหัวใจไว้ที่นี่ ยังแอบคิดอยู่เสมอว่า จะกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายในวัยหลังเกษียณ การเดินทางมาเมืองชาโมนีทำได้หลายทาง สำหรับคนที่เดินทางมาจากปารีส (Paris) ก็สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟความเร็วสูง (TGV) สำหรับคนที่เดินทางมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีรถบัสบริการ จากสนามบินเจนีวา (Geneva) ให้เลือกหลายบริษัท หรือจะเช่ารถขับมาก็สุดคุ้มเพราะวิวสองข้างทางและเมืองเล็กๆ ใกล้เคียงสวยงามมาก

ทุกครั้งที่ฉันมาเยือนที่นี่ กิจกรรมที่ไม่เคยพลาดคือ การไปยืนมองขุนเขาที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในยุโรปอย่างใกล้ๆ ความจริงแล้วกิจกรรมที่โด่งดังที่สุดที่นี่คือ กิจกรรมปีนเขา (Mountain Climbing) ซึ่งการปีนภูเขาหิมะที่สูงระดับโลกแบบนี้ต้องใช้ความเชี่ยวชาญอย่างสูงเพราะอันตรายมาก

หากเพียงต้องการแค่ไปยืนชื่นชมยอดเขามงบล็องก็ไม่ยากจนเกินไป จากตัวเมืองชาโมนีสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้า (Cable car) ขึ้นไปยังยอดเขาไอกุย ดู มิดิ (Aiguille du Midi) ที่ระดับความสูง 3,842 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นยอดเขามงบล็องได้ใกล้ตาที่สุด

เมื่อขึ้นไปถึงตรงนั้น เราจะรู้สึกว่าอยากหยุดเวลาไว้ ยอดเขาที่มีหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี แม้แต่ในฤดูร้อนก็ยังสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บ

ด้านบนมีจุดชมวิวหลายจุด เป็นวิวพาโนรามาที่สวยงามทั้ง 360 องศา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ เพราะอยู่ใกล้กับท้องฟ้ามาก อยากให้คนที่เรารักได้มาเห็นภาพแบบนี้กับตาด้วยกัน เพราะของจริง มันสวยงามเกินกว่าที่เลนส์จากกล้องสามารถเก็บมาฝากได้

จากจุดชมวิวบนยอดเขาไอกุย ดู มิดิ ยังสามารถมองเห็นยอดเขาเบรวอง (Brévent) เป็นสกีรีสอร์ตชื่อดังที่สวยงามอีกด้วย หากมองจากบนยอดนี้เราจะเห็นเมืองชาโมนีตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างยอดเขาไอกุย ดู มิดิและยอดเขาเบรวองนั่นเอง

หลังจากชื่นชมวิวขุนเขาและยอดเขามงบล็องจนอิ่มใจแล้ว ฉันมักที่จะเลือกเดินลงเขาแทนการนั่งกระเช้าไฟฟ้ากลับลงมาที่เมืองชาโมนีแทน โดยเลือกตั้งต้นการเดินที่สถานี Plan De L’aiguille ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนเคเบิลคาร์ระหว่างสถานี Chamonix กับสถานี Aiguille du Midi จุดนี้ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,310 เมตร เพื่อเดินลงไปยังเมืองชาโมนีที่ระดับความสูง 1,035 เมตร

ซึ่งเส้นทางนี้มีความยากอยู่ในระดับปานกลาง เพียงแค่ต้องเตรียมรองเท้าเดินเขามาให้พร้อม เพราะมีบางช่วงที่ลื่นและชันแต่รับรองว่าวิวทิวทัศน์ที่ได้เห็นนั้นคุ้มค่ากับเหงื่อที่เสียไปแน่นอน

ช่วงแรกๆ เราจะได้เห็นวิว ภูเขาหิมะแห่งแอลป์เป็นฉากหลัง มีวิวภูเขาเบรวองอยู่เบื้องหน้า และมีเมืองชาโมนีเบื้องล่างมองเห็นอยู่ไกลๆ เดินลงเขามาได้สักพักก็จะเจอจุดพักชื่อว่า Refuge Plan de L’aiguille ตั้งอยู่บนความสูง 2,207 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

นอกจากเป็นร้านอาหารและคาเฟ่บนเขาแล้ว ที่นี่ยังมีที่พักให้บริการสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักผ่อนด้วย ซึ่งทำเลดีมากๆ เหมาะกับการแวะพักรับประทานอาหารหรือจิบชา กาแฟ กับบรรยากาศที่อร่อยสุดคุ้ม

หลังจากอิ่มท้อง นอนเอนหลังพักกายให้พอหายเหนื่อยก็ออกเดินลงเขาต่อ

ช่วงที่สองนี้จะเริ่มเข้าสู่ป่าสน เส้นทางเดินเลยร่มรื่นมากขึ้น ถึงแม้จะถูกปกคลุมไปด้วยป่าสน แต่ก็มีจุดชมวิวสวยๆ ให้ได้พักสายตาอยู่เป็นระยะๆ

ใช้เวลาเดินประมาณสามชั่วโมงก็มาถึงเมืองชาโมนี นับเป็นเส้นทางเดินเขาอีกเส้นทางหนึ่งในยุโรปที่อยากแนะนำ เส้นทางสะดวก วิวสวยอลังการ

เมื่อมาอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะลองเล่น “Paragliding” ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “Parapente” หรือแปลเป็นภาษาไทยชื่อแปลกๆ แต่ตรงๆ ว่า “ร่มร่อน” เคยคิดจะลองหลายครั้งและหลายที่แล้ว แต่จังหวะและสภาพอากาศไม่เป็นใจสักที ฉันเลือกใช้บริการของบริษัททัวร์ที่มีให้เลือกมากมายในตัวเมืองชาโมนี ที่ให้เราได้มีประสบการณ์บินพร้อมกับนักบินผู้เชี่ยวชาญ

เช้าวันที่ท้องฟ้าและอากาศเป็นใจ ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความสดใสและตื่นเต้นกับประสบการณ์บินครั้งแรกของตัวเอง หลังจากนัดแนะกับบริษัททัวร์แล้ว เราก็นั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปยังสถานี Plan De L’aiguille อีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้เพื่อเดินลงเขา แต่เพื่อบินลงเขา ที่นี่เป็นจุดนัดพบกับนักบินและเป็นจุดตั้งต้นการบินด้วยร่มร่อน หลังจากทำการแนะแนวทฤษฎีการบิน นักบินสาวที่ดูทะมัดทะแมงและแข็งแรงมาก เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์การบินเรียบร้อยแล้ว เธอบอกให้ฉันออกวิ่งแรงๆ เพราะตอนเริ่มบินเราต้องผสานกำลังกันวิ่งลงเขาเพื่อออกแรงส่งให้ลอยจากพื้นสู่อากาศ

เมื่อซักซ้อมกันได้ที่แล้ว กัปตันลูบไหล่ฉันเบาๆ แล้วปลอบว่า “Just relax, you will be alright” ก่อนจะนับ 1 2 3 ให้เริ่มออกวิ่ง ณ วินาทีนั้น สมองของฉันตื้ออื้ออึงไปหมด มันหวาดๆ กลัวๆ กังวลๆ ปนเปกันบอกไม่ถูก รู้ตัวอีกทีฉันก็ลอยละล่องอยู่ในอากาศแล้ว สัมผัสได้ถึงความอิสระ ฉันค่อยๆ ผ่อนคลายกับบรรยากาศรอบๆ กายในมุมสูง

คิดในใจว่า “การบินได้เหมือนนก มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง” แล้วเราก็บินข้ามมาถึงฝั่งเขาเบรวอง ซึ่งฉันได้ลองบังคับการบินเป็นกัปตัน บังคับให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาด้วยตัวเอง สนุกดี แต่ฉันชอบนั่งสบายๆ ชมวิวเพลิดเพลินมากกว่า เราใช้เวลาอยู่บนฟ้าประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก่อนจะค่อยๆ พุ่งกลับลงมาสู่พื้นดินบนลานหญ้าห่างออกไปจากตัวเมืองชาโมนีเล็กน้อย ฉันเริ่มติดใจกับการเล่น Paragliding แล้วสิ

มีคนบอกว่าการเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจะทำให้มนุษย์เราเป็นสุข เพราะรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ เมืองกลางหุบเขาอย่างชาโมนี น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคนที่รักการผจญภัยและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันแสนงดงาม

ข้อมูลเพิ่มเติม
– รถบริการรับส่งจากสถานีรถไฟเจนีวา – เมืองชาโมนี สามารถติดต่อได้จาก www.chamexpress.com
– การเดินทางขึ้นมาบนยอดเขา Aiguille du Midi สามารถตรวจสอบตารางเวลาและค่าบริการกระเช้าไฟฟ้าได้จาก www.chamonix.com ซึ่งในช่วงฤดูร้อนจะมีเส้นทางให้เลือกหลายเส้นทางด้วยกัน

Share This Post:000