8 Sunrise & Sunset Spots
Story by Vacationist Team
หนึ่งในกิจกรรมของคนที่ตื่นเช้า คือ การออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในสถานที่ท่องเที่ยวภาพของลำแสงสีทองที่ค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้า ปลุกให้บรรยากาศรอบข้างตื่นขึ้นมารับกับวันใหม่ เป็นช่วงเวลาที่สดชื่นเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคนที่ตื่นไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นการได้นั่งมองดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวโบกมือลาลับขอบฟ้า แสงเรืองรองนั้นให้ความรู้สึกที่โรแมนติกและเงียบสงบในคราเดียวกัน เรียกได้ว่าทั้งสองช่วงเวลาเป็นช่วงที่มีมนตร์เสน่ห์และความงดงามตามแบบของตนเอง ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บนโลกนี้มีหลายสถานที่ที่พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกสวยงามน่าประทับใจจนต้องขอแนะนำสัก 8 สถานที่
GRAND CANYON แกรนด์แคนยอน สหรัฐอเมริกา
แกรนด์แคนยอน มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน (Grand Canyon National Park) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา ในตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ห่างจากลาสเวกัส (Las Vegas) 400 กิโลเมตร เราสามารถจัดการเดินทางสำหรับสองจุดนี้ด้วยกันได้แกรนด์แคนยอน ถือกำเนิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำของแม่น้ำโคโลราโดที่ไหลผ่านที่ราบสูง ประกอบกับตลอดจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นใต้เปลือกโลก การสึกกร่อนพังทลายของหิน ผ่านไปหลายล้านปีก็ถูกกัดเซาะไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นชั้นหินแบบต่างๆ ที่มีความงดงาม มีพื้นที่โดยรอบประมาณ 1,902 ตารางไมล์ (4,927 ตารางกิโลเมตร) โตรกผายาวถึง 446 กิโลเมตรกว้าง 29 กิโลเมตร บางจุดลึกถึง 1.857 กิโลเมตร ด้วยความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของแกรนด์แคนยอนแห่งนี้จึงได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในอนุรักษ์สถานของโลกตามมติของสหประชาชาติ
แกรนด์แคนยอนแบ่งเป็น 2 ส่วน ตามฝั่งแม่น้ำคือ ฝั่งเหนือ(North Rim) และฝั่งใต้ (South Rim) ที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปมากกว่าฝั่งเหนือ มีจุดชมวิวที่น่าสนใจมากมาย เช่น Skywalk Glass Bridge สะพานแก้วเกือกม้า สูง 1,200 เมตร เหนือแม่น้ำโคโลราโด มองลงไปก้นเหวด้านล่าง สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่เดินทางไปเป็นอย่างมาก หรือจุดชมวิวอย่าง Eagle Point ก็ถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกยอดฮิตของโลก ในขณะที่มาเทอร์ พอยต์(Mather Point) คุณสามารถเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและมองดูหุบเขาที่สว่างไสวไปทางทิศตะวันตกได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดในการเข้าถึงอุทยานแห่งชาติทั้งหมด เพียงขับรถของคุณไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหลักทันทีที่คุณเข้าสู่สวนสาธารณะและเดินอีกประมาณ 5 นาที มองไปทางซ้ายแล้วคุณจะเห็นโขดหินโผล่ขึ้นมา นั่นคือ Mather Point นั่นเอง มีบริการวันเดย์ทัวร์จากลาสเวกัสราคาประมาณ 3,000 บาทต่อคน (บางทัวร์จะมีพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ด้วย)
SANTORINI ซานโตรินี กรีซ
จากกรุงเทพฯ เราสามารถเดินทางไปซานโตรินี โดยการไปลงที่กรุงเอเธนส์ (Athens) เมืองหลวงของกรีซก่อนแล้วนั่งเรือหรือขึ้นเครื่องไปลงยังซานโตรินีได้ ซานโตรินีเป็นหนึ่งในสถานที่ที่แทบไม่ต้องอธิบายว่าความสวยงามของสถานที่มากมายขนาดไหน ภาพของบ้านสีขาว สีหวานพาสเทลตัดกับสีฟ้าสดใสของท้องฟ้าท้องทะเล เป็นภาพที่หลายคนนึกถึงหากพูดถึงซานโตรินี ตามทางเดินทางลัดเลาะไปยังพื้นที่ต่างๆ ของเกาะก็มีร้านอาหาร ร้านขนม ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ แกลเลอรี รวมไปถึงร้านขายของที่ระลึกแทรกตัวอยู่
นอกจากภาพของพระอาทิตย์ดวงกลมโตก็ค่อยๆ ลดระดับแล้วถูกกลืนหายไปในท้องทะเลอีเจยีน (Aegean) และแสงสีทองที่ทาทับไปกับท้องทะเล บ้านเรือนริมผา ที่ถือได้ว่าเป็นที่สุดของความสวยงามอลังการแสนพิเศษ ในยามเช้าภาพของดวงอาทิตย์วันใหม่กับอาหารมื้อเช้าพร้อมวิวท้องทะเล ก็น่าตื่นตาและประทับใจ ทำให้ที่นี่ถูกเลือกให้เป็นอีกจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นลงอีกแห่ง
STONEHENGE สโตนเฮนจ์ อังกฤษ
กลุ่มของแท่งหินซาร์เซนส์ (Sarsens) ที่สูงถึง 9 เมตรหนักถึง 30 เมตริกตัน 112 ก้อนที่ตั้งเรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง หินบางก้อนถูกตั้งขึ้น บางก้อนก็ถูกวางนอนลงโดยทับซ้อนกับหินก้อนอื่นๆ มีอายุมานานนับหลายพันปีตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่บนที่ราบซอลส์บูรี (Salisbury Plain) ในบริเวณตอนใต้ของประเทศอังกฤษที่นี่ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1986 ที่นี่มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะที่เป็นกลุ่มแท่งหินประหลาดซึ่งไม่มีใครทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างชัดเจนและเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณอายุของหินกลุ่มนี้ พบว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ 3,000–2,000 ปีก่อนคริสตกาลนู่นเลย สรุปคืออายุกว่า 5,000 ปีแล้ว
ที่นี่นอกจากจะมีความยิ่งใหญ่และความมหัศจรรย์ของสถานที่แล้ว ยังถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามอลังการ ด้วยภาพของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลอดผ่านช่องว่างระหว่างแท่งหิน เป็นภาพที่สวยงามอย่างมาก โดยเฉพาะในวันวสันตวิษุวัต ผู้คนหลั่งไหลมาเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นจากที่นี่ซึ่งเชื่อกันว่าแท่งหินเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับการบูชาพระอาทิตย์การเดินทางมาสโตนเฮนจ์ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงจากสถานี Waterloo Station ในกรุงลอนดอน ไปลงที่สถานี Salisbury Station แล้วก็ให้คุณใช้บริการของรถบัสประจำทางที่มาสโตนเฮนจ์ หรือจะใช้บริการของเเท็กซี่ก็ได้เช่นเดียวกัน สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกมีวันเดย์ทัวร์มาเหมือนกันราคาประมาณ 2,700-3,000 บาทต่อคนเป็นรถโค้ชวิ่งออกมาจากลอนดอน
ISLE OF SKYE เกาะสกาย สกอตแลนด์
เกาะสกายที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศสกอตแลนด์ซึ่งมีเกาะมากมายกว่า 790 เกาะแต่มีบางเกาะเท่านั้นที่มีผู้คนอาศัยอยู่ อย่างเกาะสกายก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกจากนี้เกาะสกายยังเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสกอตแลนด์อีกด้วย ภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อมโดยรวมเต็มไปด้วยภูเขา แอ่งน้ำ คลองบึง เกาะแก่ง หน้าผาชายทะเล ป่าไม้ตามธรรมชาติ รวมถึงเนินเขาเขียวขจีตัดกับทะเลสีครามเข้มที่สมบูรณ์สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากทิวทัศน์ทางธรรมชาติแล้วอาคารแบบโบราณรวมไปถึงป้อมปราการที่มีอยู่ทำให้เกิดความสวยงามลึกลับแปลกตา เหมือนดินแดนในเทพนิยาย อย่างเช่นที่ Dunvegan Castle & Gardens ปราสาทมีอายุเก่าแก่กว่า 170 ปี ดูขึงขึงดุดัน
สำหรับจุดพระอาทิตย์ตกที่ไม่ควรพลาด นีสต์ พอยต์(Neist Point) ตั้งอยู่บนปลายสุดด้านตะวันตกของเกาะใกล้เมือง Glendale ที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลับขอบฟ้าสาดแสงสีนวลอ่อนๆ กระทบผืนน้ำตระการตาและเข้ากันกับฉากหลังที่สวยงามเป็นที่สุด การเดินทางไปเกาะ สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ Kyle of Lochalsh ซึ่งตั้งอยู่นอกเกาะก่อนถึงสะพาน Skye ในการเดินทางจากเอดินบะระคุณต้องเปลี่ยนรถไฟอย่างน้อยหนึ่งครั้งในอินเวอร์เนสและเวลาเดินทางที่เร็วที่สุดคือ 6-7 ชั่วโมง
ANGKOR WAT นครวัด กัมพูชา
“ See Angkor and Die” ประโยคอมตะของ Arnold Joseph Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวอังกฤษเป็นผู้กล่าวไว้หลังจากที่ได้มาเยือนนครวัดน่าจะเป็นคำยืนยันความน่าสนใจของสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี นครวัดตั้งอยู่ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเสียมราฐเพียง 15 นาทีเท่านั้น
นครวัดหรือชื่อเต็มคือ มหาปราสาทบรมวิษณุโลกสร้างในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู เพื่อบูชาพระวิษณุ (พระนารายณ์) ต่อมาสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้เปลี่ยนเป็นวัดในศาสนาพุทธ นิกายมหายาน เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก(ยุคใหม่)ที่นี่ได้รับการยกย่องในด้านความงามของประติมากรรมภาพสลักฝาผนังอย่างนางอัปสร และความกลมกลืนของตัวสถาปัตยกรรมแบบศาสนาฮินดูผสมผสานกับพุทธศาสนา
ทั้งทางเดินยาว สลับซับซ้อนตัวปราสาทที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงและคุ้งน้ำ นอกจากความงดงามและความยิ่งใหญ่อลังการแล้วที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมาก มีฉากหลังเป็นนครวัดที่สวยงามควรได้ไปเห็นสักครั้งจะทำให้รู้สึกแบบเดียวกับ Arnold Joseph Toynbee ที่ว่า ในชีวิตนี้ถ้ายังไม่เคยเห็นปราสาทนครวัดของเขมรคุณยังตายไม่ได้
EASTER ISLAND เกาะอีสเตอร์ ชิลี
เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ในการปกครองของประเทศชิลี ตัวเกาะห่างจากฝั่งประเทศชิลีไปทางทิศตะวันตกกว่า 3,600 กิโลเมตร ลักษณะของเกาะมีขนาดเล็ก มีพื้นที่เพียง160 ตารางกิโลเมตร มีความยาว 25 กิโลเมตร
ความน่าสนใจของเกาะอีสเตอร์ คือรูปสลักยักษ์โมอาย (Moai) รูปสลักหินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก(UNESCO) ซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และมีส่วนศีรษะขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งกระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์กว่า 600 ตัว เชื่อว่าโมอายถูกสร้างและลงมือแกะสลักโดยชาวโพลินีเซยี นที่อาศัยอย่บู นเกาะนี้เมื่อพันกว่าปกี ่อน สรา้ งไว้เพื่อช่วยปกปักรักษาจิตวิญญาณของหัวหน้าเผ่าและหัวหน้าครอบครัวเอาไว้ ปัจจุบันสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาที่นี่ไฮไลต์นอกจากความลึกลับของโมอายคือ ภาพความงดงามที่หาชมได้ยาก ยามพระอาทิตย์ตกดินมีแสงสว่างลอดผ่านเหล่ารูปปั้นท่าทางขึงขังแต่กลับให้ความรู้สึกสวยงามและเงียบสงบที่สุดในโลก
KRUGER NATIONAL PARK อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ แอฟริกาใต้
อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ หรือชื่อเดิมคือ เขตสงวนล่าสัตว์ซาบี (Sabi Game Reserve) ตั้งอยู่ที่เมืองเคปทาวน์ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ แอฟริกาใต้ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1926 มีพื้นที่ 20,000 ตารางกิโลเมตร (7,523 สแควร์ไมล์) หรือ 12,500,000 ไร่จากจุดใต้สุดถึงจุดเหนือสุดมีระยะทางประมาณ 560 กิโลเมตร องค์การยูเนสโกประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติและเป็นอุทยานแห่งแรกที่มีกฎหมายค้มุ ครองสัตว์ป่า ที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ที่เรียกกันว่า Big Five อย่างสิงโต เสือดาว ช้าง แรด ควาย และสัตว์อื่นๆ อีกจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วยังเป็นแหล่งอาศัยถิ่นเดียวและถิ่นสุดท้ายของสิงโตขาว ซึ่งไม่ใช่สิงโตเผือก แต่เป็นสิงโตที่มีสีผิวและขนทั้งลำตัวขาวซึ่งเป็นผลมาจากพันธุกรรม
อุทยานแห่งชาติครูเกอร์เป็นหนึ่งในสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่โด่งดังที่สุดอีกแห่งของโลก ด้วยเพราะพื้นที่ของอุทยานอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้เรามีความรู้สึกว่าดวงอาทิตย์ที่นี่ดูใหญ่กว่าปกติ อีกทั้งความกว้างขวางของพื้นที่มองออกไปแบบไม่มีขอบฟ้าที่เป็นจุดอ้างอิงยิ่งทำให้เห็นถึงดวงอาทิตย์กลมโตมีสีส้มแดงได้ชัดเจนขึ้น
ULURU โขดหินอูลูรู ออสเตรเลีย
โขดหินอูลูรู หรือโขดหินแอร์ส (Ayers Rock) ตั้งอยู่ใจกลางของอุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทา เป็นอุทยานที่มีความพิเศษทางธรณีวิทยาที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางที่ราบทรายแดงแห้งแล้งอันกว้างใหญ่ไพศาลของออสเตรเลียตอนกลาง ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (Unesco) ในปี 1987
โขดหินนี้ ได้กำเนิดเกิดขึ้นมากว่า 600 ล้านปีมาแล้ว โดยเชื่อว่าเคยจมอยู่ใต้ทะเลมาก่อน จึงเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างยิ่งว่าภูเขาลูกนี้จะมีความสูงถึง 348 เมตรจากผืนดินในทุกๆ เช้าจะเป็นเวลาที่ธรรมชาติแสดงแสงสี โดยในทุกๆ วัน แสงแรกของวันจะทาบลงบนโขดหินและสะท้อนแสงที่เปี่ยมไปด้วยสีสันตระการตาในยามพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนในช่วงเย็นก็สวยงามไม่แพ้กัน โขดหินที่เป็นสีแดงอมทองตัดกับผืนฟ้าที่กำลังแปรเป็นความมืด โดยสีสันของโขดหินจะเปลี่ยนไปตามเวลาของแต่ละวัน จากสีชมพูกลายเป็นสีแดงเลือดในตอนกลางวัน พอช่วงเย็นก็จะกลายเป็นสีม่วงซีด สำหรับใครที่สนใจไปดูบรรยากาศความสวยงาม มีราคาทัวร์ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก
จริงๆ แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอีกหลายแห่ง แต่ครั้งนี้เราเลือกแบบที่อิงธรรมชาติมาก่อน และไม่ว่าตอนนี้คุณจะอยู่ในช่วงคล้ายพระอาทิตย์กำลังขึ้นหรือพระอาทิตย์กำลังตกก็ตาม ก็ขอให้มีความสุขกับช่วงเวลาที่ดี หรือพ้นผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้เป็นวันใหม่ๆ ในทุกวัน