Happy Holiday with Hyundai H-1 สุขสันต์วันหยุดกับฮุนได h1
Story by Editorial Staff & Photo by Aun
สองข้างทางถนนลาดยางอย่างดี รถยนต์แล่นผ่านเรียงรายด้วยต้นไม้สีเขียวครึ้ม ยามที่เปิดหน้าต่างสายลมพัดเอากลิ่นแห่งความสดชื่นเข้ามา ในช่วงปลายฝนต้นหนาวเช่นนี้ ทัศนียภาพและธรรมชาติโดยรอบยิ่งมีความสวยงามมากขึ้นเป็นทวีคูณ ทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่ออกเดินทางมาสัมผัสความสวยงามเช่นนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางสระบุรี เขาใหญ่ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนสุดสัปดาห์ เพราะไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก สามารถเดินทางไปพักผ่อนได้เพียง 2 วัน 1 คืน หรือสัก 3 วัน 2 คืน เพื่อชาร์จพลังงานให้เต็มที่ก็ย่อมได้
สำหรับการเดินทางของเราครั้งนี้ สะดวกสบายตั้งแต่เริ่มเดินทางตั้งแต่ ก้าวเข้าสู่รถยนต์ Hyundai H-1 ที่มีการปรับโฉมใหม่ด้วยการออกแบบเบาะหนังและลายไม้แบบใหม่ ทำให้เรารู้สึกพิเศษตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปนั่ง
ส่วนผู้ขับขี่ก็แสนสบายผ่อนคลายไปตลอดการเดินทางด้วยระบบระบายอากาศสำหรับที่นั่งผู้ขับขี่ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, ระบบควบคุมการเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เริ่มต้นการเดินทางก็สุดแสนสบายแล้ว แทบอดใจไม่ไหวเลยว่า การเดินทางที่เหลือจะเป็นวันหยุดสุดแสนพิเศษขนาดไหน
สระบุรีเลี้ยวขวา
ในสมัยเรายังเด็กคงเคยคุ้นกับภาพถุงนมที่มีสัญลักษณ์เป็นวัวสีแดงเป็นอย่างดี พอๆ กับคำว่า สระบุรีเลี้ยวขวา แม้ฉันไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นสระบุรีเลี้ยวขวา แต่ฉันรู้ว่าถุงนมที่มีวัวแดงเป็นสัญลักษณ์นั้นต้นกำเนิดมาจากที่นี่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) หรือที่เรารู้จักกันดี ในนามฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค
ที่นี่กำเนิดขึ้นจากการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2503 ทรงสนพระราชหฤทัยการเลี้ยงโคนมของประเทศเดนมาร์ก
จากนั้นรัฐบาลไทยได้ลงนามความร่วมมือช่วยเหลือทางวิชาการกับรัฐบาลเดนมาร์กเมื่อ พ.ศ. 2504 และมีการจัดตั้งฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยขึ้น ปัจจุบันอ.ส.ค. เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ได้เข้าชมกัน นอกจากจะมีร้านค้าที่ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าผลิตจากนมสดแท้จำหน่ายแล้วที่นี่ยังเปิดให้เข้าชมฟาร์ม
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากใกล้ชิดและสัมผัสกับอาชีพการเลี้ยงโคนม สามารถติดต่อได้ที่หน่วยให้บริการการท่องเที่ยวฟาร์มโคนมไทยเดนมาร์ค สังเกตได้ง่ายๆ อาคารสีแดงสด มีบริการเป็นรอบๆ ตั้งแต่ 09.00, 10.00, 11.00, 13.00, 14.00 และ 15.00 น. ซึ่งภายในฟาร์มนั้นมีทั้งสวนสัตว์ สวนเกษตร สวนสมุนไพร และบริเวณอาคารจัดแสดงก็จะมีการสาธิตการรีดนม การบรรยายกระบวนการต่างๆ นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทาง อ.ส.ค. จะจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ
ในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวอีกแห่งหนึ่งจากฟาร์มโคนม เรามุ่งหน้าไปยังเขตตัวอำเภอมวกเหล็กระหว่างเส้นทางก็จะพบกับไร่องุ่นมากมาย อย่างเช่นไร่องุ่นคุณมาลี ที่มีพื้นที่กว่า 60 ไร่แม้ว่าจะดูไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็มีความร่มรื่น น่ารักของไร่ อีกทั้งผลองุ่นที่แสนหวานอร่อยก็เป็นแรงดึงดูดให้หลายคนแวะเวียนมาที่นี่
ทางไร่มีบริการวิทยากรที่จะพาคุณเข้าไปชมวิธีการขยายพันธุ์ ตัดแต่งต้นและตัดเก็บองุ่น เพื่อให้ความรู้ นอกจากนี้แล้วน้ำองุ่นและผลิตภัณฑ์จากองุ่นของที่นี่ก็ราคาย่อมเยา ไม่แพงมากนัก เหมาะสำหรับซื้อหาเป็นของฝากได้ ถัดไปติดๆ กันนั้น คือ ไร่องุ่นแวงเดอร์เรย์ (Vin De Ray) เป็นไร่องุ่นที่คัดสรรพันธุ์องุ่นสำหรับการผลิตไวน์โดยเฉพาะ ตัวไร่ใหญ่อยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
สำหรับที่มวกเหล็กแห่งนี้เป็นเสมือนตัวแทนไร่ขนาดเล็กที่อยากแนะนำให้หลายคนได้รู้จัก ภายในไร่นอกจากจะมีแปลงองุ่น ยังมีโรงบ่มไวน์อยู่ด้านหลังสำหรับผลิตไวน์ ภายใต้แบรนด์ “Vin De Ray” ไวน์คุณภาพระดับสากล ที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดไวน์แห่งชาติมาแล้ว หรือหากใครไม่สันทัดอยากจิบกาแฟ สัมผัสความร่มรื่นของธรรมชาติก็มีบริการ
ต้นไม้ สายน้ำ ดอกไม้
ความขึ้นชื่อของความเขียวสด และร่มรื่นของอุโมงค์ต้นไม้แสลงพัน บนเส้นทางมวกเหล็ก-วังม่วง เส้นทางสาย 2089 นั้นเป็นความงดงามที่เลื่องลือกันปากต่อปากว่าควรมาสัมผัสความสวยงามของแนวอุโมงค์ต้นไม้ระยะทางกว่า 200 เมตรของที่นี่
หลังจากออกจากไร่องุ่นเราก็เห็นป้ายจุดเริ่มต้นอุโมงค์ต้นไม้ พร้อมๆ กับภาพของต้นกระถินขนาดใหญ่เต็มสองข้างที่กิ่งก้านสาขาโน้มเอนเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่สวยงามกับผู้ได้พบเห็น
ถัดไปเล็กน้อยยังมีเนินพิศวง ซึ่งหากจอดรถเข้าเกียร์ว่าง จะเกิดภาพลวงตามองเห็นรถเคลื่อนตัวจากที่ต่ำไปยังที่สูง กลายเป็นหนึ่งความอัศจรรย์ของการเดินทางเส้นทางนี้ แต่ต้องขอเตือนสักนิดว่าถนนสายนี้ค่อนข้างเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว การลงถ่ายรูปควรอยู่ในความระมัดระวัง ยิ่งเวลาฝนตกด้วยยิ่งควรเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
โชคดีการเดินทางของเราครั้งนี้มียานพาหนะเป็นรถยนต์ Hyundai H-1 ที่ไม่เพียงแต่ปรับโฉมของล้ออัลลอยขนาด 16 และ 17 นิ้วให้มีดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวก็ถูกออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมนสวยงามทันสมัย แถมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าโครเมียมใหม่ แบบแนวนอน โคมไฟหน้าที่พร้อมไฟหน้าโปรเจกเตอร์เลนส์และไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่นั้นก็ส่องสว่างทำให้การขับขี่ในยามค่ำคืนและมีฝนพรำของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น
เช้าวันใหม่ เราตื่นมาสัมผัสกับความเขียวขจีของผืนป่าจังหวัดสระบุรี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภูเขาสลับกับพื้นราบ ค่อนข้างแห้งแล้ง สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าปลูกและผืนป่าที่ฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ อย่างเช่นที่บริเวณ ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ส่วนหนึ่งคือพื้นที่แปลงปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสทรงครองราชย์ครบ 50 ปี หลายคนที่เดินทางมาเที่ยวแถบนี้ก็จะรู้จักน้ำตกเจ็ดสาวน้อยดี แต่รู้ไหมว่าชื่อของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยนั้นมีที่มาจากชื่อของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของตัวน้ำตกที่มีชื่อว่า “บ้านสาวน้อย”
ครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยาน ได้พบกับน้ำตกมีจำนวน 7 ชั้น ในบริเวณดังกล่าว จึงได้ตั้งชื่อน้ำตกว่า “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” ตามชื่อของหมู่บ้านและจำนวนชั้นของน้ำตกที่ได้ค้นพบนั่นเอง น้ำตกเจ็ดสาวน้อยถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้เมืองและการเดินทางไม่ลำบากมากนัก ภาพของสายน้ำตกที่ไหลลดหลั่นไปตามชั้นธารของน้ำตก และละอองน้ำที่กระเซ็นมาปะทะใบหน้าและร่างกายถือได้ว่า เป็นยาขนานวิเศษที่เรียกความสดชื่นให้กับผู้มาเยือน เสน่ห์อย่างหนึ่งของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยคือ มีแอ่งน้ำตื้นให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นเพื่อเพิ่มพลังงานสำหรับการกลับไปเริ่มต้นทำงานได้ใหม่ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าแม้แต่วันธรรมดา น้ำตกแห่งนี้ก็ยังมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย
เช่นเดียวกันกับที่ มวกเหล็กฮิลไซด์ สถานที่ที่คิดว่าหลายคนเลือกที่จะเป็นที่พักช่วงหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้ หรือหลายหน่วยงานก็เลือกที่นี่สำหรับการจัดสัมมนาหรือกิจกรรมซึ่งมากมาย เช่น การให้อาหารแกะ
ด้วยพื้นที่ขนาดกว้างขวางตกแต่งด้วยสวนสวยในสไตล์หมู่บ้านฮอลแลนด์ ถือได้ว่าเป็นภูมิทัศน์สวยงามราวกับอยู่ต่างแดน แม้จะเป็นที่โล่งกว้างใหญ่ แต่ด้วยอยู่ท่ามกลางหุบเขาทำให้มีอากาศที่เย็นสบายมากๆ โดยเฉพาะยามเมื่อมีลมพัดผ่าน จะสดชื่นเป็นทวีคูณ ไม่สงสัยเลยว่าหลายคนแวะมาที่นี่
หากคุณขับรถทะลุไปทางด้านหลังของรีสอร์ต คุณจะพบกับสวนดอกไม้ที่ชื่อ สวนบิ๊กเต้ แหล่งเพาะปลูกดอกต้นเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดอีกที่หนึ่งของอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
ทั้งยังเปิดเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมต้นดอกเบญจมาศในสนนราคาแค่เพียงท่านละ 20 บาทเท่านั้น
หากมาช่วงเช้าแดดจะส่องกำลังดี ในขณะที่ช่วงบ่ายก็มีแดดแต่พระอาทิตย์ตกหลังเขาไปแล้ว
บริเวณแปลงดอกไม้นั้นจะมีดอกเบญจมาศหลากหลายพันธุ์และสีสันที่เบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้นไม่ว่าคุณจะท่องเที่ยวช่วงไหนที่นี่ก็มีดอกไม้ให้ดูได้ตลอดทั้งปีกันเลย
เขาใหญ่ ความสุขยิ่งใหญ่ใกล้กรุง
เขาใหญ่ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ใกล้กรุงที่ไม่ว่าเทศกาลไหน ฤดูไหนก็ยังยืนหยัดเป็นอันดับต้นๆ ของดินแดนที่มีความบริสุทธิ์สดชื่นของธรรมชาติ เป็นแหล่งชาร์จพลังงานของคนกรุงได้เป็นอย่างดี นอกจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน” แล้วเขาใหญ่ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย
ชื่นชมงานศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติ
ประติมากรรมจำนวนมากมายวางเรียงรายท่ามกลางสวนสีเขียวขจี พร้อมกับอาคารหอศิลป์ซึ่งจัดแสดงงานที่สร้างกลมกลืนกันบนพื้นที่กว่า 20 ไร่ เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของคุณพงษ์ชัย จินดาสุข นักธุรกิจผู้เป็นเจ้าของกิจการต่างๆ ในเครือจินดาสุขกรุ๊ป
ที่นี่คือ เขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมงานศิลปะที่คุณพงษ์ชัย สะสมไว้ ในตัวอาคารแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างมีห้องจัดแสดงทั้งหมด 3 ห้องหลัก
ซึ่งจัดแสดงรูปวาด งานศิลปกรรม เกี่ยวกับในหลวง รัชกาลที่ 9
ถัดมาห้องขวามือ คือห้องที่จัดงานแสดงของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ อีกห้องทางซ้าย เป็นห้องที่รวบรวมผลงานของศิลปินอีกหลายท่านไม่ว่าจะเป็น อ.ถวัลย์ ดัชนี, อ.ประเทือง เอมเจริญ, อ.ปรีชา เถาทอง, อ.ช่วง มูลพินิจ, อ.ประหยัด พงษ์ดำ เป็นต้น
เดินขึ้นบันไดไปด้านบนจะเป็นร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึกซึ่งจะมีงานศิลปะแทรกอยู่ในพื้นที่ให้เราได้ชื่นชมกัน ความพิเศษของที่นี่คือ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.
ยังมีบ้านพักในชื่อ Art Space จำนวน 6 หลัง ซึ่งสร้างขึ้นด้วยรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ที่จัดวางได้อย่างลงตัวและไม่ซ้ำกันเลยผลงานทั้งหมดได้รับการคัดสรรและจัดวางโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์ ศิลปินผู้มีชื่อเสียงนั่นเอง เราสามารถติดต่อสำรองที่พักได้กับเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ ได้เลย
สระน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยซ์
เราคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ สระสีฟ้า (Blue pond) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่ง สระมรกต (Emerald pool) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกระบี่ และเป็นหนึ่งใน Unseen ประเทศไทยมาบ้างแล้ว ภาพของน้ำที่สะท้อนออกมาเป็นสีเขียว สีฟ้า เป็นภาพที่สวยงามสะดุดตาเป็นอย่างมาก
สำหรับที่เขาใหญ่ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวคล้ายสองที่ที่กล่าวมา นั่นคือน้ำผุดธรรมชาติ บ้านท่าช้าง เป็นน้ำที่ผุดมาจากใต้ดิน สีน้ำใสสะท้อนสีเขียวอมฟ้า เป็นที่แปลกตาของนักท่องเที่ยว
ซึ่งสีเหล่านี้เกิดจากน้ำที่ผุดขึ้นมาจากผิวดินก็ได้รับการกรองจากก้อนหิน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง ทำให้น้ำมีความใสและกลายเป็นสีดังที่กล่าวนี้ ลักษณะน้ำที่มีสีเขียวนั้นมาจากคุณสมบัติความเป็นด่างของน้ำ
ดังนั้นห้ามรับประทานเป็นอันขาด ทางพื้นที่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้ ยกเว้นบริเวณที่เป็นตาน้ำจะไม่อนุญาตให้ลงเล่น โดยมีถนนทางเดินเล็กๆ เมื่อเดินเข้าไป
สังเกตเห็นได้ว่ามีคนในพื้นที่จำนวนไม่น้อยที่หลบร้อนเข้ามาพักผ่อนใต้ร่มไม้และสัมผัสกับความเย็นฉ่ำของสายน้ำที่นี่ และที่สำคัญที่นี่เข้าฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มด้านในเท่านั้น
Let’s Go Shopping
นอกจากเขาใหญ่จะมีแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ พักแรม ให้เราได้แวะเวียนไปพักผ่อนมากมายแล้ว
ที่ขาดไม่ได้ก่อนเดินทางกลับคงหนีไม่พ้นแหล่งช้อปปิ้ง สำหรับที่เขาใหญ่มีสถานที่ให้คุณได้แวะช้อปปิ้งทั้งสินค้าท้องถิ่น สินค้าแฮนด์เมด ตลอดจน แหล่งช้อปปิ้งที่เป็นเหมือนสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ มากมาย เช่น ปาลิโอ เขาใหญ่ (Palio Khao Yai)
จากชื่อเทศกาลแข่งม้าที่โด่งดังแห่งเมืองเซียน่า ประเทศอิตาลีอย่างปาลิโอ สู่สถานที่ ท่องเที่ยวและช้อปปิ้งที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ ที่ใครมาเขาใหญ่ต้องไม่พลาดที่จะไปถ่ายภาพกับผนังตึกสีเหลืองส้มแห่งนี้เป็นแน่
ยิ่งถ้าคุณมาเที่ยวในวันธรรมดายิ่งพิเศษไม่ต้องแย่งวิวกับใครเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบถ่ายรูป
ที่นี่ก็มีร้านขายของที่ระลึกแนวเก๋ไก๋ หลากหลายรูปแบบ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึกตลอดจนสินค้าท้องถิ่นอย่างเช่น องุ่นหรือไวน์ที่คุณสามารถซื้อหาเป็นของฝากให้คนที่รักได้
ในช่วงวันหยุดจะมีสตรีตมาร์เก็ตที่มีสินค้าเก๋ๆ มาจำหน่ายมากมาย อีกหนึ่งจุดสำหรับหาซื้อของถิ่นที่อยากแนะนำคือ The Birder’s Lodge Farmer’s Market
ตลาดนัดภายในโรงเรือนขนาดใหญ่คล้ายโรงนาในแถบยุโรปที่มี ไม้เลื้อยสีเขียวขจีปกคลุมอยู่
ด้านในมีร้านค้าขนาดเล็กๆ หลายๆ ร้านที่จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ผลิตผลการเกษตร ต้นไม้ดอกไม้ หรือสินค้าแปรรูปจากชุมชนเช่น สบู่ แชมพูออร์แกนิก บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ตลาดแห่งนี้จะเปิดเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลาประมาณ 10.00 – 17.00 น. ข้างๆ กันนั้นเป็นคาเฟ่สุดฮิปชื่อ The Birder’s Lodge Café มีเครื่องดื่มและอาหารให้บริการ สำหรับที่นั่งมีทั้งแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์
ไม่ไกลกันนั้นมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวคือ พรีโมเพียซซ่า (Primo Piazza) ซึ่งมีความหมายว่า ลานจัตุรัสพรีโม มีลักษณะการก่อสร้าง คล้ายกับหมู่บ้านในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี ซึ่งภายในนอกจากจะมีอาคารที่สวยงาม
มุมไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมดแล้วยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟให้บริการหลากหลายรูปแบบทั้งอาหารไทย อาหารอิตาเลียน และร้านเบเกอรี่ให้เลือกชิมกัน
แต่ถ้ามาที่มวกเหล็ก สระบุรี และเขาใหญ่ นครราชสีมาแล้ว ควรลิ้มลองสเต๊กสักมื้อ ก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเราสามารถแวะรับประทานได้ที่ แดรี่โฮม (Dairy home) ซึ่งเป็นร้านที่ขายอาหาร สเต๊ก และผลิตภัณฑ์จากวัว เช่น นม โยเกิร์ต ไอศกรีม หลากหลายรสชาติ
ในบริเวณเดียวกันมีร้าน Dairy home Farm shop จะมีของฝาก มวกเหล็ก ปากช่อง อย่างน้ำองุ่นแล้วยังมี ผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิก เช่น ผักปลอดสารพิษ ขนมปังโฮลวีต ฯลฯ ไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ (New Experience) ที่สมบูรณ์แบบในวันหยุดสุดสัปดาห์ไปกับ Hyundai H-1 อย่างพวกเราได้แล้ววันนี้